ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในงานแถลงข่าวของ AIS วันนี้ ว่าเตรียมเสนอแผนตั้ง Digital Park Thailand เขตอุตสาหกรรมดิจิทัลขนาดใหญ่ที่ภาคตะวันออกของประเทศไทย
โครงการ Digital Park Thailand จะใช้ที่ดินของ CAT Telecom ที่มีอยู่ประมาณ 500 ไร่ สร้างพื้นที่นวัตกรรม โดยอาศัยจุดแข็งด้านการต่อเชื่อมกับ Eastern Seaboard ดึงบริษัทไอทีระดับโลกอย่าง Google, Facebook, Amazon และมหาวิทยาลัยต่างๆ มาร่วมใช้พื้นที่นี้ เพื่อดึงดูดแรงงานด้านดิจิทัลระดับหัวกะทิมาทำงานที่นี่
ดร.พิเชฐ มองว่าจะออกมาตรการจูงใจ เช่น งดเว้นภาษีตามแนวทาง BOI เพื่อดึงดูดให้บริษัทต่างๆ เข้ามาลงทุน ตอนนี้สถานะของโครงการนี้ยังอยู่ในขั้นพัฒนาแนวคิด และจะร่างแผนอย่างละเอียดในเร็วๆ นี้
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เค้าจะไม่กล้าเข้ามาเพราะความประหลาดของพรบ.คอมฯของไทยนี่แหละ
+1
ไม่แปลกใจว่าทำไมGoogleและFacebookทำเซริฟเวอร์ที่สิงคโปร์
เพราะ network เสถียรกว่า ใช่เปล่าครับ
เอิ่ม...เอาจุดแข็งด้าน logistic มาดึงดูดบริษัท IT ?!?!
+1 ครับงงเหมือนกัน แต่้ขาอาจขะหมายถึงบริษัทฮาร์ดแวร์ครีบแต่ในข่าวยิยกตัวอย่างแต่ซอฟท์แวร์ XD
คิดว่าที่เลือกแถวนั้นเพราะมี Cable ใต้น้ำอยู่ใกล้ๆ นะครับ
http://www.submarinecablemap.com/
ถ้าเลือกเพราะแบบนี้ เค้าเลือกสิงค์โปร์ดีกว่าครับ
เข็ดหลาบตอนตึก CAT โดนบุกตัดไฟ
คณะเผด็จการตอนไปเยือนจีนก็เห็นมีคุยกับ Baidu หนิครับ 55555
ผมว่าไปหาทำเลที่ตั้งที่มันออกจากตัวเมืองอื่น ๆ ไปดีกว่า สร้างเมือง IT ใหม่เลย และลดภาษีตรงเมืองใหม่นี้ลง จะได้กระจายความเจริญไปพื้นที่อื่น ๆ บ้าง ไม่ใช่แออัดแต่ตัวหัวเมืองเดิม
ไม่รู้จะอธิบายยังไง
เดี๋ยวก่อนนะ Silicon Valley ไม่ได้เติบโตได้ทุกวันนี้เพียงเพราะว่ามันติดทะเล อีกทั้งมันก็ไม่มีท่าเรือน้ำลึกอย่าง Eastern Seaboard ด้วย มันก็โตไปของมันได้
อันที่จริงแล้ว อุตสาหกรรม IT จริงๆ แล้วมันจะอยู่ที่ไหนก็ได้ ใจกลางย่านธุรกิจก็ได้ ชานเมืองหลวงก็ได้ หรือจะต่างจังหวัดติดชายทะเล หรือจะอยู่บนดอยก็ยังได้ รวมถึงจะไม่ได้อยู่ในไทย แต่ก็ทำธุรกิจในไทยก็ยังได้ คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อยนะครับ ว่าวางแผนเชิงกลยุทธ์อย่างไรที่จะดึงดูดนักลงทุนให้มาเลือกลงทุนที่นี่ แทนที่จะเป็นประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สิงค์โปร์ มาเลเซีย รึแม้แต่ อินโดนีเซีย
บริษัทเค้าคงจะดู ความซับซ้อนของกฎระเบียบในการทำธุรกิจ ความโปร่งใส การบังคับใช้กฎหมาย ความแน่นอน/ต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐ ความพร้อมในการใช้ภาษาอังกฤษ (ทั้งรัฐและลูกจ้าง) ภาษีรายได้นิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา ฯลฯ
หวังว่าจะไม่ใช่เป็นการอุ้มชูหน่วยงานภาครัฐอย่าง CAT ให้มีแหล่งรายได้จากการให้เช่าที่ผูกขาดเป็นเวลานาน 30 ปีนะครับ
"หวังว่าจะไม่ใช่เป็นการอุ้มชูหน่วยงานภาครัฐอย่าง CAT ให้มีแหล่งรายได้จากการให้เช่าที่ผูกขาดเป็นเวลานาน 30 ปีนะครับ" นั่นแหล่ะครับท่านผู้ชม
อืมมม ประเด็นนี้น่าคิด
ผมมองในมุมของคนคิดนะว่า คงแบบ "อยากจะทำโครงการอะไรแบบนี้ เอาที่ไหนดีหละ อ่าวมีที่ตรงนี้หรอ ใกล้กรุงเทพ ติดทะเล มีพื้นที่ เอาตรงนี้ละกัน น่าจะดี" ประมาณแบบนี้รึเปล่า 555
คือ ถ้าตอบนักลงทุนไม่ได้ว่า "ทำไม" ต้องประเทศไทย (กรอบใหญ่) และทำไมต้องไปลงทุนตรงนั้น ที่อื่นไม่ได้หรือ (กรอบเล็ก) มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก เพราะเงินภาษีเราๆท่านๆจะสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง?
