Tags:
Node Thumbnail

ด้วยรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละคนที่ไม่ซ้ำกัน (แม้แต่ฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันก็ตาม) ลายนิ้วมือจึงกลายมาเป็นข้อมูลชีวมาตรที่นิยมใช้เพื่อการระบุตัวตนของบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นที่รู้กันว่าลายนิ้วมือของคนเราจะคงเดิมอยู่เช่นนั้นตราบจนชั่วชีวิต แต่นั่นหมายถึงเฉพาะในบุคคลที่มีสุขภาวะร่างกายตามปกติเท่านั้น เพราะล่าสุดมีงานวิจัยออกมาว่าในบางกรณีผลข้างเคียงจากการรักษาทางการแพทย์ อาจทำให้ลายนิ้วมือคนเราหายไปได้

จากผลการวิจัยในประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า กระบวนการรักษาทางการแพทย์แบบเคมีบำบัดที่ใช้สาร capecitabine (ซึ่งนิยมใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหลายประเภท) อาจส่งผลให้ลายนิ้วมือของผู้ป่วยเลือนหายไปแทบสิ้นเชิงเป็นระยะเวลาชั่วคราวราว 2-4 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ทีมวิจัยเชื่อกันว่าการที่ลายนิ้วมือของผู้ป่วยเลือนหายไปนั้น เป็นผลส่วนหนึ่งของอาการข้างเคียงจากการใช้เคมีบำบัดที่เรียกโดยรวมว่า HFS (Hand-Foot Syndrome) ซึ่งจะมีอาการเห็นเด่นชัดคือฝ่ามือของผู้ป่วยเปลี่ยนเป็นสีแดง และมีตุ่มปรากฏขึ้นตามผิวหนังกินพื้นที่ประมาณ 60% ของร่างกาย แต่ภายหลังการเก็บข้อมูลสำรวจตามขั้นตอนการวิจัยก็ได้ข้อสรุปว่าความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง

ทีมวิจัยได้ร่วมมือกับหน่วยงานตำรวจในเมือง Hague ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยทำการเก็บรอยพิมพ์ลายนิ้วมือของกลุ่มผู้ป่วย 112 รายที่เตรียมรับการทำเคมีบำบัด ซึ่งในกลุ่มตัวอย่างที่ว่านี้ มีผู้ป่วย 66 คนที่การทำเคมีบำบัดด้วย capecitabine เพียงอย่างเดียว ส่วนที่เหลือเป็นผู้รับทำเคมีบำบัดด้วยสาร TKI (Tyrosine-kinase inhibitor ) ทั้งนี้การเก็บข้อมูลพิมพ์ลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วของผู้ป่วยกลุ่มตัวอย่างนั้นทำด้วยกัน 3 ครั้ง คือครั้งแรกก่อนเริ่มทำการรักษา ครั้งที่ 2 หลังเริ่มทำเคมีบำบัดผ่านไปแล้ว 6-10 สัปดาห์ และครั้งที่ 3 คือพิมพ์ลายนิ้วมือหลังการบำบัดเสร็จสิ้น

alt="upic.me"

ผลจากการเปรียบเทียบข้อมูลภาพพิมพ์ลายนิ้วมือ พบว่ากลุ่มผู้ที่รับการบำบัดด้วย capecitabine จำนวน 9 คนจาก 66 คน (คิดเป็น 14%) มีอาการลายนิ้วมือเลือนหายไปเกือบหมด ส่วนกลุ่มที่รับการบำบัดด้วย TKI มีอาการลายนิ้วมือเลือนหายไปเพียงคนเดียวจาก 46 คน (คิดเป็น 2%) โดยจากผู้ป่วยที่รับการทำเคมีบำบัดทั้งหมดนี้มีผู้ที่เกิดอาการ HFS รวม 67 คนโดยไม่มีความเกี่ยวพันกับผู้ที่มีอาการลายนิ้วมือเลือนหาย

Ron Mathijssen ศาสตราจารย์จาก Erasmus MC Cancer Institute, Rotteram หนึ่งในทีมวิจัยผู้คนพบเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการทำเคมีบำบัดด้วย capecitabine กับอาการลายนิ้วมือเลือนหายนี้ ให้ความเห็นว่านับจากนี้เจ้าหน้าที่ผู้ให้การรักษาจะต้องแจ้งเรื่องความเสี่ยงของผลข้างเคียงจากการบำบัดว่าอาจทำให้ลายนิ้วมือของผู้ป่วยเลือนหายไปชั่วคราว โดยเฉพาะกับผู้ที่กำลังจะเดินทางข้ามประเทศ และผู้ที่จะต้องติดต่อหน่วยงานรัฐซึ่งอาจมีปัญหากับระบบการยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือได้ (และสำหรับบางคนอาจมีปัญหากับการใช้โทรศัพท์ หรือกระทั่งการเข้า-ออกบางสถานที่)

ใครมีคนรู้จักที่ทำเคมีบำบัดกับ capecitabine ก็บอกกล่าวแจ้งเตือนกันได้

ที่มา - Medscape

Get latest news from Blognone

Comments

By: zerost
AndroidWindows
on 3 September 2016 - 02:51 #937204
zerost's picture

มีผู้ต้องหาตั้ง 112 คน!

