บริษัทแห่งหนึ่งในจีนออกนโยบายไล่พนักงานที่ซื้อ iPhone7 และ iPhone7 Plus ออก สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียจีนอย่างมากว่าทำเกินเหตุ ล่าสุดบริษัทดังกล่าวกำลังพิจารณานโยบายบริษัทตัวเองใหม่
สำหรับประกาศที่ออกมาเมื่อวันที่ 18 กันยานที่ผ่านมา ระบุว่า บริษัทของเราห้ามพนักงานทุกคนใช้หรือซื้อ iPhone7 และ iPhone 7 Plus ใครก็ตามที่พบละเมิดกฎที่จะถูกบังคับให้ลาออกทันที และเรียกร้องให้พนักงานหยุดซื้อสินค้าของสหรัฐฯ และญี่ปุ่น สืบเนื่องจาก 18 กันยายน เป็นวันครบรอบ 85 ปีที่ญี่ปุ่นบุกจีนในปี 1931
หลังจากประกาศดังกล่าวหลุดออกไปในโลกออนไลน์ ผู้ใช้โซเชียลมีเดีย Sina Weibo กว่า 6 ล้านคน ก็ถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างล้นหลาม ส่วนใหญ่เป็นไปในทำนองว่าบริษัทนี้ทำเกินกว่าเหตุ ละเมือสิทธิเสรีภาพลูกจ้างมากเกินไป
ด้านพนักงานในบริษัทดังกล่าว ชื่อเล่นว่า Liu ระบุว่า จดหมายประกาศดังกล่าวมาจากประธานบริษัทโดยตรง
ภาพจาก Apple
ที่มา - People's Daily, China
Comments
มันเกี่ยวไหมเนี่ย แยกแยะกันบ้างนะ
Get ready to work from now on.
จีนมีรูปแบบของเค้านะครับ
เรื่องแบบนี้บางทีก็ไม่ใด้มาจาก บ. แต่ บ. ก็บอกที่มาของนโยบายไม่ใด้
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
น่าจะเพิ่งมีบ.เดียวนะ เลยโดนวิจารณ์กัน ที่มาก็คงเป็นเจ้าของบ.คลั่ง
มันมีแบบนี้ทุกที่แหละที่เจ้าของคิดฟุ้งซ่านไปว่าต้องแบบนั้นแบบนี้ แล้วพยายามบังคับคนอื่นทำตาม
เรื่องของเรื่องคือ วันครบรอบ 85 ปีที่ญี่ปุ่นบุกจีน เพราะว่าเรื่องเกิดมานานแล้วคนจีนไม่น่าจะจำใด้ ผมเลยคิดว่ามีใบสั่งมากกว่า
จีนเองก็มีท่าไม่ชอบที่ apple ไม่ยอมให้เจาะ iphone อยู่เหมือนกัน ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?
https://youtu.be/6Afpey7Eldo
iPhone7 => iPhone 7
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เกาหลีรอดได้ไง สมัยก่อนยังเรียก高麗棒子อยู่เลย
ละใช้โทรศัพท์จีนที่ใช้ android ได้ไหม นั่นก็ american นะ
สงครามมันจบไปนานแล้ว แต่ความแค้นยังฝังหุ่น คงมีแต่คนจีนหัวโบราณเท่านั้นที่ใช้ตรรกะแบบนี้ ไม่งั้นอเมริกากับญีปุ่น เยอรมัน คงแบนสินค้ากันให้วุ่นวายเพราะความแค้นสมัยสงครามโลก หรือแม้แต่คนไทยอาจแบนพม่าเพราะเคยกรุงศรีฯแตกถึงสองครั้ง
นานแล้วก็จริง แต่ก็ไม่ได้นานมาก ก็ยังมีหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์นั้นมาที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาจจะเป็นพวกผู้บริหารบริษัทนั้นก็ได้มั้งครับ ซึ่งผมมองว่าไม่เห็นจะแปลกตรงไหน
ที่ผมว่าแปลกคือ คนบางกลุ่มที่เกลียดนู้นชาตินี้ ดูถูกเหยียดหยามชาตินั้นมาตลอด แต่พอโดนฝ่ายนั้นเกลียดบ้าง กลับทำเป็นรับไม่ได้เนี่ยแหละ
ประเทศไทยมีตัวอย่างด้วยครับมีช่วงหนึ่งพยามให้เลิกใช้ซิม A...
