ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา เกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งแบบเขย่าขวัญสัญชาติไทย ที่วางจำหน่ายบน Steam กำลังเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียและ YouTube จากทั้งกลุ่มคนเล่นและนักแคสต์เกม ซึ่งหนึ่งในเกมที่เป็นที่พูดถึงและคาดหวังกันเป็นอย่างมากก็หนีไม่พ้นเกม Home Sweet Home จากค่าย Yggdrazil Group

Blognone ได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณศรุต ทับลอย หรือคุณแช็ค ไดเรกเตอร์ของเกม Home Sweet Home และผู้ก่อตั้ง Yggdrazil Group ถึงแรงบันดาลใจ อุปสรรคและความคาดหวังในการผลักดันเกมไทย ให้ไปสู่ระดับสากล

รู้จัก Yggdrazil Group

Yggdrazil Group เป็นโปรดักชันเฮ้าส์ด้าน VFX และ CGI ระดับแนวหน้าของไทย มีผลงานและรางวัลมาแล้วมากมาย พร้อมวิสัยทัศน์ ที่ต้องการให้วงการ CGI ของไทยเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ก่อนที่จะตัดสินใจหันมาพัฒนาเกมของตัวเอง Yggdrazil Group มองว่า Digital Media จะมีบทบาทมากยิ่งขึ้น จึงต้องการทำอะไรซักอย่างที่ interactive นอกเหนือจาก VFX และ CGI ที่เชี่ยวชาญ

คุณศรุต ทับลอย Director เกม Home Sweet Home และ Co-Founder Yggdrazil Group

ด้วยเหตุนี้ Yggdrazil Group จึงจัดตั้งทีมพัฒนาเกมขึ้นมา เพื่อต่อยอดองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญที่มี และแบ่งเป็น 2 ทีมย่อยตามเอนจินท์ที่ใช้ คือทีม Unreal Engine กับ Unity Engine ที่ทำเกมลงบนสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ

ทำไมถึงเป็น Home Sweet Home

ถึงแม้จะหันมาทำเกม แต่ทัศนะของบริษัทก็ยังคงเหมือนเดิมที่ต้องการให้เกมไทย ไปยืนอยู่ในระดับสากลได้ ประกอบกับมองว่า เมื่อทำเกมก็อยากทำเกมที่มีเอกลักษณ์ (uniqueness) พร้อมขายความเป็นไทยไปในตัว (ลักษณะเดียวกับที่ญี่ปุ่นขายวัฒนธรรมผ่านเกม อนิเมะ ฯลฯ) ทีมจึงตัดสินใจเลือกเอาความเชื่อของไทยมานำเสนอ ประกอบกับเริ่มฟอร์มทีมช่วงที่ Silent Hill ภาคใหม่ปล่อย Playable Teaser ออกมา จึงได้แรงบันดาลใจ ในแง่ที่ต้องการทำเกมที่มีคุณภาพกราฟิคระดับเดียวกัน

คุณแช็คบอกด้วยว่า ข้อดีในการพัฒนาเกมผี คือการทำฉาก แม็พ หรือองค์ประกอบต่างๆ ไม่จำเป็นต้องอลังการแบบหรือสวยงามยิ่งใหญ่ ทำให้ไม่ต้องใช้ทรัพยากรสูงมาก (เนื่องจากทีมพัฒนามีทรัพยากรคนจำกัด) แต่ความยากคือการเล่นกับจิตวิทยาความกลัวของผู้เล่น การชักนำความคิด อารมณ์ร่วมให้ผู้เล่นรู้สึกอินไปกับตัวเกม ซึ่งตัวคุณแช็คเองก็ต้องไปเรียนและศึกษาจิตวิทยาความกลัวเพื่อทำเกมนี้โดยเฉพาะด้วย

ผมถามคุณแช็คว่า แล้วการใช้องค์ประกอบแบบไทยๆ อย่างเสียงสวด เสียงระนาดและดนตรีไทยมาประกอบแบบนี้ ผู้เล่นต่างชาติจะกลัวและอินเหมือนคนไทยแค่ไหน คุณแช็คยอมรับว่าก็ไม่ชัวร์เหมือนกัน แต่ก็พยายามใส่รายละเอียดต่างๆ ลงไปในเกม เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับบริบทของไทยด้วย

ขณะที่จุดประสงค์หนึ่งของเดโมที่ทำออกมา ก็เพื่อสำรวจประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน และเมื่อดูจากเสียงตอบรับและการแคสต์บน YouTube ก็ถือว่าสร้างอารมณ์และบรรยากาศความกลัวให้ชาวต่างชาติได้สำเร็จระดับหนึ่ง

ผู้กำกับ Home Sweet Home มองว่าความกลัวเป็นสิ่งที่สร้างได้และเป็นความรู้สึกที่มนุษย์มีร่วมกัน (common) แต่สิ่งสำคัญคือต้องอาศัยจิตวิทยาในการสร้างบรรยากาศและการหลอก ซึ่งคุณแช็คยืนยันว่า รูปแบบของผีและรูปแบบการเล่นในเกมมีหลากหลาย ไม่ซ้ำและหลากหลาย แตกต่างจากในเดโม่แน่นอน และเชื่อว่าผู้เล่นจะได้สัมผัสอรรถรสความกลัวทุกรูปแบบ

ระยะเวลาในการพัฒนาและอุปสรรค

ถ้านับกันตั้งแต่เริ่มแผนแล้ว Home Sweet Home ใช้ระยะเวลาพัฒนากว่า 2 ปี ซึ่งกระบวนการทำงานก็ไม่ได้เป็นเส้นตรงเสียทีเดียว มีการโละทิ้ง ทำใหม่ถึง 2 รอบ

