ตลาดสมาร์ททีวีจอใหญ่ภาพคมชัด มีหลายแบรนด์ที่ออกสินค้ามาแข่งขันกันอย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะสมาร์ททีวีคุณภาพระดับ 4K ที่ให้สีสันและความละเอียดมากกว่าทีวี HD ทั่วไป และยังมีบริการ content on demand เปลี่ยนพฤติกรรมการดูทีวีที่ต้องกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ เป็นกดครั้งเดียว ก็ได้ดูเนื้อหารายการที่เราต้องการมากที่สุด
Sony Bravia X85D 4K HDR เป็นสมาร์ททีวีตระกูล X รุ่นล่าสุดของ Sony มี 2 ขนาดให้เลือกคือ คือ 55 และ 65 นิ้ว (รุ่นที่รีวิวคือ 65 นิ้ว) จุดแข็งคือ คุณภาพ 4K HDR ที่นอกจากจะคมชัดแล้ว ยังขับแสงสีที่ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยีการแสดงภาพแบบ HDR และระบบปฏิบัติการ Android TV ที่เข้าถึงคอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงมากมาย
สมาร์ททีวีทุกวันนี้คุณภาพดีอย่างเดียวไม่ดึงดูดลูกค้าให้ซื้อ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกก็สำคัญไม่แพ้กัน จะเห็นได้จากสมาร์ททีวีแบรนด์ใหญ่มักชูเรื่องดีไซน์เพรียวบาง
Sony Bravia X85D บางประมาณ 11 มิลลิเมตร ออกแบบเป็นเลเยอร์ 2 ชั้น เทียบขนาดของจริงแล้วหนากว่าดินสอแท่งบางนิดเดียวเท่านั้น ตัววัสดุเป็นอะลูมิเนียม ไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย
Sony Bravia X85D สามารถตั้งบนขาตั้ง และแขวนบนผนังได้ตามความชอบของผู้ใช้ ในส่วนขาตั้งเป็นแผงด้านหน้าเพรียวบางเรียวเข้าด้านใน ส่วนด้านหลังเป็นแผ่นใหญ่แข็งแรงให้ทีวีไม่ส่ายไปส่ายมา และสามารถจัดการสายเคเบิลให้อยู่ภายในแท่นวางได้ ไม่ระเกะระกะ
ส่วนประกอบด้านหลังอยู่ตรงซ้ายมือของทีวี มีช่องเชื่อมต่อมากมาย
Sony Bravia X85D ใช้ชิปประมวลผล 4K X1 Processor ใช้อัลกอริธึมในการตัดสัญญาณรบกวนและเพิ่มรายละเอียด ทำงานร่วมกับ 4K X-Reality PRO ผลิตภาพที่คมชัด สดใส มีระบบหาเฉดสี-ความสว่างที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละพิกเซล หน้าจอความละเอียด 3840x2160 พิกเซล พร้อมทั้ง Motionflow XR จัดการลำดับภาพที่เคลื่อนไหวเร็ว จอแสดงผล TRILUMINOS
ในขณะที่ความคมชัดเพิ่มขึ้น เทคโนโลยี HDR หรือ High Dynamic Range เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามารองรับสัญญาณภาพระดับ HDR โดยภาพระดับ HDR จะเข้ามาทำให้การแสดงผลแต่ละพิกเซลดีขึ้น ให้สีดำที่ดำสนิท ส่วนสีสันอื่นสดขึ้น และส่วนภาพที่มีความสว่างและความมืดจะถูกขับให้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ตัวทีวียังมีเทคโนโลยีที่กล่าวมาข้างต้นที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของภาพที่ไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหนให้ใกล้เคียงกับระดับ 4K HDR มากที่สุดอีกด้วย
เมื่อนำเทคโนโลยี 4K กับ HDR มารวมกันจะได้ภาพที่เหนือชั้นกว่าทีวี Full HD แบบเดิมมาก
เปรียบเทียบภาพ SDR (ซ้าย) และ 4K HDR (ขวา)
วิดีโออธิบายการทำงาน 4K HDR จาก Sony
ระบบปฏิบัติการ Android TV เปิดตัวในงาน Google I/O ปี 2014 สร้างความฮือฮาไม่น้อย จนกระทั่งตอนนี้มีทีวีหลายแบรนด์ที่นำระบบปฏิบัติการนี้มาใช้ ซึ่งรวมถึง Sony ที่เป็นแกนหลักสำคัญในการสนับสนุนระบบปฏิบัติการตัวนี้
Android TV มีแถบหน้าจอหลัก 5 แถบ แถบแรกเป็นคอนเทนต์เด่น หรือ คอนเทนต์ที่เคยเปิดเล่นค้างไว้ เช่น ถ้าเราเปิดเพลงจากยูทูบ แล้วกดปุ่ม Home กลับมาที่หน้าหลัก เพลงที่เปิดจะยังคงเล่นต่อไปในฉากหลังหน้า Home เห็นได้จากภาพด้านล่าง