ว่าแต่แบบนี้ จะมีหนังหรือพวกผู้ร้ายเอาอาการนี้กับยาไปเล่นเรื่องการปลอมตัวป่าวนะเนี่ย

By: itpcc
ContributoriPhoneRed HatUbuntu
on 3 September 2016 - 03:08 #937205 Reply to:937204
itpcc's picture

ผมว่าสุดท้ายถ้ารู้เรื่องลายนิ้วมือมีปัญหาคงมีระบบอื่นๆ ทดแทนเช่นม่านตา ล่ะมั้งครับ


บล็อกส่วนตัวที่อัพเดตตามอารมณ์และความขยัน :P

By: MRbunyawat on 3 September 2016 - 07:49 #937215

ของผมทำบัตรประชาชนไม่เคยผ่านตอนสเเกนลายนิ้วมือต้องเอาญาติไปเซ็นตลอด

By: teka1994
ContributoriPhoneAndroidWindows
on 3 September 2016 - 11:53 #937254 Reply to:937215
teka1994's picture

ผมก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีเหมือนกันครับ ที่การทำบัตรประชาชนครั้งแรกของผม เจ้าหน้าที่ทาบนิ้วผมไม่เต็มนิ้ว ทำให้การทำบัตรประจำตัวประชาชนจะมีปัญหาแบบนี้ไปตลอดชีวิต (จนท. แจ้งว่าลายนิ้วมือที่บันทึกเข้าระบบแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้)

By: SuPPy
AndroidWindows
on 3 September 2016 - 13:46 #937275 Reply to:937215

เป็นด้วยอีกคน ไม่ต้องรักษาอะไร ลายนิ้วมือก็ไม่เคยจะเหมือนเดิม เคยไปทำบัตรในห้าง เจ้าหน้าที่ยิ่นหน้าจอให้ดูว่าลายนิ้วมือที่แสกนกับในฐานข้อมูลไม่เหมือนกันอย่างชัดเจน เรามองยังออกเลยว่ามีเส้นที่เปลี่ยนชัดมากหลายเส้น สุดท้าย เขาก็ไม่ทำให้ ให้กลับไปทำที่อำภอและพาคนไปยืนยัน ซึ่งต้องรอคิวแค่ตีห้า จะบ้าตาย

By: alph501
iPhoneWindowsIn Love
on 3 September 2016 - 08:50 #937219
alph501's picture

มิน่าหละ ญาติผม ที่ใช้ touch ID ที่ให้คีโม ก็จู่ๆสแกนไม่ติดเหมือนกัน ผมเลยงงว่าทำไม

By: Bound
Windows PhoneAndroidWindows
on 3 September 2016 - 09:31 #937222

บริษัทผมแสกนลายนิ้วมือเข้าทำงาน แต่ลายนิ้วมือผมเครื่องอ่านไม่ค่อยได้(ลายนิ้วมือตื้นเกิน) แสกนไม่ค่อยผ่าน สุดท้ายต้องแก้ด้วยการใช้บัตรทาบเข้าแทน สำหรับผมคนเดียว ... >_<

By: panurat2000
ContributorSymbianUbuntuIn Love
on 3 September 2016 - 10:03 #937228
panurat2000's picture

ในเมือง Hague ประเทศเนเธอแลนด์

เนเธอแลนด์ => เนเธอร์แลนด์

By: nununu
Windows Phone
on 3 September 2016 - 10:35 #937232

โดยจากผู้ต้องหาที่รับการทำเคมีบำบัดทั้งหมดนี้มีผู้ที่เกิดอาการ HSF รวม 67 คน ==> เกิดอาการ HFS รวม 67 คน

By: Zenn
iPhoneUbuntuWindows
on 3 September 2016 - 11:48 #937253

ทำไมถึงใช้คำว่า "ผู้ต้องหา" หละครับ? เท่าที่อ่านดูผมเข้าใจว่าเอาข้อมูลลายนิ้วมือของผู้ป่วยมาจากตำรวจเฉยๆ นะครับ

By: ตะโร่งโต้ง
WriterAndroidWindows
on 3 September 2016 - 13:05 #937266 Reply to:937253
ตะโร่งโต้ง's picture

จริงด้วยครับ ผมเผลอทึกทักไปเอง
แก้ไขแล้วครับ


ช่างไฟสมัครเล่น (- -")

By: porple on 3 September 2016 - 19:11 #937318

กรณีของตัวเอง ไม่รู้ว่าเพราะตัวอ่านลายนิ้วมือของ Z5 ไม่ดี ทำให้ใช้ลายนิ้วมือได้ไม่เกินสามวัน หลังจากนั้นเครื่องก็ไม่อ่านแล้ว ต้องกลับมาใช้แพทเทิร์นเหมือนเดิม