รัฐมนตรีกระทรวง Modernization (ผมไม่รู้จะแปลว่าอะไรครับ) ของนอรเวย์ ประกาศในแผน eNorge 2009 ว่าประเทศนอรเวย์จะไม่ใช้ฟอร์แมตไฟล์ของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง (พูดอ้อมๆ แต่จริงๆ มันแปลว่า .doc) โดยภายในปี 2005 นี้จะเริ่มทำการย้ายระบบ และสิ้นปี 2006 การส่งข้อมูลระหว่างประชาชนกับรัฐ และภายในรัฐเอง จะไม่ใช้ฟอร์แมตเฉพาะทั้งหมด
ในข่าวไม่ได้พูดถึง OpenDocument แต่คงใช้ตัวนี้แน่นอน
ผมอ่านความเห็นใน /. เค้าเถียงกันว่า นอรเวย์ประเทศเดียว จะมีค่าพอให้ไมโครซอฟท์มาง้อเหรอ สรุปว่าที่มีคนยกตัวเลขมาอ้าง นอรเวย์เป็นชาติที่มีน้ำมันอันดับต้นๆ ของโลก และมีจีดีพีต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน เอาเป็นว่ารวย ประชากรมีการศึกษา และซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สก็ได้รับความนิยมสูง เล็งเห็นผลประโยชน์ของการใช้ฟอร์แมทเปิด ว่าจะป้องกันข้อมูลของคุณอ่านไม่ได้ในอนาคต อีกประเทศที่ประกาศไปแล้วคือ เปรู
เมื่อรัฐประกาศใช้แล้ว แน่นอนว่าคอมทั้งหมดของรัฐต้องลงโปรแกรมที่ใช้ OpenDocument ได้ ลูกโซ่ขั้นถัดไปก็คือประชาชนที่ต้องทำงานติดต่อกับรัฐ (ซึ่งก็ทั้งหมดนั่นล่ะ) ย่อมต้องใช้ OpenDocument ด้วย สมมติผมเป็นบริษัทข้ามชาติที่ทำธุรกิจกับนอรเวย์ ก็ต้องโดนผลกระทบนี้เช่นกัน
อ่านแล้วจับประเด็นดีๆ นะครับ เรื่องนี้โอเพ่นซอร์สไม่สำคัญ สำคัญที่ open standard ต่างหาก ถึงจะใช้ OpenOffice.org กันทั้งประเทศ แต่ฟอร์แมทยังเป็นฟอร์แมทปิดอยู่ (.doc) รัฐบาลก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร แต่กลับกันถ้าทั้งประเทศใช้ฟอร์แมทมาตรฐาน ถึงคนจะใช้ MS Office มันก็ไม่มีปัญหา ใช้อะไรก็ได้นี่นา
อย่าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัวนะครับ ผมบอกได้แค่ว่า ถึงแม้ของประเทศไทยหนทางเรื่องนี้จะอีกยาวไกล แต่มันก็ไม่ใช่ไม่มีคนที่มีอำนาจในวงการ ICT บ้านเราที่สนใจเรื่องนี้ ประมาณปลายๆ ปีเรื่อง open standard ในประเทศไทยน่าจะมีข้อมูลออกมาให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ตอนนี้อยู่ว่างๆ โหลด OpenOffice.org 2.0 มาหัดใช้กันมันก็ไม่เสียหลายครับ
เรื่องฟอร์แมทเปิดนี้ ผมเคยเขียนถึงไปหลายครั้งแล้ว เลยเอามาแปะให้อ่านกันอีกรอบ อ่านแล้วยังไงช่วยบอกต่อด้วยครับ http://www.isriya.com/column/byteculture/26-opendocument http://www.isriya.com/column/byteculture/27-opendocument2 http://www.isriya.com/column/byteculture/28-opendocument3