อย่างน้อยๆ ก็เริ่มคิดกันได้ครับ จะได้ไม่ต้องแห่แหนกันเข้าไปสีลม
positivity
โครงการ Smart Province นครนายก กับ Phuket Smart City คืบหน้าไปถึงไหนแล้วครับ
แล้ว single gateway?
อ่านข่าวแล้วแปลกๆ งานแถลงข่าวของ AIS แต่รมต.mitc กล่าวถึง CAT เผอิญคุณมาร์คไม่มีลิงค์ที่มาของข่าวให้ดู เลยมโนไม่ถูก ใช้ google ส่องข่าวก็ไม่เจอ(เห็นว่าข่าววันนี้) เจอแต่ข่าวปลายปีที่แล้วของ CAT และ True หรือมีหลายแผน งงนะตะเอง
ข่าวของ CAT ใช้คำว่า "Digital Innovation Park" (อันนี้ใกล้เคียงกับข่าวหน่อย)
https://www.it24hrs.com/2016/cat-digital-innovation-park/
ข่าวของ True ใช้คำว่า "True Digital Park" (อันนี้ตั้งที่สุขุมวิท)
http://www.ninethaiphone.com/?p=77771
ผมอยู่ในงานแถลงครับ เห็นว่ามี Live ให้ดูบน YouTube ด้วย ลองดูเทปย้อนหลังได้ครับ
Surreal ยิ่งนัก
มันไม่ใช่ว่าควรอยู่ใกล้มหาลัยแข็งๆ สาย IT หรอกเหรอ ดึงเด็กเกียรตินิยมมาง่ายๆ ไรงี้
my blog
จำได้ว่า เคยคุยกับฝรั่งคนนึง เขาบอกว่า ใจจริงจะตั้งบริษัทที่เชียงใหม่ เพราะภรรยาอยู่เชียงใหม่ ปรากฎว่าข้อเสนอ BOI ปีนั้นบีบให้ไปอยู่ที่ SW Park ก็เลยจำใจต้องมาตั้งบริษัทที่นนทบุรีแทน ...
ฝรั่งภรรยาอยู่เชียงใหม่เยอะมาก คงไม่ใช่คนเดียวกันนะ
เจ้านายเก่าผมครับ :)
ต้องอ่านข่าวนี้ด้วยจะเข้าใจเลย "อาลีบาบาปักธงแปดริ้ว รับอีอีซีดันราคาที่พุ่ง"
http://www.thansettakij.com/2017/01/31/127607
คือ อยากให้มาตั้งที่หาดใหญ่ดีกว่า เพราะสะดวกทั้งแนวเคเบิ้ล และหาดใหญ่ก็เป็นหัวเมืองหลักของภาคใต้ด้วย
ถึงวันนึงปรับกฎหมายและนโยบายได้ ก็ไม่รู้จะอยู่ได้กี่ปี ไม่เสถียรเอาซะเลย
ใครเขาจะมาครับ..
ไปอินเดีย ไปจีน
บุคลากรของประเทศเขา ฉลาด สู้งาน ทำเป็นทีม ฯลฯ
กว่าที่นี่เยอะ.
