DJI เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตโดรนชั้นนำ ทว่าผลิตภัณฑ์ของ DJI หาใช่มีแต่โดรน แต่ยังมีอุปกรณ์ลดการสั่นไหวของกล้อง (Gimbal) ในแบรนด์ Ronin ที่เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์หลักสำหรับตากล้องมืออาชีพ
อย่างไรก็ดีทาง DJI ได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ stabilizer สำหรับตากล้องมือสมัครเล่นหรือผู้ใช้ทั่วไปด้วยในชื่อ Osmo ก่อนที่ล่าสุด จะเปิดตัว Osmo Mobile ซึ่งเป็น gimbal ที่รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนตัวแรก ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเพิ่มประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอได้มากขึ้น ซึ่งทางบริษัท แฟนธอม ประเทศไทย ก็ได้นำ Osmo Mobile นี้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยด้วย
ภายในกล่อง นอกจากตัว Osmo Mobile แล้ว สิ่งที่ DJI ให้มาด้วยมีสายชาร์จแบบ 3.5 mm.. to USB-A ซึ่งพอร์ต 3.5 mm. จะอยู่ด้านหลังของด้ามจับ พร้อมด้วยสายสำหรับรัดข้อมือและซองใส่ Osmo Mobile
สำหรับด้ามจับด้านหน้าจะเป็นแผงควบคุม ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มคอนโทรลแบบ joystick สำหรับปรับองศาและแพนกล้อง ปุ่มถ่ายวิดีโอและปุ่มถ่ายภาพนิ่ง
ด้านหลังเป็นปุ่มควบคุมแบบไกปืน สำหรับ stabilize ตัวกล้องซึ่งต้องกดค้างเอาไว้ เวลาถ่ายวิดีโอหรือถ่ายภาพนิ่ง หากกดสองครั้ง จะเป็นการ calibrate ตัวสมาร์ทโฟนให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง และกดสามครั้ง จะเป็นการสลับกล้องหน้าและกล้องหลัง
ส่วนด้านบนของปุ่มควบคุมเป็นพอร์ต 3.5 mm. สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนด้านซ้ายมือของอุปกรณ์ เป็นช่องสำหรับต่อและล็อกอุปกรณ์เสริมอื่นๆ อาทิไมโครโฟน
สำหรับการล็อกสมาร์ทโฟนให้เข้าที่ จะอาศัยที่หมุนเพื่อขยาย mount ให้พอดีกับขนาดสมาร์ทโฟน และหมุนปิดเพื่อล็อก ขณะที่บริเวณด้ามของแกนนอนจะมีที่หมุนอีกจุด สำหรับบาลานซ์สมาร์ทโฟนบน mount
Osmo Mobile สามารถเชื่อมต่อกับแอพ DJI Go ได้ทันทีผ่าน Bluetooth 4.0 LE และการใช้งานทั้งถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งสามารถทำได้ผ่านแอพ DJI Go ทั้งหมด ซึ่งความละเอียดและคุณภาพของวิดีโอและภาพนิ่ง จะขึ้นอยู่กับฮาร์ดแวร์ของสมาร์ทโฟนที่ใช้งานเป็นสำคัญ
Osmo Mobile มาพร้อมกับแกนกันสั่นแบบ 3 แกน เพียงแค่กดปุ่ม trigger ด้านหลังค้างเอาไว้ ทำให้ช่วยซับแรงและลดการสั่นเวลาถ่ายวิดีโอหรือแม้แต่ภาพนิ่งไปได้ค่อนข้างมาก (คลาดเคลื่อนราว 0.02-0.03 องศาเท่านั้น) และที่สำคัญคือหากต้องการถ่ายภาพในที่แสงน้อย Osmo Mobile ก็ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดได้ โดยไม่ต้องง้อขาตั้ง ขณะที่แอพ DJI Go ก็สามารถปรับรูรับแสงและชัตเตอร์สปีดได้ด้วย
ส่วนอีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นของ Osmo Mobile คือ ActiveTrack ที่ทำให้สมาร์ทโฟนตรวจจับใบหน้า และติดตามการเคลื่อนไหวได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้การอัดวิดีหรือ live ทำได้ด้วยตัวคนเดียว ไม่จำเป็นต้องมีผู้ช่วย
นอกจากนี้ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่มาพร้อมกับแอพ DJI Go ยังมี Timelapse และ Motion Timelapse หรือการถ่าย timelapse ไปพร้อมๆ กับการแพนกล้องอัตโนมัติ ขณะที่ภาพนิ่งมีฟีเจอร์พาโนรามา ซึ่งตัว Osmo Mobile จะแพนกล้องและถ่ายให้อัตโนมัติ ช่วยให้ได้ภาพพาโนรามาที่สวยและสมบูรณ์มากกว่าการถ่ายด้วยตัวเอง
ขณะเดียวกันแอพ DJI Go ยังรองรับการถ่ายทอดสดผ่าน YouTube ได้จากตัวแอพโดยตรง ขณะที่การทำ Facebook Live ถึงแม้จะยังต้องทำผ่านแอพเฟซบุ๊กอยู่ แต่ปุ่ม joystick ก็ยังสามารถใช้งานเพื่อควบคุมการแพนกล้องได้ และที่สำคัญคือ Osmo Mobile มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 980mAh สามารถใช้งานติดต่อกันได้นานถึง 4.5 ชั่วโมง
สำหรับผู้ที่สนใจ Osmo Mobile มีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้ ในราคา 12,700 บาทสินค้ารับประกันนาน 1 ปี โดยมีช่างผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการฝึกอบรมและได้รับใบ Certificate จาก DJI โดยตรง สามารถติดต่อสอบถามหรือทดลองใช้งานได้ที่ร้าน DJI by Phantom Thailand บริเวณชั้น 2 ห้างสยามดิสคัฟเวอรี ใกล้กับทางเดินเชื่อมไปสยาม เซ็นเตอร์ ทุกวัน หรือโทร 062-594-6441 และทางไลน์ @phantomthailand
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.phantomthailand.com
โดย DJI Osmo Mobile จะมีกิจกรรมเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย วันนี้ (11 กันยายน 2559) ตั้งแต่เวลา 13.30 น. ณ DJI Phantom Thailand ชั้น 2 สยามดิสคัฟเวอรี่ ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อ หรือร่วมกิจกรรมในงานและลุ้นเป็นเจ้าของ DJI Osmo Mobile ได้จากกิจกรรมพิเศษภายในงาน
Comments
มา gopro มาใช้ได้ไหมเนี่ย
ดู Feiyu ไว้นานมาเห็นตัวนี้โดนกว่า แต่ปัญหาคืออยากได้ตัวที่หนีบ gopro และ smartphone ได้ทั้งคู่
มันแพงไปไหม
เมื่อเทียบกับความสามารถผมว่าไม่แพงเกินไปนะ แต่ก็ไม่ถูก
ราคาเท่านี้กับยี่ห้อนี้เทียบกับยี่ห้ออื่นที่แบรนด์ดูด้อยกว่าผมว่าทำราคาได้ดีอยู่นะครับ
"เจ็บแต่จบ" สโลแกนค้า
ถ้าใส่ gopro ได้จะจัดสักตัว
stabilizer พวกนี้ราคามันไม่เคยถูกอยู่แล้วครับ