จากกรณี Uber โดนประท้วงหนัก เพราะซีอีโอไปเป็นที่ปรึกษาให้ Donald Trump ในที่สุด ซีอีโอ Travis Kalanick ก็ทานกระแสไม่ไหว ประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาแล้ว
Kalanick เขียนบันทึกภายในส่งถึงพนักงาน เล่าว่าเขามีโอกาสได้คุยกับ Trump สั้นๆ เกี่ยวกับคำสั่งแบนผู้อพยพ และแจ้ง Trump ไปว่าเขาคงไม่สามารถเข้าร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจได้อีก เขาอธิบายว่าการร่วมเป็นที่ปรึกษาไม่ได้แปลว่าสนับสนุนนโยบายของ Trump แต่ก็โชคร้ายว่าถูกนำไปตีความในทางนั้น
ต้องรอดูกันต่อไปว่า หลัง Kalanick ลาออกแล้ว จะมีซีอีโอชื่อดังคนอื่นๆ ในคณะที่ปรึกษาลาออกตามหรือไม่ ซีอีโออีกคนที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักคือ Elon Musk
ที่มา - New York Times, ภาพจาก Travis Kalanick
Comments
การอยู่เพื่อจะค้าน มันต้องใช้ความอดทนมากพอดู และผลมันก็ไม่ได้ออกมาดีอยู่แล้ว ถ้าคุณค้านไม่สำเร็จ คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย ถ้าคุณค้านสำเร็จ ก็มีคนส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจและกดดันคุณต่อไปอยู่ดี
Jusci - Google Plus - Twitter
เสียดายนะ แทนที่จะอยู่เพื่อเสนอแนวทางร่วมกัน กลายเป็นว่าถ้าไม่เห็นด้วยก็ลาออกกันหมด แบบนี้ทรัมป์อยากทำอะไรก็ทำจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่
นั่นสิครับ เป็นที่ปรึกษา ก็มีโอกาส ผลักดันเรื่องอื่นๆ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว น่าคิดดีนี่หรือสังคมประชาธิปไตยผู้เจริญแล้ว (มีการกดดันทางสังคม โซเซียล สื่ออื่นๆ บอยคอร์ด แบนสินค้า บลาๆๆ)?? หรือบางทีประเทศที่เจริญแล้วไม่ได้หมายถึงความคิดแต่เป็นวัตถุกันรึเปล่านะ ??
จริงๆ แล้วธุรกิจ Uber ก็คล้ายกับของ Elon Musk ตรงที่ตัวกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องยังมีสีเทาๆ แทนที่จะเข้าให้คำแนะนำให้เข้าที่เข้าทาง ถอยออกมาเนี่ยผมว่าอาจลำบากในระยะยาวนะ
Travis เข้าไปก็เพื่อให้มีปากมีเสียงผลักดันธุรกิจ UBER เพราะอนาคตพวกบริการ sharing economy มันไม่แน่นอน ถ้าล็อบบี้ให้ออกกฎหมายรองรับได้ก็สบาย แต่กลายเป็นว่า UBER ดันจะล่มจมเพราะ CEO ไปอยู่กับปธน.ที่คนไม่ชอบ ก็ต้องรีบปรับเกมกับตามน้ำล่ะครับ ตอนนี้ทางออกที่ดีที่สุดคือถอยออกมาก่อน
@mamuang
ปีชง Uber ใช่มั๊ยเนี่ย??
ข่าวข้างล่างก็ยุติบริการที่ไต้หวัน