ทำไมต้องดูถูกประเทศตัวเองขนาดนั้นอะครับ เราไม่ได้ด้อยกว่าเขาเลยนะครับโดยเฉพาะ programmer เคยทำงานกับอินเดียรึยังครับ ? ผมเจอมากี่คน กี่คน ก็บ่นทั้งนั้น
บ่นเรื่องกลิ่นรึเปล่าครับ :)
เรื่องคนอินเดียจริงๆ อยากแชร์ แต่เกรงจะกลายเป็น racist 555
เอาเป็นว่ารุ่นหลังๆ มานี่ดีขึ้นมากละครับ
ที่เคยเจอมาไม่ใช่เรื่องนั้นนะครับ
แต่หลายๆคน logic ในการคิด solution จะไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านทั่วไป (ฝรั่ง, เอเซีย) นัก
บางทีคิด solution แปลกๆที่ดูไม่เข้าท่าออกมา แล้วก็บอกว่าก็แบบนี้แหละดีแล้ว ใครๆก็ทำกัน
ที่คิดแบบชาวบ้านทั่วๆไปก็มีนะ แต่จากประสบการณ์ผมเจอน้อยกว่ากลุ่มแรก
เรื่องกลิ่นนั่นก็เรื่องนึง แต่ที่ผมเจอมา เขาชอบทำตามอะไรไม่รู้แบบไม่มีเหตุผลรองรับอะ แล้วพอทำผิดก็ไม่ยอมรับว่าทำผิด คิดว่าตัวเองถูกตลอด แล้วก็คิดเองเออเองหนักมากๆสุดๆ จนในออฟฟิศผมท่องไว้ เจองูกับแขกให้ตีแขกก่อน
ที่เคยเจอคือ เวลาได้ดีจะเอาเข้าตัว เวลามีปัญหาผลักออกหมด
ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นนะครับ แต่เห็นมาจำนวนหนึ่งครับ
ไม่แน่หรอกครับ จีนผมไม่ค่อยได้ดีลงานบ่อยด้วยเลยไม่ตอบแล้วกัน แต่อินเดียเนี่ย ปัญหาเยอะครับ ปัญหาอันดับหนึ่งคือ turn over rate สูงมาก เข้ามาแป๊บๆ ก็ออก ไม่รับผิดชอบงาน หรือบางทีก็ทำเขี่ยๆ ส่ง หลายคนไม่ได้มีความรู้ในระดับที่ทำงานได้เลย เวลาผมตามงานใช้เวลาหลายวันไม่ตอบกลับ กลับกันพอเขาตามงานผมนี่ตามแบบถี่ยิบ มีการเล่นพรรคเล่นพวกสูง ผมก็ไม่อยากจะ racist นะครับ แต่จากปสก มาหลายปี ดูเหมือนดีลงานกับคนประเทศนี้ทีไรต้องใช้ความระมัดระวังมาก
แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ดีนะครับ เพียงแต่สัดส่วนน้อยหน่อยจากที่เจอมา
สิ่งที่ผมเขียนมันอาจจะดูแรงนะครับ ถ้าไปกระทบใครก็ขออภัยด้วย
เอาว่าผมบ่นเป็นแนวตัดพ้อ่ล่ะกัน ส่วนที่บอกว่าดูถูกคนไทยกันเอง ก็ต้องบอกว่าทุกวันนี้บุคลากรของเรายังไม่พอจริงๆ
และผมก็โชคร้ายที่เจอแต่สิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขียนไว้ข้างบนนะครับ
ฉลาด : จะเห็นว่าผมไม่ได้เขียนว่าประเทศอื่นเขาฉลาด(กว่า) แต่เราก็ยังไม่ได้ดีกว่าเขาเหล่านั้น
สู้งาน : อันนี้ปัญหาใหญ่ครับ คิดว่าไม่พอใจก็ลาออก เจอแรงกดดันก็ลาออก และอีกหลายๆ ลาออก
ทำเป็นทีม : อันนี้ทั่วๆ ไป เป็นยังไง ทุกท่านคงรู้กันดี (ไม่ใช่ว่าประเทศนี้ไม่มีคนแบบนี้ แต่มีน้อย)
ครับ!
