ความพิเศษอย่างหนึ่งของรถยนต์ Tesla คือมีเครือข่ายสถานีชาร์จด่วน หรือ Supercharger กระจายอยู่จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เดินทางไกลและไม่สามารถรอชาร์จปลายทางได้ แต่ล่าสุดมีคนตั้งข้อสังเกตไปถึง Elon Musk ทางทวิตเตอร์ว่าที่มาของไฟฟ้าที่สถานี Supercharger เหล่านี้ก็มาจากถ่านหินอยู่ดี
เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากที่ Elon Musk ได้ทวีตเล่าว่าจุดกำเนิดของบริษัท Tesla นั้นมาจากการที่ General Motors เคยเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EV1 เนื่องจากขาดทุนและมีปัญหาเกี่ยวกับหัวชาร์จ ซึ่ง GM ประกาศยกเลิกโครงการรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2003 และจัดการทำลายรถยนต์ EV1 ทิ้งเรียบ
ต่อมาก็มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ David Kennedy ได้แสดงความเห็นพร้อมตั้งคำถามกลับไปว่าสถานี Supercharger ในรัฐ North Carolina ก็ใช้ไฟฟ้าจากถ่านหิน ทำไม Elon ถึงยอมให้รถยนต์ไฟฟ้าสร้างมลพิษมากกว่ารถยนต์ใช้น้ำมันล่ะ? ซึ่ง Elon Musk ได้ตอบกลับไปว่าสถานี Supercharger กำลังถูกเปลี่ยนให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ และในที่สุด "เกือบ" ทุกสถานีจะไม่ใช้ไฟหลวงเลย
นอกจากนี้ก็มีผู้ใช้บางส่วนตั้งข้อสังเกตว่าหากต่อไปรถยนต์ Tesla ได้รับความนิยมมากขึ้น การพึ่งพาไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อย่างเดียวสำหรับสถานี Supercharger จะเพียงพอต่อความต้องการหรือไม่ หรืออาจจะต้องสร้าง Solar Farm ขึ้นมาสำหรับเลี้ยงเครือข่ายสถานีชาร์จเหล่านี้กันเลยทีเดียว แต่ภาพคอนเซ็ปสถานี Supercharger ในอนาคตที่ Tesla เคยปล่อยออกมาก็มีแผงโซลาร์เซลล์ติดตั้งอยู่บริเวณหลังคาแล้ว
ที่มา - @elonmusk
Asheville NC has Tesla superchargers powered by a coal electric plant? Why would you allow an EV to pollute more than a gasoline vehicle?
— David Kennedy (@ApexCornerSpeed) June 9, 2017
All Superchargers are being converted to solar/battery power. Over time, almost all will disconnect from the electricity grid.
— Elon Musk (@elonmusk) June 9, 2017
Comments
อยากให้คนถามมากรุงเทพแล้วจะเอาหน้าไปอยู่หลังรถสิบล้อเร่งเครื่องใส่หน้าให้ดูจะได้รู้ว่ามันสะอาดกว่าถ่านหินจริงหรือเปล่า....
ยังไงหรอครับ?
จากข่าวเป็นการใช้พลังงานสะอาด แต่ความเห็นนี้สื่อว่าไฟฟ้าถ่านหินมันสกปรกไม่ต่างกับควันรถบรรทุกเลย.
efficiency ล่ะครับ ?
ที่จะบอกคือโรงไฟฟ้ามันพลังงานฟอสซิลมันไม่สะอาดก็จริงครับ แต่มันก็ต้องมีมาตรฐานที่เข้มงวดจัดการง่ายในแหล่งเดียว เทียบกับรถของคนขับที่ไม่มีทางทำตามมาตรฐานที่ออกจากกระดาษได้ทุกคัน แล้วเจ้าของก็ไม่ค่อยจะใส่ใจขนาดนั้นโดยเฉพาะพี่ไทย รถเมย์ของขสมกบางคันยังควันดำปี๊ แล้วมันจะดีกว่าโรงไฟฟ้าได้ไง
เคยมีใครคำนวนเปรียบเทียบไหมครับ การเปลี่ยนถ่านหินเป็นพลังไฟฟ้าให้รถเทสล่า สร้างมลพิษเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับรถที่ใช้น้ำมัน ?
คุ้นๆ ว่าประเทศสิงคโปร์คิดครับ
https://www.blognone.com/node/78917
ชอบโจมตีรถไฟฟ้าด้วยถ่านหินกันจัง ทำไมไม่คิดถึงประสิทธิภาพกันบ้าง รถน้ำมันประสิทธิภาพอย่างต่ำรถไฟฟ้าประสิทธิภาพอย่างสูง แค่นี้ก็ควรใช้มากกว่าแล้ว เรื่องแหล่งที่มาไฟฟ้าก็ค่อย ๆ หาทางแก้กันไป ซึ่งผมว่าเขาก็พยายามแก้อยู่แล้ว (จุดตายเขานี่) ไม่ได้ปล่อยไปตามเวรตามกรรมนิ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ผมว่ามลพิษที่เกิดจากโรงงานไฟฟ้าถ่านหินที่ถูกควบคุม ดีกว่ามลพิษจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันจำนวนมากนะ
ที่ว่ารถใช้น้ำมันประสิทธิภาพต่ำ และรถไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง พอจะมีตัวเลขอ้างอิงเป็นวิทยาทานไหมครับ
http://blog.ucsusa.org/rachael-nealer/gasoline-vs-electric-global-warming-emissions-953
เสริมจากข้างบนอีกนิด เครื่องยนต์สันดาป เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพมันต่ำเตี้ยมาก ส่วนใหญ่พลังงานมันถูกแปลงไปเป็นความร้อนซึ่งไม่ได้เอาไปใช้ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพมันดีกว่ากินขาดเลย พลังงานไฟฟ้าเปลี่ยนเป็นพลังงานกลเต็ม ๆ ไป loss จากแรงเสียดทานต่าง ๆ โน่น ซึ่งรถไฟฟ้ามีชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ว่าน้อยกว่ารถยนต์น้ำมันมาก ๆ (แต่รถไฟฟ้ามี loss จากแบตเตอรี่ร่วมด้วย ซึ่งอัตราการ loss นี้ก็น้อยลงเรื่อย ๆ จากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะพัