Apple

Chris Burns หัวหน้าบรรณาธิการเว็บไซต์ข่าวไอที SlashGear ออกมาแสดงความเห็นผ่านข้อเขียนของเขาล่าสุดในเว็บไซต์ว่า Apple ควรเอาอย่างแนวทางของ Chrome OS ของ Google ที่ทำให้แอพจากฝั่งอุปกรณ์พกพา ขึ้นมาทำงานได้อยู่ในระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งในกรณีของ Apple คือการนำเอาแอพจากฝั่ง iOS ขึ้นมารันอยู่บน OS X นั่นเอง

Burns ระบุว่า การมาของ iPad Pro ทำให้ Apple ตระหนักได้ว่าต้องรองรับการใช้สองแอพพร้อมกับผ่านคุณสมบัติการแบ่งหน้าจอ (split screen) ซึ่งทำให้แอพ iOS หลายตัว สามารถปรับขนาดที่เหมาะสมให้เหมือนกับหน้าตาแบบต่างๆ ได้ และนั่นทำให้เมื่อหากเอามารันบน OS X แบบ native มันก็จะสามารถทำงานแบบหน้าต่างได้โดยไม่ติดปัญหาอะไร

อย่างไรก็ตาม Burns ระบุว่าความท้าทายคือการต้องเปลี่ยนแนวทางการทำงานของการสัมผัส (touch) บนอุปกรณ์อย่าง MacBook ใหม่ รวมไปถึงการควบคุมความสามารถในระดับอุปกรณ์ (hardware) ซึ่ง Apple มีความสามารถเพียงพอที่จะทำ และหากกลัวว่าประสบการณ์จะแย่ ก็คัดเลือกแอพจำนวนหนึ่งให้มาอยู่บน OS X ก่อนก็ได้ เขามองว่าทั้งหมดนี้ Apple แทบจะไม่ต้องมีอะไรเสียเลยด้วยซ้ำ

ที่มา - SlashGear

Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ

CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's company cover
CP AXTRA Public Company Limited - Lotus's
CP AXTRA Lotus's is revolutionizing the retail industry as a Retail Tech company.
KKP Dime company cover
KKP Dime
KKP Dime บริษัทในเครือเกียรตินาคินภัทร
Gofive company cover
Gofive
“We create world-class software experience”

ครับ หลายคนลืมไปว่า ios เป็น arm ส่วน mac เป็น x64 จะไช้งานข้ามระบบต้องผ่าน emulator ซึ่งไม่ง่าย, มีค่าไช้จ่ายด้าน license และ อาจกินยอดขายของตัวเอง

จริงๆแล้ว ทุกอย่างจบที่คอมไพล์เลอร์ครับ

ปรกติ xCode ก็จะคอมไพล์ หลาย architecture ในครั้งเดียวอยู่แล้วครับ
ตรงนี้ไม่มีปัญหาครับ

รวมถึง iPhone รุ่นเก่า กับรุ่นใหม่ ก็คนละ architecture ด้วย แต่ Apple ก็แก้ไขที่คอมไพล์เลอร์ เช่นเดียวกันครับ
ตรงนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยไม่ต้องทำอะไรมาก ดูง่ายๆเวลาเราเขียนด้วย Swift ยังคอมไพล์เป็น mac ได้ แถมเป็น iOS ได้อีก

ตรงนี้ไม่น่าใช่ปัญหาหลัก

ทำมาครึ่งๆ กลางๆ เนี้ยนะ ให้เอาเฉพาะแอพที่พร้อมมาก่อนมันคุ้มไหมนะ ถ้ามันไม่เวิร์กเสียเวลาเปล่าๆ

ผมว่า MS นำ Google ในแง่ของ "write once, run anywhere" ไปแล้วหน่อยนึงครับ เพราะตอนนี้ MS ยุบ OS เหลือแค่ Windows 10 แล้ว (7 8 อยู่ในช่วง extended support ไปแล้ว ส่วน 8.1 ยังอยู่ใน mainstream support แต่ไม่น่าจะได้ความสามารถใหม่ๆ เท่ากับที่ Windows 10 ได้) ส่วน Google ยังมี 2 OS แต่อนาคตน่าจะเหลือแค่ตัวเดียว ซึ่งน่าจะเป็น Android ครับ

UWP ในยุคปัจจุบันไม่ใช่ write once run anywhere นะครับ ดูเหมือนว่า Microsoft อยากให้คนคิดแบบนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ครับ แต่ละอุปกรณ์จะรองรับ API set ต่างกันครับ มีแค่ API หลักส่วนนึง(core API) ที่จะมีเหมือนกันในแต่ละอุปกรณ์ครับ

ถ้าบอกแบบนั้นก็ไม่ใคร run awaywhere แล้ว ครับ เพราะ JVM แต่ละเวอร์ชั่สก็มี API ไม่เท่ากันครับยังไม่ต้องแอนดรอยด์เลยครับ รัน anywhere น่าจะต้องมองว่าทุกเพลตฟอร์มรองรับภาษานั้นครับไม่ใช่ API เท่ากันหรือเปล่า

อันนี้คุณไม่เข้าใจเองครับว่า API extension set ของแต่ละ device มันต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ไม่ใช่แค่เรื่อง backward compact. หรือ version change

