Huawei เปิดตัว P10 และ P10 Plus มือถือเรือธงรุ่นต้นปี 2017 รอบนี้ยังจับมือกับ Leica และ Porsche Design เหมือนเดิม แต่เพิ่มพันธมิตรรายใหม่ๆ คือ Pantone และ GoPro เข้ามาด้วย

Huawei P10 มีให้เลือกทั้งหมดถึง 8 สีคือ แบ่งเป็นวัสดุแบบมันเงา (high gloss) สีขาว Pearl White และวัสดุแบบด้าน (matte) คือดำ Graphite Black, เงิน Mystic Silver, ทอง Prestige Gold, ทอง Dazzling Gold และทองชมพู Rose Gold

นอกจากสีพื้นฐานแล้ว Huawei ยังจับมือกับ Pantone สถาบันด้านมาตรฐานสีชั้นนำของโลก ออกสีพิเศษเขียว Greenery และน้ำเงิน Dazzling Blue เพิ่มมาด้วย

ฮาร์ดแวร์

P10 ใช้บอดี้โลหะที่มีเทคโนโลยีวัสดุใหม่ ไม่เป็นรอย ไม่ติดรอยนิ้วมือ ตัวเครื่องหนาเพียง 6.98 มิลลิเมตร

กระจกจอใช้ Gorilla Glass 5 ที่แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม ตัวกระจกเชื่อมกับโลหะเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวสแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้กระจก

คุณสมบัติอีกอย่างคือกันน้ำตั้งแต่บนบอร์ด PCB โดยเคลือบ nano coating ให้ตัวบอร์ดกันน้ำ, รองรับชาร์จไฟไร้สาย, ระบบชาร์จเร็ว SuperCharge ชาร์จเร็วแต่เครื่องไม่ร้อน ชาร์จเพียง 30 นาทีสามารถใช้งานเครื่องได้ตลอดทั้งวัน

ขนาดจอของ P10 Plus อยู่ที่ 5.5" แต่ขนาดบอดี้ทั้งเครื่องเล็กกว่า iPhone 7 Plus เล็กน้อย หน้าจอความละเอียด 2K ความสว่างสูง 500 nits, อัตราคอนทราสต์ 1500:1

ซีพียูใช้ Huawei Kirin 960 ควอดคอร์, หน่วยความจำ 4GB พร้อมเทคโนโลยี Ultra Memory ใช้ระบบ Machine Learning ช่วยจัดระเบียบพื้นที่ในหน่วยความจำ และบีบอัดหน่วยความจำที่ไม่ใช้งาน ให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม

การเชื่อมต่อ รองรับ 4.5G LTE (Cat 12) พร้อม Quad Antenna มีเสาอากาศถึง 4 ตัวให้ประสิทธิภาพดีกว่า รองรับความเร็วสูดสุด 600 Mbps ส่วนการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก็เป็น Dual Antenna ให้ประสิทธิภาพดีกว่ามือถือทั่วๆ ไป

P10 เป็นมือถือสองซิม (ช่องซิมอันหนึ่งใช้สลับกับ microSD ได้) รองรับคลื่นความถี่ย่านต่างๆ ของโอเปอเรเตอร์ทั่วโลก

ฟีเจอร์อีกอย่างที่น่าสนใจคือ Huawei Geo ช่วยให้จับพิกัดตำแหน่งได้ดีขึ้น แม้อยู่ในอาคารที่ไม่มีสัญญาณ GPS

กล้อง

กล้องของ Huawei P10 ยังพัฒนาร่วมกับ Leica เช่นเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเลนส์กล้องที่เปลี่ยนมาใช้เลนส์ของ Leica แล้ว

รอบนี้ P10 ยังใช้ระบบกล้องคู่เหมือนกับ Mate 9 แต่เรียกว่าเป็น Dual-Camera 2.0 มีฟีเจอร์ใหม่เข้ามาหลายอย่าง รองรับระบบไฮบริดซูม จับโฟกัสได้เร็วขึ้น ถ่ายภาพติด bokeh ที่ด้านหลัง (กรณีของ P10 Plus จะเรียกว่าเป็น Dual-Camera 2.0 Pro Edition)

แอพกล้องที่ Huawei ร่วมพัฒนากับ Leica ยังมี Professional Mode ที่ปรับทุกอย่างได้ตามต้องการ, โหมด Leica Portrait ถ่ายภาพคนออกมาได้สไตล์แบบกล้อง Leica ให้อัตโนมัติ โหมดนี้มีระบบตรวจจับใบหน้า เพื่อให้ประมวลผลภาพต่อได้อย่างเหมาะสม ปรับแสงให้ใหม่ราวกับอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพจริงๆ

นอกจากกล้องหลังที่พัฒนาร่วมกับ Leica แล้ว รอบนี้ P10 ยังมี "กล้องหน้า Leica" ใช้เลนส์ F1.9 และมีโหมดถ่ายเซลฟี่ Self-Portrait ที่ผสมผสานกล้องหน้ากับเทคนิคการประมวลผลภาพร่วมกับ Leica ให้ภาพเซลฟี่ออกมาดูดีขึ้นมาก

ซอฟต์แวร์

รอมเป็น EMUI 5.1 ที่ปรับปรุงจาก EMUI 5.0 ตอน Mate 9 เมื่อปีที่แล้ว ฟีเจอร์ใหม่คือ Highlights แสดงภาพถ่ายเก่าๆ ในอดีตในรูปแบบวิดีโอ พัฒนาร่วมกับ GoPro, แสดงสองหน้าจอด้วยการใช้หลังมือลาก (knuchkle swipe split screen)

ราคา

• Huawei P10 (แรม 4GB ความจุ 64GB) ราคา 649 ยูโร
• Huawei P10 Plus (แรม 4GB ความจุ 64GB) ราคา 699 ยูโร
• Huawei P10 Plus (แรม 6GB ความจุ 128GB) ราคา 799 ยูโร

ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มแรก (tier 1) ที่จะวางขายพร้อมกับประเทศอื่นๆ