หลังจาก YouTube เจอปัญหาแบรนด์โฆษณาทยอยบอยคอต ไม่ลงโฆษณาเพราะไม่อยากให้แบนเนอร์ของตนไปปรากฏบนคลิปที่มีเนื้อหาสนับสนุนก่อการร้าย ล่าสุดบรรดายูทูบเบอร์บ่นกันเป็นแถวว่าได้รับผลกระทบเต็มๆ เพราะรายได้หดหายไป เรียกได้ว่า YouTube ตอนนี้โดนบีบจากสองปัจจัยสำคัญบนแพลตฟอร์มเลยทีเดียว
จากการบอยคอต มีแบรนด์ระดับท็อปกว่า 300 แบรนด์ที่ถอนโฆษณา มีการคาดการณ์กันว่า YouTube เสียรายได้เป็นล้านดอลลาร์ต่อวันในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา Google เจรจากับแบรนด์ได้ข้อสรุปว่า แบรนด์จะไม่นำโฆษณาลงคู่กับคลิปที่เนื้อหามีความรุนแรงทางการใช้ภาษา เพศ มีคำหยาบคาย เนื้อหามีความโศกเศร้า มีประเด็นขัดแย้ง และเป็นประเด็นอ่อนไหวในสังคม
ภาพจาก Stocksnap.io
มาตรการดังกล่าวกระทบต่อยูทูบเบอร์แน่นอน เพราะยูทูบยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีเนื้อหาทุกแบบ
The Rubin Report แชนเนลนำเสนอประเด็นการเมือง ผู้ก่อตั้งคือ Dave Rubin โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ว่า จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบรรดายูทูบเบอร์เห็นว่ารายได้ลดฮวบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา, Blair White ผู้ทำแชนเนลเกี่ยวกับเพศทางเลือกระบุว่าก็ไม่เสียหายอะไรมากแต่ก็ทำให้เกิดความท้อแท้ผิดหวังได้ แม้แต่ Ethan Klein ผู้ทำแชนเนลตลกๆ ก็ยังตัดพ้อว่า คอนเทนต์บน YouTube กับคอนเทนต์ที่แบรนด์ต้องการลงโฆษณาด้วยมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตามมีการวิเคราะห์กันว่า YouTube จะต้องเจอสภาพกระอักกระอ่วนแบบนี้ไม่นาน เพราะ YouTube ยังคงเป็นช่องทางวิดีโอดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยังมีอีกหลายแบรนด์นอกเหนือจากแบรนด์ที่ยังมองเห็น YouTube เป็นช่องทางสำคัญในการลงโฆษณาอยู่ดี
ที่มา - Ad Age
Comments
มีปัญหากับสัญลักษณ์ของความรุนแรงอย่างฮิตเลอร์หรือนาซี แต่ไม่ค่อยมีปัญหากับความรุนแรงโดยตรง
"คอนเทนต์บน YouTube กับคอนเทนต์ที่แบรนด์ต้องการลงโฆษณาด้วยมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง" ผมว่า ไม่หรอก แต่youtubeต้องแก้ให้แบรนด์เหล่านั้น ลงพื้นที่ที่ไม่เกิดความเสี่ยงเสียชื่อพร้อมข้อกำหนดที่ต้องการเท่านั้นเอง..เทคนิคที่ใช้คือ?