หลังจากที่ไมโครซอฟท์ออกผลการทดสอบการใช้พลังงานของเบราว์เซอร์หลักอย่าง Microsoft Edge, Google Chrome, Mozilla Firefox และ Opera ซึ่งในผลการทดสอบออกมาว่า Microsoft Edge ชนะ
Opera เผยว่า ไมโครซอฟท์ไม่ได้บอกระเบียบวิธีในการทดสอบ ทำให้การทดสอบอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
ในส่วนของผลการทดสอบบน Lenovo Yoga 500 หน้าจอ 14 นิ้ว, หน่วยประมวลผล Intel Core i3 5005U, แรม 4 GB, พื้นที่เก็บข้อมูล 500 GB, ระบบปฏิบัติการ Windows 10, เปิดไฟ backlight ไว้ที่ 100% ปิดการทำงานเบื้องหลังทุกอย่าง
ทดสอบด้วยวิธีการ ดังนี้
ผลการทดสอบออกมาว่า Opera เวอร์ชัน 39.0.2248.0 เปิดฟีเจอร์ปิดกั้นโฆษณาและประหยัดพลังงาน สามารถใช้งานได้นานกว่า Microsoft Edge เวอร์ชัน 25.10586.0.0 เป็นจำนวน 22% และมากกว่า Google Chrome เวอร์ชัน 51.0.2704.103 ถึง 35%
ที่มา - Opera blogs
Comments
เอาจริง ๆ มันดูไม่ค่อยแฟร์เท่าไรนะที่เอาตัว Ad Block มาใช้ร่วมกับโหมดประหยัดพลังงานด้วย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
+1 ตอนอ่านข่าวผมก็คิดแบบนี้เหมือนกันครับ
เปิด Ad block แล้วขยะหายเพียบ
@Microsoft Edge web platform engineer. Ex @Opera บอกว่า...
เอาจริงๆ มันก็เป็นฟีเจอร์ของเค้าแหละครับ ในเมื่อเค้าประหยัดได้มากกว่าในเวลาที่ต้องการก็ยอมไปแหละ :p
แต่เอาจริงๆ นะ โหมดประหยัดพลังงาน Opera เนี่ย ขัดใจมากครับ คือมันพยายามจะทำให้การเลื่อนจอมันไหลลื่นไม่ไปทีละวูบ แต่มันก็ลดเฟรมเรตลงจน ดึ๊กๆๆๆๆ เลย
เห็น Windows Central บอกว่าเวลาเปิดดูวิดีโอนี่ลดคุณภาพลงด้วยนะ
ผลทดสอบดี แต่คุณภาพและประสบการณ์ใช้งานไม่ดี แบบนี้ไม่ไหวคับ ต้องทำให้ทั้งสองอย่างนี้โอเคถึงจะถือว่าผ่านการทดสอบอย่างใสสะอาด
อ้าว ถ้าเปิดเว็บที่ไม่มี Ad ผลจะเป็นยังไง (สรุปคือทดสอบใต้เงื่อนไขที่ตัวเองได้เปรียบ ซึ่งในชีวิตจริงก็คงจะจริงสำหรับผู้ใช้กลุ่มหนึ่งเท่านั้น)
ตลก Chrome ได้ใกล้ๆกับ Edge ผมว่าตลกมาก
ผมใช้ Chrome อยู่ มันไม่ได้ใกล้เลยนะ
มันห่วยตามที่ของไมโครซอฟท์โชว์นั่นแหละ
ปล.ผมมีAdblock
ใช้เวลาอ่านหลายรอบมากกว่าจะเข้าใจ
นี่คือจะบอกว่า Opera ห่วยจริงๆ ตามที่ไมโครซอฟท์โชว์ เพราะทดสอบจริงๆ Chrome ไม่ควรได้ใกล้เคียงกับ Edge ขนาดนั้นใช่มั้ยครับ?
ป.ล. Adblock ที่ว่านี่ลงกับตัวไหนครับ? (คือตอนนี้มันลงได้กับทุกตัวในข่าวแล้วเลขถามเอาชัวร์นิดนึง) แต่เอาเข้าจริง Adblock นี่อาจจะเป็นตัวกินแบตก็ได้นะครับ
adblock ช้าเพราะ database ครับ แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะกินไฟน้อยกว่า load / render ad ทั้งหมดอยู่ดี
ในงานทดสอบของ ms ผลการทดสอบของ opera ก็โดนเอาออกในบางรายการ แถมรายละเอียดการทดสอบก็ไม่ชัดเจน
ของ opera ก็อาจจะโกงเรื่องเปิด ad filter ที่ไม่ใด้เปิดเป็นค่าเริ่มต้นเช่นกัน
ผมว่าการทดสอบโดย ms / opera เชื่อไม่ใด้ทั้งคู่
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ผลทดสอบ Opera โดนเอาออกในรายการที่สอง ผมเชื่อส่วนตัว (ก็ คงอคติด้วยส่วนนึง) ว่าคนใช้น้อย ผลตัวอย่างที่เก็บได้มันน้อยมากจนเอาค่าไปประเมินได้ยากครับ เพราะค่าที่เก็บแบบหว่านแหขนาดนี้ต้องมีตัวอย่างมากระดับนึงถึงจะประเมินอะไรต่อมิอะไรได้
มันเป็นโฆษณาน่ะครับ อย่าคิดมากเลย
Extension ของ Chrome นั้น 1 ตัว 1 Process ดังนั้นหากติดตั้ง adblock ลงไป ยังไงก็กินไฟมากกว่าแน่นอนครับ ในขณะที่ของ Opera มัน built-in มาในเบราเซอร์เลย
ไม่สน เพราะไม่ได้ใช้ Opera แล้ว
ใช้แต่operaเป็นหลักเลย โดยส่วนตัวชอบมาก โดยเฉพาะฟรีVPN
ไม่แคร์เรื่องประหยัดพลังงานแระ เพราะแบตมือถือ 5000 มิลลิแอมป์ อิอิ
เอาจิงๆมันก็ไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญอะไรมากหรอก ชีวิตทำไมต้องใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆขนาดนี้ด้วยหว่า
เอาเวลาไปดูแอพที่ชอบรันแบ็คกราวเยอะๆมันยังสูบแบตมากก่าอีก
แบต notebook มันมีจำกัดกว่านะครับ แถมมันทำงานพร้อมๆ กันได้หลายๆ งานไม่เหมือนอุปกรณ์ Mobile ที่ถ้างานไม่รันด้านหน้าบางทีก็หยุดทำงานเองได้ ประหยัด กว่า
โน้ตบุ๊คนี่แทบจะเปิดเบราว์เซอร์ค้างกันตลอดเวลานะครับ เป็นแอปที่กินแบตมากที่สุดแล้ว กระทั่งในมือถือผมก็เบราว์เซอร์นี่แหละที่เปลืองแบตเกือบที่สุด
ถ้าแอปทุกตัวทำ เล็กๆ น้อยๆ ที่ว่ารวมกันมันจะไม่น้อยครับ
1-2 เดือนหลังมานีใช้ Opera เป็นหลัก Chrome เป็นรอง ส่วน Edge นั้นแทบไม่ได้เปิดเลย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ
Writer no.59 เพื่อสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้
เปิดพร้อมกันหลายๆ tab กินพอกันครับ CPU พุ่งปรี๊ด
ที่เทสแล้วประหยัดขนาดนี้ไม่รู้ว่าไปเทส hello world รึเปล่า
มายืนยันอีกคน ส่วนตัวใช้ opera แล้วพัดลมเงียบมากครับ มีดังขึ้นมาแพพๆ เดียวแล้วหายไป
browser ตัวอื่นพัดลมดังขึ้น และดังนานกว่า กราฟ cpu พุ่งชัดเจน
ปล. ผมใช้ OS X 10.10
WE ARE THE 99%
เสริมแบบนี้นิดนึง ถ้าหากตอนที่พัดลมหมุนดังเป็นตอนที่ดู youtube ด้วยนี่มันมีเหตุผลครับ คือ youtube ช่วงหลังมานี้ (น่าจะสักปีนึงมาแล้ว) ใช้ code video เป็น vp9 แทน H.264 ในบางวิดีโอและบางความละเอียด (โดยเฉพาะพวก 60fps) ซึ่งถ้าไปเปิดบนเครื่องที่ GPU ไม่มี vp9 hardware decode แล้วมันจะใช้ CPU แทน ซึ่งใช้หนักกว่ากันเยอะเลย (i7 4790K ทำงานที่ 40-60% เลย) ทีนี้บาง browser ที่ไม่รองรับ vp9 youtube ไม่มีทางเลือกนอกจากส่ง H.264 ให้ ก็เลยทำให้ไม่ใช้ CPU หนักมากแล้วพัดลมก็ไม่หมุนเสียงดังด้วยครับ
**พอดีไม่มี opera ในเครื่องเลยไม่ได้ลองเหมือนกันว่า opera รองรับ vp9 ด้วยรึเปล่า แต่ถือว่าเป็นข้อมูลเสริมการพิจารณาด้วยละกันครับ
Opera รองรับ VP9 ครับ (จาก Chromium)
สองเดือนมานี้ ก็ลองใช้ Opera เป็นหลักนะครัช :D
รู้สึกมีความสุขกว่า chrome
ทั้ง win และ mac เบย