สืบเนื่องจากประเด็นที่ทาง กสทช. ได้รับการร้องเรียนจากนายประสงค์ อยู่ไพร บิดาของ น.ส.จงจิตร อยู่ไพร ซึ่งขณะนี้ทำงานอยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ แต่ dtac ได้เรียกเก็บค่าใช้บริการจำนวน 2 เลขหมาย เป็นจำนวนเงินกว่า 4 แสน 3 หมื่นบาท ซึ่งน.ส. จงจิตรยืนยัน่ว่าไม่เคยเปิดใช้บริการกับทาง dtac นั้น
ล่าสุด dtac แถลงชี้แจงว่า น.ส. จงจิตร มาจดทะเบียนซิมกับ dtac ที่สำนักงานสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 พร้อมยืนยันหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชน ขณะที่ dtac ก็จดทะเบียนให้ตามกระบวนการและกฎของ กสทช. และเมื่อตรวจสอบบันทึกการใช้งานของทั้ง 2 เลขหมาย ก็พบว่ามีการใช้งานจริง ทั้งบริการข้ามแดนอัตโนมัติจากฟิลิปปินส์กลับมายังไทยและใช้งานภายในฟิลิปปินส์เอง
dtac ยืนยันด้วยว่ายินดีที่จะร่วมกับทางสำนักงาน กสทช. และลูกค้า ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความถูกต้องและยังเป็นการรับฟังลูกค้าสำหรับการให้ความช่วยเหลือต่อไป
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
ดีแทคขอชี้แจงกรณีลูกค้าอ้างทำงานที่ฟิลิปปินส์แต่มีเรียกชำระค่าบริการ จำนวน 4 แสนกว่าบาท
29 สิงหาคม 2559 – ตามที่สำนักงาน กสทช. รายงานว่ามีลูกค้ามาร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีไปทำงานอยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่มีการค้ างชำระค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อน ที่ของบริษัทเป็นจำนวนเงินประมาณ 4 แสนบาท โดยร้องเรียนให้ทางสำนักงาน กสทช. ตรวจสอบข้อเท็จจริง
ดีแทคขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่าดีแทคมีหลักฐานยืนยันว่าลูกค้ามาจดทะเบียนจริง โดยใช้หลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชนเมื่อ 31 พฤษภาคม 2557 ที่สำนักงานดีแทค เดอะมอลล์ บางกะปิ เจ้าหน้าที่ดีแทคได้ทำการจดทะเบียนถูกต้องตามกระบวนการและกฎของ กสทช. นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบันทึกการใช้งานทั้ง 2 เลขหมาย ยังพบว่ามีการใช้งานจริง ทั้งในประเทศฟิลิปปินส์ในบริการข้ามแดนอัตโนมัติกลับมาประเทศไทยและอื่นๆ พร้อมทั้งภายในประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีการเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนในการใช้งานที่เกิดขึ้นตามหลักฐานเจ้าของหมายเลขตามปกติตลอดมา
อย่างไรก็ตาม ดีแทคยินดีที่จะร่วมกับทางสำนักงาน กสทช. และลูกค้า ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อความถูกต้องและยังเป็นการรับฟังลูกค้าสำหรับการให้ความช่วยเหลือต่อไป
Comments
อ้าวเห้ย...ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา
...มาจดทะเบียนซิมกับ dtac ที่สำนักงานสาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 พร้อมยืนยันหลักฐานเป็นสำนักบัตรประชาชน
ccTV ในสำนักงานสาขาฯ ปรกติเยอะมาก หลักฐานหนาแน่น คดีนี้ไม่น่าพลิก
ผมว่าบันทึก cctv ไม่น่าเก็บถึง 2 ปีนะครับ
คืออ่านจากแถลงการของ dtac แล้ว แต่หลักฐานที่อ้างคือสำเนาบัตรประชาชน ซึ่งกรณีที่ผ่านมาก็มีการนำเอาสำเนาบัตรประชาชนไปใช้โดยที่เจ้าของไม่รู้เรื่องก็เยอะแยะไป
ทำไม dtac ไม่ระบุให้ชัดเจนไปเลย เช่นว่า ดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พบว่า น.ส.จงจิตรมาเปิดเบอร์ด้วยตนเอง หรือ มีพยานยืนยันว่า น.ส.จงจิตรมาทำการเปิดเบอร์ด้วยตนเองในวันที่ดังกล่าว
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์ นี่คนทั่วไปสามารถดูได้มั้ยครับ?
