แจ๊ค หม่าประธานกลุ่มบริษัท Alibaba กล่าวในงานประชุมผู้ประกอบการจีนว่า ในอีกอย่างน้อย 30 ปีข้างหน้า สังคมโลกจะต้องเจ็บปวดและประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและสังคม อย่างการว่างงาน ซึ่งเป็นผลจาการรุกคืบของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีในปัจจุบัน ขณะที่ธุรกิจที่ไม่มีการทำงานหรือเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตก็จะประสบปัญหาอย่างหนักเช่นกัน
อย่างไรก็ตามประธาน Alibaba มองว่าหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จะไม่ได้เข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์เสียทั้งหมด แต่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ ทำให้ส่วนที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ อย่างการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งความฉลาดของหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์นี้เอง ที่แจ๊ค หม่ามองว่า อนาคตเราอาจจะได้เห็นซีอีโอที่เป็นหุ่นยนต์ขึ้นหน้าแรกของนิตยสาร Time ก็ได้
แจ๊ค หม่ายังแนะนำด้วยว่ารัฐบาลควรจะปฏิรูปการศึกษาและกำหนดแนวทางเพื่อการรับมือและทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ด้วย
ที่มา - CNBC
Comments
สรุป AI จะมาเป็นส่วนหัว ส่วนคนกลับกันไปทำในส่วน interactive หน้างานตามที่หุ่นมันสั่ง แล้วเอาข้อมูลมาป้อนให้หุ่นวิเคราะห์แนวทาง ยังงี้คนตกงานก็มีไม่กี่คนเองดิ (CEO, CFO, COO)
AI กับ Robotics ครับ
CIO อยู่ได้เพราะคุมอีกที 5555
งานอาชญากรเพิ่มแน่. งานพื้นฐานด้านอาหารคงยาก หากการวิเคราะห์คงง่าย
แสดงวิสัยทัศน์ เหมือนเป็นบิลเกสต์ สมัยก่อนเลย :)
my blog
หากเป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์ด้วยเหตุผล เขื่อว่า AI ย่อมมีพื้นที่ของตัวเองต่อไป เพราะการเปรียบเทียบข้อมูล AI ที่ไม่จำเป็นต้องพักแต่ต้องการพลังงานย่อมได้เปรียบ
แต่หากเป็นงานที่ต้องตัดสินด้วยอารามณ์และความรู้สึก AI ไม่มีทางเทียบเคียงมนุษย์ ไม่อย่างนั้นคงไม่มีการประดิษฐ์คำว่า มนุษยธรรม ขึ้นมา
หลักมนุษยธรรมมีเป็นการกำหนดไว้อยู่แล้วครับ แต่ที่หุ่นยนต์ทำไม่ได้หรือได้ยากคือความคิดสร้างสรรค์มากกว่าครับ