ยกตัวอย่างง่ายๆกับข่าวนี้ และอีกหลายๆข่าวครับ ลองพิจารณาดูเองว่าทำไมแอพที่ทำมาบางแอพก็รับรองแค่ W10 บางแอพก็รับรองแค่ W10m และไม่มีเลยที่จะมีแอพไหนที่รองรับทั้ง W10 และ W10m พร้อมกัน (พร้อมในที่นี้หมายถึงณ เวลาเดียวกัน ไม่ใช่เอาไป rewrite code ใหม่แล้วเอามาลงทีหลังนะครับ)

john dick Thu, 05/26/2016 - 05:35

Mac OS มันทำได้ทุกอย่างครบดีแล้ว จะเอาแอพ iOS มาใช้บนนี้อีกทำไม

ส่วนตัวคิดว่าพัฒนาระบบแยกกัน ระยะยาวมันจะจัดการได้ดีกว่า

errin Thu, 05/26/2016 - 09:55

In reply to by john dick

ไม่จริงอะครับ ขอเถียงเลย

เอาง่ายๆอย่างผมจะดูกล้องวงจรปิด Yi Camera ทั้งๆที่ผมอยู่หน้าเครื่อง Mac ก็ดูไม่ได้ต้องเปิดแอปใน iPhone ขึ้นมาดูอยู่ดี

อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะครับ ยังมีอีกหลายๆกรณีที่จะดีกว่านี้ถ้าเป็นไปตามข่าว

sukjai Thu, 05/26/2016 - 06:38

user ส่วนใหญ่ก็มองอย่างนั้นแหละผมว่า ส่วน pg อย่างผมอยากบอกว่ารู้ไหมว่ามันยากและต้องใช้เวลา

บอกตรงๆ นึกไม่ออกว่ามีแอพส์ iOS ตัวไหนที่อยากเอามาวิ่งบน Mac กลับกันผมอยากให้แอพส์บน OSX บางตัวไปวิ่งบน iPhone มากกว่า

สิ่งที่อยากให้ทำได้มากที่สุดตอนนี้คือ ทำให้ iPhone 6+ ทำงานสองแอพส์พร้อมกันได้ไม๊ ผมว่าหน้าจอมันใหญ่พอสมควรนะ บางทีก็อยากใช้เครื่องคิดเลขพร้อมกับปฏิทินหรือ Notes หรือแอพส์อื่นๆ แค่นี้ก็ทำไม่ได้ สมัย PalmOS 3.x ยังทำได้เลย (แต่เป็น popup ทับอยู่บนแอพส์อื่นอีกที)

hydrojen Fri, 05/27/2016 - 12:09

ถ้าจอ mac ยังไม่เป็นทัสกรีนก็ไม่ค่อยน่าใช้เท่าไหร่ สำหรับการเอาแอพiosขึ้นosx

Apple
public://topics-images/apple_webp.png
SCB10X
public://topics-images/347823389_774095087711602_515970870797767330_n_webp.png
Windows 11
public://topics-images/hero-bloom-logo.jpg
Doom
public://topics-images/doom_logo.png
Huawei
public://topics-images/huawei_standard_logo.svg_.png
Threads
public://topics-images/threads-app-logo.svg_.png
Google Keep
public://topics-images/google_keep_2020_logo.svg_.png
Fortnite
public://topics-images/fortnitelogo.svg_.png
Instagram
public://topics-images/instagram_logo_2022.svg_.png
SCB
public://topics-images/9crhwyxv_400x400.jpg
Microsoft
public://topics-images/microsoft_logo.svg_.png
Basecamp
public://topics-images/bwpepdi0_400x400.jpg
Tinder
public://topics-images/hwizi8ny_400x400.jpg
FTC
public://topics-images/seal_of_the_united_states_federal_trade_commission.svg_.png
Pinterest
public://topics-images/pinterest.png
Palantir
public://topics-images/-nzsuc6w_400x400.png
Gemini
public://topics-images/google_gemini_logo.svg__0.png
AIS Business
public://topics-images/logo-business-2021-1.png
PostgreSQL
public://topics-images/images.png
JetBrains
public://topics-images/icx8y2ta_400x400.png
Krungthai
public://topics-images/aam1jxs6_400x400.jpg
Palworld
public://topics-images/mccyhcqf_400x400.jpg
Bill Gates
public://topics-images/bill_gates-september_2024.jpg
VMware
public://topics-images/1nj4i1gp_400x400.jpg
Take-Two Interactive
public://topics-images/0khle7nh_400x400.jpg
OpenAI
public://topics-images/ztsar0jw_400x400.jpg
Thailand
public://topics-images/flag_of_thailand.svg_.png
NVIDIA
public://topics-images/srvczsfq_400x400.jpg
ServiceNow
public://topics-images/ytnrfphe_400x400.png
PS5
public://topics-images/playstation_5_logo_and_wordmark.svg_.png
Klarna
public://topics-images/urcllpjp_400x400.png
Google Play
public://topics-images/play.png
Drupal
public://topics-images/drupal.png
Virtua Fighter
public://topics-images/virtua_figther_2024_logo.png