もういい
เกรงว่าไม่ได้นะครับ เพราะมันมีข้อมูลเกี่ยวกับด้านการติดต่อกับทาง PR ของทาง dtac นะครับ ส่วนรายละเอียดของเอกสารสื่อที่ส่งมานั้น ก็มีอยู่ในเนื้อข่าวแล้วครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คือแปลกใจว่า dtac ชี้แจงทางอีเมล์แล้ว ได้ข่าวมาจากไหนน่ะครับ
もういい
ผมเองไม่ได้ยินข่าวนี้หรอกครับ
แต่เดาว่าคงหนีไม่พ้นพันทิปแน่นอนตามเนื้ออีเมล์บอกว่ามาจาก กสทช. นะครับ ผมว่าน่าจะได้จากจดหมายที่ส่งมาจาก กสทช. ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
หมายถึงเนื้อหาตัวจดหมาย แบบนั้นก็ที่อยู่ท้ายข่าวนะครับ สำเนามาจากอีเมลดีแทคเลย
lewcpe.com, @wasonliw
อ่อ คืออีเมล์ไปสอบถามทาง DTAC ใช่มั้ยครับ
もういい
เป็นแถลงการณ์จาก dtac ที่ส่งให้สื่อหลายๆ เจ้าน่ะครับ
ถามว่า dtac ทราบจากไหนก็น่าจะจาก กสทช. นะครับเพราะเจ้าทุกข์ไปร้องกับ กสทช.
เครียร์แล้ว ขอบคุณครับ
もういい
เครียร์แล้ว ขอบคุณครับ
もういい
จริงๆ กรณีนี้ผมไม่ทันตามก่อนครับ เห็นอีกมีทางทีมงานประชาสัมพันธ์ dtac ส่งเมลมาให้ผมเลย เลยส่งให้คุณ nismod อีกที
lewcpe.com, @wasonliw
เคยโทรกลับไทยด้วย ถ้าเบอร์ที่โทรหาเป็นคนรู้จักนี่ชัดเจน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
สำนักบัตรประชาชน --> สำเนาบัตรประชาชน
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
dtac -> DTAC
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
เวป dtac โลโก้ใช้ตัวเล็กหมดนี่ครับ
+1 คำว่า dtac ตัวพิมพ์เล็กหมดครับ
ขอบคุ๕ครับ ผมก็ลืมไปว่าเปลี่ยนแล้ว
บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P
ขอบคุ๕ => ขอบคุณ
๕ => ณ
ปกติไม่ได้ตั้งไว้เหรอว่า สูงสุดเท่าไหร่ ซึ่งปกติน่าจะตั้งไว้ราวๆหลักพัน ก็น่าจะพอแล้ว
เหมือนจะเป็นปัญหาของ roaming ครับ ณ ปัจจุบันเหมือนจะเป็นเหมือนกันหมด เพราะค่าใช้จ่ายไม่ real time ด้วย แต่ในทางที่ควรจะเป็นควรจะจำกัดได้หมดแหละครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จำได้ว่ามีบริการล็อควงเงิน เงินไม่ไหลเวลาไปต่างประเทศ แต่เก็บมาสี่แสน ??
จ่ายตามจริง หรือจ่ายสูงสุดตามที่โฆษณาไว้ดีครับ
งงว่ามนุษย์เงินเดือนคนหนึ่งโทรได้ถึงสี่แสนดีเทคไม่คิดว่ายอดผิดปกติแล้วล็อกการใช้งานบ้างหรอ....
ปกติมีเค้ามีวงเงินการใช้งานนะครับ ถ้ายอดสูงไปเค้าก็ไม่อนุมัติวงเงินการใช้ให้ โดยทั่วไปวงเงินสูงสุดการใช้งานที่เค้าปรับให้ก็แค่หลักพันนะ
อีกมุมนึงถ้าอยู่ต่างประเทศแล้วต้องโทรฉุกเฉินแต่กลับโทรไม่ได้เพราะว่าวงเงินเต็มแล้วโดน lock จะติดต่อกลับไทยก็ไม่ได้ลำบากนะครับ
มีเหตร้าย เบอร์ฉุกเฉินโทรฟรีอยู่แล้วครับ
ถ้ารีบติดต่อมากๆ ก็ยืมใครโทรไปหาสถานทูตก็ได้ครับ
เคยอ่านในกระทู้เก่า ไปเที่ยวฮ่องกง สามวันสองล้าน(ดีแทคตามเคย) เห็นเค้าว่าโรมมิ่งจำกัดวงเงินไม่ได้นี่ครับ?
