พื้นที่รกร้างที่เคยเป็นสถานที่ผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อย่างเชียร์โนบิล อาจจะกลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้าที่สะอาดและปลอดภัยที่สุดในโลก เมื่อรัฐบาลยูเครนกำลังเจรจาอยู่กับบริษัทด้านพลังงานของแคนาดา และหาทุนสนับสนุนจากสหรัฐ ในการสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์บนพื้นที่ราว 1,600 ตารางไมล์ (~ 2,560 ตารางกิโลเมตร) ของเชียร์โนบิล
รัฐบาลยูเครนตั้งใจจะสร้างโรงงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 1 GW ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 1 ถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของยูเครนระบุเหตุผลที่เลือกเขียร์โนบิลว่า เนื่องจากราคาที่ดินค่อนข้างถูก ประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เคยใช้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ที่รองรับพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 4GW ยังคงอยู่
นอกจากกลุ่มทุนที่รัฐบาลกำลังเจรจา ธนาคารยุโรปเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา (European Bank for Reconstruction and Development - EBRD) ได้แสดงความสนใจจะร่วมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดครั้งนี้ด้วย
ที่มา The Guardian via Electrek
Comments
แล้วสารกัมมันตภาพรังสีที่ตกค้างในพื่นที่กับสวัสดิการของบุคลากรที่ต้องเสี่ยงกับสิ่งเหล่านี้หละครับจะว่ายังไง มันยังรั่วอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ใช่เหรอ และจริงๆแล้วก็ควรจะมีวิธีเร่งปฏิกิริยาให้มันหมดฤทธิ์เร็วกว่านี้ออกมานะ
Get ready to work from now on.
รู้สึกมีการสำรวจแล้ว สัตว์ป่าสามารถกลับมาอยู่ได้ ไม่มีการรั่วไหลรุนแรง ไม่มีในอากาศแล้ว
แต่ลึกลงไปนิดหน่อยในชั้นดินบางๆ ยังมีกัมมันตรังสี
ผมดูสารคดี thai pbs
ตอนไปติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์คงหนีไม่พ้นต้องขุดเจาะดินอยู่ดีล่ะครับ อย่างน้อยๆ โครงสร้างที่จะรองรับแผ่นโซลาร์เซลล์จำนวนขนาดนี้ก็เอาเรื่องอยู่
ใครไปรับเหมาติดตั้งคงเรียกราคาได้เยอะพอดู แต่จะหาคนเข้าไปทำได้หรือเปล่าอีกเรื่อง
เอาหุ่นยนต์ไปติดตั้งเลยครับ 5555
ไม่ก็จ้างคนในพื้นที่ครับ แต่มีไม่กี่คนนี่สิ
คงต้องเลือกพื้นที่ดีๆ และจำกัดระยะเวลาที่เข้าไปทำงานมั้งครับ
และแน่นอน ราคาคงแพงเป็นพิเศษ
ลองเอาไปดูกันครับสารคดีปี 2016
https://www.youtube.com/watch?v=kV_PvcW9snI
รู้รึเปล่าครับว่าตอนนี้รังสีแผ่ออกมาจากอะไร มีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าหมดฤทธิ์ และทำยังไงถึงจะเร่งปฏิกิริยาที่ว่าได้
มันไม่ได้อ่านว่าเชอร์โนบิลเหรอครับ? หรือว่าสามารถอ่านเป็น เชียร์ ได้?
น่าจะอ่านตามภาษาท้องถิ่นยูเครนน่ะครับ ภาษาของยุโรปบางประเทศ พอไปแปลงเป็น English UK/US แล้วก็อ่านเพี้ยนไป เพราะไปอ่านตามการถอดแบบอักษร ไม่ได้อ่านตามภาษาถิ่น
อย่าง Van Gogh ที่เราชอบอ่านว่า แวนโก๊ะ จริงๆเค้าชื่อ ฟาน-ก็อค พอถอดมาเป็นตัวอักษรอังกฤษเลยอ่านเพี้ยนไป