By: nismod 
on 12 May 2016 - 13:10
Tags:
Topics:
Jared Overton เจ้าของรถ Tesla Model S ในรัฐ Utah ของสหรัฐฯ ออกมาเรียกร้องให้ Tesla หาสาเหตุและรับผิดชอบกรณีรถ Model S ของเขาขับไปขนกับท้ายรถพ่วงที่จอดอยู่ ขณะที่หลังตรวจสอบบันทึกข้อมูล (log) ของตัวรถแล้วก็พบว่า โหมด Summon ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้รถเข้าและออกโรงรถด้วยตัวเองถูกเปิดเอาไว้อยู่ ซึ่งทางเจ้าของรถก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เปิด และทาง Tesla ระบุว่าตัวผู้ใช้ ไม่ได้ใส่ใจและระมัดระวังสภาพแวดล้อมให้กับรถ ขณะเปิดให้โหมด Summon นี้
ผู้จัดการฝ่ายบริการของ Tesla ชี้แจงว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ เกิดจากการที่เจ้าของรถ ไม่จัดการสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับการใช้งานโหมด Summon เนื่องจากตัวรถ อาจไม่สามารถตรวจจับวัตถุที่มีขนาดเล็กหรือทรงแคบอย่างมอเตอร์ไซค์ รวมไปถึงวัตถุที่ห้อยลงมาจากเพดาน ขณะที่เจ้าของรถเองก้อ้างว่า เขาไม่ได้เปิดโหมดนี้ แต่ถึงแม้เขาจะเปิดโหมด Summon โดยไม่ได้ตั้งใจ แต่อุบัติเหตุเช่นนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้น
ที่มา - The Verge
คลิปจาก Tesla
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
รู้สึกทาง Tesla เอาข้อมูลที่บันทึกในรถมา ถ้า log ไม่โดนแก้ไข ดูเหมือนว่าผู้ใช้ตั้งใจใช้ฟีเจอร์นี้จริงๆ แล้วก็มีโอกาสมากมายที่จะหยุด แต่ก็ไม่ (และดันไปใช้ที่ริมถนน)
ไม่มีทางเลย ที่เกิดความผิดพลาด แล้วลูกค้าจะยอมรับว่าตัวเองทำ
ขนาดมีหลักฐาน Log file แล้วยังแถ
ยังไม่พอ ยังดิ้นต่ออีกว่า ต่อให้ตัวเองเปิดใช้ ระบบก็ไม่ควรเกิดอุบัติเหตุ
function เยอะ เรื่องเยอะ
ปัญหาของเครื่องจักรคือ มันจะไม่รู้ตัวเองจนกว่าจะ error แล้ว
อะไรที่เกี่ยวกับชีวิตจะพยามใช้ระบบธรรมดาให้มากที่สุดดีที่สุด
ยกเว้นพัฒนาจนเข้าที่แล้ว
คนก็ปัญหาเดียวกันครับ ยิ่งเมาหนักๆนี่รู้ตัวตอนเช้าเลยมั้ง
ก็เป็นไปตามประโยคสุดท้ายครับ ตอนนี้มันเพิ่งเริ่มต้น แต่บางทีเอามารีบใช้เร็วๆก็มีข้อดีนะ คือพอมีปัญหาให้พบจะตามแก้ได้เร็ว ไม่งั้นผู้พัฒนาก็ต้องไล่เดาปัญหาซึ่งจะใช้เวลามากกว่ามากๆ ก็ต้องระวังในการใช้ช่วงแรกๆเอา
ไปฝืนกดรึเปล่า เพราะเคยเห็นคนเทสเอาเด็กไปยืนเอาถังขยะไปวาง เอาของเตี้ย ๆ ไปวางไม่ก็ไปยืนขวางจ่อ ๆ แล้วกด summon รถก็ยังไม่ขยับเลย
นี่ถ้า Tesla สามารถหา Log ได้ว่าก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนั้น มันปิดอยู่จริงนี่ ลูกค้าผู้น่ารักน่าจะโดนไปหลายอยู่นะ
รถเดี๋ยวนี้ก็มีกล้องหลังกันแล้ว จะให้มันแอบบันทึกไว้เป็น log โดยที่เจ้าของรถไม่รู้ตัว ก็คงไม่ใช่เรื่องยากนะ
ทีนี้ก็จะกลายเป็นว่าโดนฟ้องข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัวเพิ่มเข้าไปอีก
Tesla ไม่น่าจะมี log ครับ
แต่น่าจะรอดตัวอยู่เพราะ EULA
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตามเข้าไปอ่านดูครับ Tesla มี log ครับค่อนข้างละเอียดด้วย
เดี๋ยวสิ ถ้าท้ายรถบรรทุกขนาดนี้ยังตรวจจับไม่ได้ (ไม่ใช่เล็กๆด้วยนะ) แบบนี้ autopilot จะใช้งานจริงได้เรอะ วิ่งๆไปจะไปเสยท้ายรถบรรทุกเอาสิเนี่ย
ท้ายรถบรรทุกอยู่สูงจากพื้นเป็นเมตรเลยนะครับ
แล้วไงอะครับ เวลาวิ่งปกติไม่ต้องระวังของที่สูงไม่เกินหลังคารถเหรอ?
โหมดนี้เค้าไว้ใช้จอดในโรงรถครับ ไม่ใช่เอามาวิ่งปกติ โปรดอ่านมากกว่าหัวข้อข่าว และถ้าไม่เข้าใจ โปรดดูวีดีโอประกอป
เวลาคุณถอยรถจากโรงรถ แล้วมีรถพ่วงจอดอยู่ คุณถอยชน?
แปลว่า เรามีโอกาสมุดสิบล้อได้ตลอดเวลาหรอครับ ถ้ามันตรวจไม่ได้เนี่ย
แปลว่า ถ้าจะใช้โหมดนี้ก็ให้ดูดี ๆ ก่อนครับ ว่าจะไปถอยชนอะไรมั้ย อย่าให้มีอะไรที่มันสูงเกะกะรถ
เพราะโหมดนี้ไว้ใช้จอดในโรงรถครับ ไม่ใช่ข้างทางที่จะมีสิบล้อโผล่มา(ตลอดเวลา) อย่าใช้งานผิดประเภทครับ
ผมว่า Tesla ผิดครับ เพราะถ้ามันชนท้ายรถพ่วงได้แปลว่าต่อให้ใช้ในที่จอดรถก็คงชนโรงจอดรถพังแน่นอน
เกิดอุบัติเหตุแบบนี้แหละดีแล้วจะได้รู้ปัญหา รถมีประกันก็สามารถเคลมได้อยู่ไแล้ว
เหมือน S-Klass สมัยที่ใส่ระบบ Active Radar ลงไปใน S600
ที่มันเบรกเองได้ ถ้ามีอะไรไปขวางนะครับ ทำระบบเสร็จเรียกหนังสือ Auto Magazines
มาทดสอบอย่างดี ดันลืมกดปุ่มเปิดระบบ เหยียบตูมไป ชนท้ายเลย เศร้าเลย
อ่านเม้นดูแล้ว เห็นเลยว่าหลายคนเม้นจากแค่หัวข้อข่าว
ยังไ หรอครับ ผมว่าเม้นก็ปรกติดี
ขับไปขน => ขับไปชน
ก้ => ก็