หลังจากที่เคยมีข่าวออกมาว่า SpaceX ยื่นเรื่องขอยิงดาวเทียมกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ตอนนี้มีรายละเอียดของแผนการนี้มากขึ้นแล้ว
Patricia Cooper รองประธานฝ่ายกิจการดาวเทียมรัฐบาลของ SpaceX ได้รายงานต่อกรรมการวุฒิสภาว่า บริษัทมีแผนจะปล่อยดาวเทียมรุ่นโปรโตไทป์ในปีนี้และปีหน้า และหากการทดสอบประสบผลสำเร็จ จะเริ่มปล่อยดาวเทียมดวงแรกในปี 2019 และปล่อยไปเรื่อยๆ จนครบ 4,425 ดวง ก่อนจะให้บริการเต็มรูปแบบในปี 2024
Cooper ระบุว่าการให้บริการผ่านดาวเทียม ช่วยให้บริษัทไม่ต้องเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคในการติดตั้งโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่ข้อมูลเป็น Mesh Network และส่งมายังเกตเวย์และเทอร์มินัลของผู้ใช้ตามบ้านได้โดยตรง ความเร็วที่ให้บริการจะถึงระดับ Gigabit per sec โดยความเร็วและราคาก็จะแตกต่างกันไปตามแพ็คเกจ ขณะที่ Latency จะต่ำที่ราว 25-35ms เท่านั้น
ทั้งนี้ดาวเทียมในปัจจุบันที่โคจรอยู่รอบโลกมีอยู่ราว 1,500 ดวงเท่านั้น การปล่อยดาวเทียมถึง 4,425 ดวงของ SpaceX อาจส่งผลให้การเดินทางหรือส่งยานอวกาศออกนอกโลกอาจยากและอันตรายมากยิ่งขึ้นด้วย
ที่มา - ArsTechnica, The Verge
Comments
หากการการทดสอบ => หากการทดสอบ
Skynet it begin
ครอบคลุมถึงเกาหลีเหนือด้วยหรือเปล่าครับ
ถ้าต้องการ latency ต่ำๆ คงต้องสายแบบเดิมๆ อยู่ดี
หรือว่าดาวเทียมที่ลอยตำ่ จะส่งข้อมูลไป USA ได้เร็วไวกว่าสายหว่า
ไม่น่าเร็วกว่าได้นะครับ เต็มที่น่าจะเท่าเทียมกัน
เพราะความเร็วเท่ากัน ระยะเดินทางขึ้นลงไปที่ดาวเทียมเยอะกว่าลายสายบนพื้น
ยกเว้นสายจะลากวกไปวนมาจนระยะใกล้เคียงกับขึ้นดาวเทียม
ดาบเทียมน่าจะแก้ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการลากไฟเบอร์เพื่อเพิ่มความเร็ว/ขยายพื้นที่เสียมากกว่า
บริษัทมือถือเจ๊งทันที
latency ประมาณนี้ก็พอรับได้นะครับ
อ่านข่าวกสทชมาปวดหัว เจอข่าวนี้เริ่มมีความหวังแล้วครับ
เดี๋ยวนะ Latency สูงสุดที่ 35ms หรือ 0.035s
ดาวเทียมคงโคจรแบบลอยกันวุ่นท้องฟ้าเลยนะนั่น 4,425 ดวงเนี่ย
คำนวณความสูงดาวเทียมได้จาก
t = 0.035 / 2 (คิดที่ขาเดียว ไม่คิด Latency ที่ต้นทาง ดาวเทียม และปลายทาง)
t = 0.0175 s
s = 299,792 km
l = s * t
l = 5,246.36 km
ความสูงระดับ 5,200 กิโลเมตร (เทียบกับวงโคจรสถิตย์ที่ 35,786 กม.) ก็ต่างกันหลายเท่าอยู่นะครับ
เพราะฉะนั้น ลอยกันวุ่นเลยดาวเทียม มิน่า ถึงออกแบบเป็น Mesh Network
คิดแล้วต้องยิงดาวเทียมเฉลี่ยวันล่ะสองดวงเป็นอย่างน้อย สี่พันกว่าดวงคงไม่ได้มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอเมริกาแน่นอน และไม่น่าจะใช้งานเฉพาะส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตอย่างเดียวด้วย
รถ Tesla จะติดต่อผ่านดาวเทียมแทนที่การใช้โครงข่ายของ Operator ณ ประเทศนั้นๆ ใช้เน็ทฟรี
เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ ปัญหามีไว้แก้ครับ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