IDC เปิดเผยยอดส่งมอบอุปกรณ์สวมใส่ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้อยู่ที่ 22.5 ล้านชิ้น เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 26.1% โดยทาง Fitbit ยังคงครองตลาดเป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย Xiaomi, แอปเปิล, Garmin และ Lifesense
Fitbit ครองตลาดในไตรมาสล่าสุดด้วยส่วนแบ่ง 25.4% เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วถึง 28.7% ขณะที่ Xiaomi เติบโต 2.5% ส่วนแบ่งอยู่ที่ 14% ส่วนแอปเปิลเป็นรายเดียวที่ยอดส่งมอบลดลงจากไตรมาสสองของปีที่แล้วถึง 56.7% และมีส่วนแบ่งอยู่เพียง 7% เท่านั้น ตรงกันข้ามกับ Garmin ที่เติบโตขึ้นมาถึง 106.7% ส่วนแบ่งอยู่ที่ 6.9%
Ramon Llamas ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของ IDC เผยว่าตลาดอุปกรณ์ด้านสุขภาพ (Fitness Tracker) ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในยอดส่งมอบอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดสูงที่สุดถึง 82.8% เนื่องจากราคาที่ค่อนข้างถูกและมีเป้าหมายในการใช้งานที่ชัดเจน
ตรงกันข้ามกับกลุ่มอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยเฉพาะนาฬิกาอัจฉริยะที่ดูเหมือนยังคงหาที่ยืนในตลาดต่อไป เนื่องจากเป้าหมายในการใช้งานไม่ชัดเจน (เป็นเพียงหน้าจอที่ 2 และไม่สามารถทดแทนนาฬิกาจริงได้ - ผู้เขียน) และไม่สามารถจูงใจผู้ใช้ให้กลายเป็นอุปกรณ์ประเภท must-have ได้ แต่ IDC ก็มองว่าตลาดกลุ่มนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น ยังคงสามารถพัฒนาและมีสิทธิจะเติบโตได้อีกมาก
ที่มา - Business Wire
Comments
ตั้งแต่ส่ง MS Band ไปเคลมนี่ผมต้องหา wrist band ธรรมดาหรือนาฬิกามาใส่ตลอดเลยครับ ข้อมือมันโหวงๆ Garmin vivosmart HR ก็เทียบเท่าลำบากเพราะมันไม่มี GPS นี่แหละ (รุ่นใหม่มีแล้ว)
ไม่ได้อยู่ที่ไทย ใช่ไหมครับ
ผมก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะกันน้ำได้ กระจกหน้าจอจะทนทานกว่านี้ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน3-4วันเป็นอย่างน้อย และสุดท้ายสายและตัวเรือนบางกว่านี้อีก
ตอนนี้ก็ใช้ fitbit charge HR รอไปก่อน, ใช้มาไม่ครบ7วัน จอก็เป็นรอยไปหลายรอยแล้วตอนนี้เลยไม่สนใจ
ส่วนที่เก็บปลายสายก็ขาดไปเรียบร้อยเมื่อสัก2เดือนก่อน
ผมอยู่ไทยครับ มันถึงได้นาน orz
ตอนเคลมนี่ไม่กี่วันได้ของแล้วครับ แต่ยังไม่มีจังหวะส่งกลับไทย
ถ้านับในกลุ่ม wearable นี่ apple ยังสู้ fitbit ไม่ได้ แต่อยากรู้ว่าแล้วในกลุ่มนาฬิกาด้วยกันนี่เป็นไงบ้าง Samsung Moto LG นี่ยอดขายเป็นไงกันบ้าง
กระแสรักสุขภาพมาแรงครับ อุปกรณ์ที่โปรโมทว่าเป็น fitness tracker มันเลยเข้าถึงผู้คนได้ง่าย
แต่ส่วนตัวผมเองไม่ชอบอุปกรณ์ในกลุ่มนี้ เพราะส่วนใหญ่ออกแบบมาหน้าตาหลุดโลก บางอันเหมือนกำไลจากโลกอนาคตไปเลย (แต่อาจจะเป็นจุดขายสำหรับคนอื่นก็ได้) หรือบางทีก็เป็นเม็ด/ก้อนกลมๆ รีๆ เอามายัดใส่ห่วงซิลิโคน ถึงบางชิ้นมันจะถูกมากแค่ไม่ถึง 500บาทก็เถอะ
ผมว่ากลุ่ม smartwatch ยังคงมีตลาดของมันอยู่นะ กลุ่มคนที่ต้องการสวมนาฬิกา ที่หน้าตามันคือนาฬิกาจริงๆ ไม่ใช่กำไลหลุดโลก แต่เพิ่มฟังก์ชั่นด้าน activity tracker เอาไว้ในตัว แบบเรือนเดียวจบ ใส่ได้ทั้งทำงาน/ออกกำลังกาย/ไปร่วมงานสังคม หรือแม้แต่ใส่ track sleep
Apple Watch นี่มันยังต้องพัฒนาอีกเยอะ ที่แย่คือเกือบสองปีแล้วยังไม่ยอมให้ 3rd party ทำ custom faces ซะที ช่วงสองเดือนมานี่ผมถอดวางทิ้งเลย หันมาใส่ Pebble Time แทนซะงั้น แต่ตลกดีผมยังติดนิสัยชาร์จนาฬิกาทุกคืนก่อนนอนเหมือนตอนใช้ Apple Watch อยู่ดี :D
ปัญหาคือ Smartwatch มันก็เป็นอุปกรณ์ที่ครึ่งๆ กลางๆ อยู่ครับ จะไปทาง sport แบตก็ไม่อึด มองไปทางความเป็น Smartwatch มันก็ยังไม่มีจุดขายที่ชัดเจนเท่าไหร่ ถ้าอยากจะเน้นออกกำลังกายกับราคาหมื่นขึ้นผมมอง Garmin ไปเลย หรือถ้าจะเอาราคาต่ำกว่านั้น Fitbit ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งหน้าตาของสองยี่ห้อนี้ถือว่าไม่หลุดโลกจนเกินไปสามารถเอาไปใช้งานในชีวิตประจำวันได้
Pebble เป็นตัวเลือกที่ดีในราคาไม่ถึงห้าพัน (ถ้ารุ่นเก่าหน่อย และซื้อผ่านเว็บดีลในอเมริกาเหลือแค่ครึ่งเดียว) แบตอึด หน้าตาดูเป็นนาฬิกามากกว่า มีชุมชนนักพัฒนาเป็นของตัวเอง
Pebble ผมมองว่ามันเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มมากกว่า ซึ่งก็น่าจะเข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้ว
ไม่มีจุดขายหรือฟีเจอร์ที่ชัดเจน รู้สึกแค่เป็นหน้าจอที่2 อยู่เลย ยิ่ง Apple Watch ต้องใช้กับ iPhone เท่านั้นอีกด้วย รอดู Gen 2 และกันว่าจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
Apple Watch มันกากอะ App 3rd party ทุกตัวอืดมากจนขี้เกียจจะกดใช้ พอไม่มีมือถือก็เป็นใบ้ดูได้แต่เวลาอีก
สองสิ่งที่ยอมรับว่าดีคือดีไซน์สวยกว่าเจ้าอื่นในตลาดกับแบตที่อยู่ได้วันกว่าๆ
fitbit หน้าจอเป็นรอยง่ายมาก ๆ ๆ ๆ เบื่อสุด ๆ
watchOS 3 ผมว่าทำให้ apple watch น่าใช้ขึ้นนะครับ ใช้แบบชิวๆ แบทอยู่ได้เกือบ2 วัน