สอบใบขับขี่ยังมีวิดีโอให้ดู ข้อสอบให้ทำ ก่อนจะซื้อซิมน่าจะมีกิจกรรมอะไรคล้ายๆสอบใบขับขี่บ้าง เกิดความผิดพลาดเสียหายหลักแสนเลยทีเดียว
สงสัยครับ
ค่าโทรศัพท์โรมมิงทำไม ถึงต้องคิดแพงๆ
ทำไมไม่เหมือนอินเตอร์เนต ที่ติดต่อทั่วโลกได้หมด ไม่ต้องแบ่งราคาตามระยะทาง
คนละเทคโนโลยีกันคับ
และอินเตอเนทก็ไม่ได้การันตีความเร็วเนทนอกด้วย ต้องแย่งกันใช้ บางทีก็อืด
Roaming นี่ ทางเครือข่ายที่ผู้ใช้ใช้ จะต้องจ่ายให้กับทางเครือข่ายที่ผู้ใช้เอามือถือตัวเองไปใช้งานด้วย เป็นการใช้งานข้ามเครือข่ายกัน และพอเป็น B2B มันก็มักจะแพงน่ะครับ
ค่าใช้จ่ายตรงนี้เขาก็เอามาคิดกับลูกค้าอีกทีนึง
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวนักกีฬาญี่ปุ่น โรมมิ่งเล่นโปเกมอนจากบราซิลจนยอดบิลพุ่งไงครับ
คาดว่าประเทศไหนๆ ก็คงเหมือนกันกระมัง
เหมือนจะหลงประเด็นกันหมด บิลช็อคก็เรื่องนึง นี่มันเรื่องเจ้าของเบอร์บอกไม่ได้เปิดแล้วมายังไงไม่ใช่เหรอครับ
"ซึ่งน.ส. จงจิตรยืนยัน่ว่าไม่เคยเปิดใช้บริการกับทาง dtac นั้น"
ดีแทค โดนกล่าวหาว่าเรียกเก็บเงินค่าบริการจากเบอร์ที่เจ้าของไม่ได้เปิดเอง ซึ่งถ้าเจ้าของไปเปิดเอง นี่เป็นการกล่าวหาที่ค่อนข้างร้ายแรงนะครับ การออกมาชี้แจงตรงประเด็นนี้ถูกต้องแล้วครับ ส่วนใครผิดก็งัดหลักฐานที่มีออกมาค้านกันครับ
เผื่อคนไม่รู้นะ
โทรศัพท์เวลาใช้งานในประเทศคิดเงินเฉพาะตอนโทรออก รับสายไม่คิดเงิน แต่ถ้าเปิด roaming แล้วไปใช้ในต่างประเทศคิดเงินทั้งโทรออกและรับสาย ซึ่งปกติการรับสายจะแพงกว่าการโทรออก ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องรับสายจริงๆ ให้ตัดสายแล้วโทรกลับจะถูกกว่าครับ
credit control (เช็ควงเงิน) ส่วนใหญ่จะใช้ไม่ค่อยได้เวลาถือเครื่องใช้งานต่างประเทศ เพราะข้อมูลการใช้งานที่ส่งระหว่าง Operator ไม่ได้ realtime อาจจะส่งมาวันละครั้ง โชคดีหน่อยก็หลักชั่วโมง เวลาใช้งานในตปท.อย่าหวังพึ่ง credit control
การใช้งาน data ไอ้ที่ใช้ๆ กันอยู่ 1GB, 3GB etc. นี่เค้าให้ใช้งานในประเทศ ออกนอกประเทศมันใช้ตรงนี้ไม่ได้ ต้องซื้อแบบที่ใช้สำหรับการใช้งานในตปท. ซึ่งจะแพงกว่าแบบใช้ในประเทศ อยู่พอสมควร
สรุป ถ้าคุณไม่ใช่นักธุรกิจแบบต้องโทร/รับสายตลอดเวลา เป็นแค่นักท่องเที่ยวที่แค่ต้องการ online ใช้งาน facebook/line แนะนำให้ซื้อ sim เติมเงินของประเทศนั้นๆ ใช้งานดีกว่า เฉลี่ยแล้วค่าใช้จ่ายประมาณ 500 บาทไทย สำหรับ data ~ 500mb/1GB น่าจะพอสำหรับทริปสั้น ๆ นะ