"คนบางกลุ่มที่เกลียดนู้นชาตินี้ ดูถูกเหยียดหยามชาตินั้นมาตลอด แต่พอโดนฝ่ายนั้นเกลียดบ้าง กลับทำเป็นรับไม่ได้เนี่ยแหละ" >> คนที่ไปซื้อบ้านแถวอเมริกาไปอยู่ตอนแก่หรือเปล่าครับ:P
ดร. คนนั้นสินะ
เหตุการณ์ที่ว่าเกิดขึ้นปี 1931 คนที่จะเหลือรอดมาจนถึงตอนนี้ อย่างน้อยก็ต้องอายุอย่างน้อยที่สุด 90 ปีครับ (คิดง่ายๆ ว่าเค้าอายุ 5 ขวบตอนช่วงเหตุการณ์ที่ว่า เด็กกว่านั้นไม่น่าจะจำอะไรได้แล้ว) เพราะฉะนั้นประโยคที่บอกว่า "นานแล้วก็จริง แต่ก็ไม่ได้นานมาก ก็ยังมีหลายคนที่เคยผ่านประสบการณ์นั้นมาที่ยังมีชีวิตอยู่ และอาจจะเป็นพวกผู้บริหารบริษัทนั้นก็ได้มั้งครับ ซึ่งผมมองว่าไม่เห็นจะแปลกตรงไหน" ผมคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ครับ คนที่อายุ 90 กว่าแล้วยังเป็นผู้บริหารของบริษัทนี่ผมว่าคงไม่ใช่ครับ ถึงใช่คนอายุขนาดนั้นก็คงไม่มีอำนาจทางบริหารขนาดที่ว่า
ถ้านึกเล่นๆ เท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ คนที่เป็นบิดาหรือมารดาหรือบรรพบุรุษปลูกฝังความเกลียดชังที่มีต่อเหตุการณ์ในอดีตผ่านมายังรุ่นลูกรุ่นหลาน แล้วทำให้เด็กคนนั้นโตขึ้นมามีอคติกับชาติอื่น โดยที่เด็กคนนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมใดๆ กับสงครามในอดีตครั้งนั้น เด็กคนนั้นก็โตมาเป็นผู้บริหารพร้อมทั้งความคิดชาตินิยมที่ถูกปลูกฝังมาแบบผิดๆ
ซึ่งถ้าผมมองก็เหมือนประวัติศาสตร์ไทยที่ปลูกฝังให้เราเกลียดชาติอื่น เช่น พม่า เขมร โดยที่จริงๆ แล้วเรื่องสงครามในอดีตมันก็ผ่านมานานจนไม่มีใครเหลือชีวิตกันอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันเราก็ยังเน้นปลูกฝังเรื่องเหล่านี้ในหัวของเด็กรุ่นหลังกันต่อไป
ส่วนตัวคิดว่าเราควรจะเลิกล้างสมองเด็กรุ่นหลังกับเรื่องราวในอดีต ถึงแม้ว่ามันจะขมขื่นแค่ไหน เพราะการปลูกฝังเรื่องนี้ผมมองว่าไม่ได้มีประโยชน์อันใดแม้แต่น้อยครับ ท่าจะสอนก็ควรถ่ายทอดเป็นอุทธาหรณ์สอนให้เด็กรุ่นใหม่อย่าทำแบบอย่างคนรุ่นเก่าซึ่งน่าจะมีประโยชน์มากกว่าครับ
+1
นึกถึงบ้านเราเองสมัยก่อนคนแก่ๆก็จงเกลียดจงชังพม่าอย่างไม่มีเหตุผล หาว่าชอบมาทุบหัวนายจ้างบ้าง ขี้ขโมยบ้าง ทั้งที่เป็นส่วนน้อย ข่าวก็ประโคมกันเข้าไป จนพอมายุคใหม่ คนยุคใหม่ไม่แคร์เรื่องชาติพันธ์ แต่แคร์เรื่องต้นทุน ก็จ้างกันใหญ่ แล้วก็กลายเป็นว่าได้พบกับอะไรที่ดีกว่า (ขยันกว่า ซื่อสัตย์กว่า จุกจิกน้อยกว่า แม้กระทั่งผิวพันธ์บุคลิกยังน่าจะดีกว่าโดยรวมๆ)
ถ้าเอางั้นจริงคงต้องปิดบริษัทครับ เพราะcpuคอมตอนนี้มาจากบริษัทเมกันทั้งคู่
ตะ แต่iPhone มันผลิตในจีนไม่ใช่หรอ
เอามาบังคับใช้ในไทยมั่งสิ ม.44
ในประเทศจีนมีบริษัทกี่แสนบริษัท
เอาที่สบายใจเลย…
ก็ไม่แปลกใจนะครับ ที่เขาจะชาตินิยมของเขา
แต่ผมว่า ถ้าเป็นผม คงจะเอาเล่น ว่าถ้าซื้อ เครื่องแบร์นจีน บริษัท ช่วยจ่ายกี่ % ก็ว่าไป ดีกว่า
+1
ปรับกลยุทธในทางบวกแบบนี้จะดีกว่า สร้างแรงจูงใจ ดีกว่าสร้างความเกลียดชัง
ถ้ามีโปรนี้จริงผมนี่รีบทิ้ง iPhone ไปซื้อ Huawei P9 เลยครับ 555
+1
Idea ดีอ่ะครับ
ละเมือ > ละเมิด
จะมือถือจีนก็แอนดรอยด์ของมะกันอยู่ดี
แล้วคอมฯ หลีกชิ้นส่วนกับซอฟต์แวร์มะกันได้เหรอ
ละเมือสิทธิ ผิดนะ ๆ
ญี่ปุ่นบุกจีนปี 1931
แล้วถ้าเมกันกับรัสเซียไม่มาช่วยไล่ญี่ปุ่นตอน ww2 คงเละไปนานแล้ว ตอนนั้นเหมากับเจียงฟัดกันอย่างกับอะไรดี
แบบนี้สิของจริง ไม่เหมือนกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งในไทย ดีแต่ปาก
แต่มัน Made in China นะ
ต้องแบนบริษัทจีนที่รับเงิน US ด้วยครับ
มะกันช่วยจีนรบญี่ปุ่นด้วยนี่หว่า ด้วยการบุกฝั่งแปซิคฟิค
เป็นเอามาก ถ้าจีนทำแล้วมีคนอวยว่าดี อย่างนี้ไทยก็ต้องต่อต้านพม่าด้วย ในวันครบรอบกรุงศรีแตกและถูกเผาเมือง
อะไรแปลกๆมักจะเกิดที่จีนทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะสินค้าจีน