ครั้งแรกตัดสินใจจะทำเกมลงบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่เมื่อทำไปแล้วพบข้อจำกัดเยอะ และไม่ตอบสนองต่อจุดขายของบริษัทในแง่ของกราฟิค จึงตัดสินใจย้ายมาทำเกมสำหรับพีซีแทน

เมื่อมาทำบนพีซี ด้วยความที่เป็นทีมขนาดเล็ก จึงตัดสินใจทำเกมสเกลเล็ก ง่ายๆ สั้นๆ ตามไปด้วย แต่พอปล่อยทีเซอร์เกมลงบน Steam Greenlight จึงได้เห็นฟีดแบ็คที่เต็มไปด้วยความอยากเล่นและความคาดหวังที่ค่อนข้างสูง ทีมจึงกลับมามองว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ ตอบสนองสิ่งที่ผู้เล่นต้องการไม่ได้ จึงรื้อใหม่อีกครั้ง คราวนี้คิดการใหญ่ ระดมทุนเพิ่ม

อุปสรรคสำคัญอีกอย่างคือทรัพยากรคน เนื่องจากคนไทยที่ใช้ Unreal Engine เป็นมีอยู่เพียงหยิบมือเท่านั้น

สรุปแล้วกลุ่มเป้าหมายคือคนไทยหรือคนต่างชาติมากกว่ากัน

อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นที่ว่าอยากให้เกมไทย เป็นที่ยอมรับในระดับสากล กลุ่มเป้าหมายหลักย่อมเป็นผู้เล่นต่างชาติ อยากให้กลุ่มนักพัฒนาเกมและเกมสัญชาติไทย ได้รับความสนใจและจับตามองมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็แน่นอนว่าอยากให้คนไทยภูมิใจและร่วมกันสนับสนุน โดยทางทีมพยายามจะเอาความคาดหวังและฟีดแบ็คต่างๆ จากเดโมมาตีเป็นโจทย์และแก้ไข พัฒนาต่อไป

จะทำลงแพลตฟอร์มอื่นหรือมี DLC ไหม

ตอนนี้กำลังดูความเป็นไปได้ด้านโปรแกรมมิงสำหรับการพอร์ทไปลง macOS รวมถึงกำลังศึกษาช่องทางสำหรับวางจำหน่ายบน Xbox One และ Playstation 4 ด้วย และด้วยความที่ Home Sweet Home เป็นเกมที่รองรับระบบ VR ตั้งแต่แรก (แพลนที่จะทำลง PS4 ก็จะรองรับ PS VR เช่นกัน) มีกระแสเรียกร้องให้ทำเกมลงบนแพลตฟอร์ม HTC Vive โดยตรงเลย เนื่องจากคนใช้ค่อนข้างเยอะ ซึ่งคุณแช็คยอมรับว่าค่อนข้างยาก เนื่องจากส่งผลต่อการออกแบบตัวเกมโดยตรง หากจะทำก็อาจจะต้องทำใหม่ทั้งหมด อาจจะไม่คุ้ม แต่ก็ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ออก

ส่วน DLC คงต้องดูเสียงตอบรับหลังปล่อยเกมตัวเต็มอีกที

เสียงตอบรับหลังปล่อยเดโมเป็นอย่างไร คาดหวังอะไรกับเกมนี้

เสียงตอบรับค่อนข้างบวก ทั้งจากคนไทยและต่างชาติ แต่ก็ยอมรับว่ามีคนอวย ขณะที่บน YouTube ยังคงมีคนแคสต์ Home Sweet Home ออกมาเรื่อยๆ โดยตอนนี้มีกว่าพันคนแล้ว

ส่วนความคาดหวัง คุณแช็คยอมรับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรไว้เยอะ แค่อยากให้คนไทยมีศรัทธาในผู้พัฒนาเกมไทยมากขึ้น ขณะที่กำไรก็ไม่ได้หวังไว้สูงเช่นกัน อยากได้แค่พอมีทุนพอจะทำทีมที่ใหญ่ขึ้น เพื่อพัฒนาเกมให้ดีกว่านี้

มองวงการเกมไทยปัจจุบันยังขาดอะไรและต้องปรับปรุงอะไร

คุณแช็คมองว่าวงการเกมไทยยังขาดการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ ตั้งแต่สถาบันครอบครัว เกมยังถูกมองว่าไร้สาระ พอขาดการสนับสนุน สิ่งที่เป็นผลกระทบตามมาในวงการคือเงินทุนและบุคลากร ที่ขาดแคลนตามไปด้วย

อยากฝากอะไรถึงผู้เล่นและคนที่รอคอยเกมไหมครับ

อยากให้ช่วยติชม คอมเมนท์ อยากเห็นอะไร อยากให้อะไรแก้ไข อยากได้อะไรในเกมบอกกันได้ ทางเฟซบุ๊กเพจ ซึ่งผู้กำกับบอกว่าทำให้หรือตอบรับได้ไม่หมดทุกคน แต่จะพยายามรวบรวมเอามาตีเป็นโจทย์ เป็นแรงบันดาลใจเพิ่มเติม

ในฐานะผู้พัฒนา ก็อยากให้คนไทยช่วยกันสนับสนุน โดยเฉพาะการซื้อของแท้ ไม่ซื้อไม่เป็นไร ดูแคสต์บน YouTube ไม่เป็นไร แต่ขอว่าอย่าซื้อของก๊อป เพื่อที่ทีมจะได้มีทั้งกำลังทุนและกำลังใจจะพัฒนาเกมดีๆ ต่อไป พร้อมฝากผลงานของ Yggdrazil Group ไวด้วยครับ