แถบที่ 2-5 เป็น รายการเด่น ช่องต่อเข้า แอพพลิเคชั่นเด่น เกมส์ และปิดท้ายด้วยหน้าจอตั้งค่า
ขึ้นชื่อว่า Android TV คือโลกของแอพพลิเคชั่นเพื่อความบันเทิงบนสมาร์ททีวี มีแอพหนังให้เลือกดูเพียบไม่ว่าจะเป็น Netflix, Google Play Movies, Monomax
นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอพเพิ่มเติมได้จาก Google Play Store, Opera TV Store
รีโมทของทีวีรุ่นนี้มีปุ่มลัดเข้า Google Play Movies และ Netflix กดเข้าแอพพลิเคชั่นได้ทันทีในครั้งเดียว และแน่นอนว่าสั่งการด้วยเสียงได้ ซึ่งเป็นจุดขายหนึ่งของระบบ Android TV อยู่แล้ว
มีปุ่มต่อตรง Google Play Movies และ Netflix พร้อมทั้งปุ่มคำสั่งเสียงสีขาวตรงกลางด้านบนสุด
ผู้ใช้ยังสามารถโหลดแอพ Android Remote TV บนสมาร์ทโฟน เพื่อใช้เป็นรีโมทควบคุมทีวีแทน การใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมท ช่วยให้พิมพ์ข้อความง่ายขึ้นกว่าการใช้รีโมทจริง และรองรับคำสั่งเสียงด้วยเช่นกัน
Sony Bravia สามารถใช้งานร่วมกับ Google Cast ผ่าน Chrome เพียงดาวน์โหลดส่วนขยาย Google Cast บนพีซี หรือแอพบนสมาร์ทโฟน แล้วส่งคอนเทนต์ต่างๆ จากอุปกรณ์ที่เรามี ขึ้นไปเล่นบนสมาร์ททีวีได้เลย ไม่ต้องซื้ออุปกรณ์แบบ Chromecast เพิ่มเติมอีก
Sony Bravia X85D 4K HDR มี 2 ขนาด ขนาด 55 นิ้ว ราคา 48,490 บาท ขนาด 65 นิ้ว ราคา 85,990 บาท ทั้งสองราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
Comments
ดูวิดีโอแนะนำเจอ 60fps แล้วน้ำตาจะไหล (T^T) แต่โดยทั่วไปก็หาเฟรมเรตสูงดูยากอยู่ดี
เอามาต่อคอมเล่นเกมก็เวิร์คอยู่นะครับ
คือมันหาคอนเทนต์เสพยากน่ะสิครับ ทีวีส่วนมากก็รองรับนั่นแหละ (มั้ง) แต่ไม่รู้จะเอาอะไรมาเปิดครับ เวลาเจอวิดีโอ YouTube ที่เป็น 60fps แต่ละครั้งเลยปลาบปลื้มมาก
แต่กระทั่งโทรศัพทืผมเองยังไม่รองรับถ่ายวิดีโอ 60fps เลยครับ (T^T)
TV LG 4K webOS ตัวเก่า แอพ Youtube ไม่รอง 60 fps ครับ T_T เพื่อเป็นข้อมูลครับ ฮ่าๆ
โห เจ็บครับ
ผมเลือก 1080p 60fps มากกว่า 4k 30fps นะ
เด็กๆ เคยถูกสอนว่าสายตาคนเรา ภาพที่เปลี่ยน 10 ภาพใน 1 วิ เราจะมองเป็นภาพเคลื่อนไหว
เดี๋ยวนี้ เห็นวิ่งไป 60 แล้วเลยสงสัย ความสามารถสายตาคนเรา มันแยกออกได้ถึงระดับไหน กี่ fps กัน
Ton-Or
ผมจำได้ว่าที่เรียนนี่ สิบกว่านะ
แต่อันนั้นมันขั้นต่ำครับ สูงกว่านั้นได้
ภาพเคลื่อนไหวนี่ผมยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่ถ้า refresh rate จอ CRT ผมแยก 100 กับ 120 Hz ออกนะ (ตอนนี้ไม่รู้ยังแยกได้มั้ย ไม่มีจอมาทดสอบแล้ว)
พวก FPS Gamer นี่ผมว่า 100+ ทุกคนครับ จะว่าไปก็อยากอัพจอเป็น 144Hz เหลือเกิน
อันนั้นผมไม่ซีเรียสครับ เพราะการ์ดจอผมขับไม่ถึง (T_T)
แต่ถ้าเป็น VR เมื่อไหร่ปุ๊บมันจะมีผลต่อการเวียนหัวของคนจำนวนมากทันที มันเลยยิ่งกินเครื่องหนักมากขึ้นไปอีก
พวก cast game นี่ 60 fps เกือบทั้งนั้นเลยครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เทียบกับคอนเทนต์ที่ผมเสพแล้วมันเป็นส่วนน้อยน่ะสิครับ (T^T)
LAN กับ Ethernet อันเดียวกันหรือเปล่าครับ?
Monomax => Monomaxxx
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ถ้าจะจงใจขนาดนี้ผมว่า ถาดขาออกแล้ว แขวนเหมอืนรุปเถอะรับ จะได้สวยไปเลย
ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