ฉลาด สู้งาน ทีมเวิร์ค มีในแรงงานไทยทั้งสามคุณสมบัตินะครับ
แต่มีครบทั้งสามคุณสมบัติในแรงงานไทยคนเดียว อันนี้หายากจริงครับ
จากประสบการณ์ส่วนตัว+วัดด้วยความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ในการหาคนมาทำงาน (เฉพาะประเทศที่ผมมีสาขานะ)
ที่จริงแล้ว ที่ครบสามคุณสมบัติในคนเดียวนั้น แม้ใน สิงคโปร์ มาเลเซีย และลาว ก็หายากครับ
แต่ที่ฮ่องกง ผมกลับหาเจอในอัตราส่วนที่มากกว่า แต่... loyalty ก็แย่กว่า
เรื่อง loyalty ผมเชื่อใจคนไทยและลาวที่สุดครับ
เคยเจออินเดีย "แถหัวชนฝา" รึยังครับ พูดแบบนี้
นึกภาพออกเลย 5555
ที่ผมเจอบ่อยคือ คิด solution ไม่เข้าท่าออกมา พอแย้งไปก็ตีมึน ทำหน้านิ่งๆ ไม่หือไม่อือ แต่ตูไม่เปลี่ยนอ่ะ
แล้วก็พูดวนอย่างเดิมซ้ำๆว่าใช้ solution นี้สิ ทำแบบนี้สิ ทั้งๆที่คนอื่นๆทุกคนเห็นว่ามันไม่เข้าท่า
อันนี้คือเคยทำงานด้วยหรือคิดไปเองครับ
จากปสก.คนประเทศเราก็ไม่ได้แย่กว่าเขา มีดีมีแย่เหมือนๆกัน ถ้าคนไม่ขาดยังไงคนในประเทศก็คุยกันง่ายกว่าเยอะ
จีนนี่ infra เค้าก็ไม่เอื้อกับการไปตั้งบริษัทบางประเภทครับ อยู่ๆมั่วไปตั้งไม่ใช่ว่าต้นทุนจะถูกหรือจะหาคนได้
ปัญหาเราคือบุคลากรที่ต้องการไม่พอมากกว่า ถ้าถามสัดส่วนคนจบสายนี้แต่ละปีทั้งประเทศเราใช้งานได้ตรงสายน้อยมาก (อันนี้ประเทศอื่นเป็นไงไม่รู้ไม่เคยเห็นสถิติและไม่คิดว่าตัวเองอยู่ใกล้ชิดขนาดนั้นแต่จากพวกที่โผล่มาทำงานด้วยก็ไม่ได้ดีกว่าเรา)
แค่ข่าว ขาดแคลนโปรแกรมเมอร์ของไทย ก็ดูหมดหวังอ่ะค่ะ
คราวนี้ อินเดีย ปากี เนปาล บังคลาเทศ มาเต็มsw park แน่ ยิ่งอยากมาอยู่เมืองไทยจะตาย
อยากดึง บ. IT ต่างชาติมาคงต้องตั้งเขตพิเศษกับ กม.เฉพาะแล้วล่ะ พรบ.คอมไทยให้อำนาจเบ็ดเสร็จแทรกแซงเขาขนาดนั้นใครเขาจะมา
+1
แนวคิดโบราณมาก จะดึงอะไรตั้งนิคมของอันนั้น ได้ผลแค่ระยะสั้น เท่านั้นแหละครับ
คือยุคนี้เป็นยุคที่อะไรควรจะกระจายฐานนะ ยิ่งงาน IT เมืองนอกแทบจะไม่มีออฟฟิศกันแล้วครับ เพื่อนผมหลายคนทำงานที่บ้าน บางคนเข้า ออฟฟิศ 3-4 วัน ที่เหลือรีโมทเอา หรือเดินทางออกนอกสถานที่
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ
แนวคิดโบราณมาก จะดึงอะไรตั้งนิคมของอันนั้น ได้ผลแค่ระยะสั้น เท่านั้นแหละครับ
คือยุคนี้เป็นยุคที่อะไรควรจะกระจายฐานนะ ยิ่งงาน IT เมืองนอกแทบจะไม่มีออฟฟิศกันแล้วครับ เพื่อนผมหลายคนทำงานที่บ้าน บางคนเข้า ออฟฟิศ 3-4 วัน ที่เหลือรีโมทเอา หรือเดินทางออกนอกสถานที่
ที่ฝรั่งหรืออะไรพวกนี้ ต้องการส่วนใหญ่เป็น tax break อะไรพวกนี้มากกว่า อยากดึงจริงเอาพวกนี้ครับ tax break 5 ปี ถ้าจ้างคนไทย อย่างน้อย 70% บลาๆ แบบนี้น่าลงทุนกว่าครับ
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ﾉ
รวมตัวกันไว้ เวลาตัดไฟตัดเนตจะได้รวบทีเดียว ;P
เอาจริง ๆ สิทธิ์พิเศษด้านพื้นที่หรือ logistics ไม่น่าเกี่ยวอะไร ที่สำคัญน่าจะเป็นนโยบายการเปิดกว้างทาง internet และความมั่นคงมากกว่า รวมไปถึงสิทธิ์พิเศษด้านภาษีที่จะได้ เรื่องวิวเรื่องการเดินทางอื่น ๆ น่าจะเป็นของแถม
ผมก็เคยคิดแบบนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้วว่าน่าจะเปิด zone ชายหาดอ่าวไทย อันดามัน ทำเป็น zone บริษัทต่างชาติแบบสิงคโปร์
That is the way things are.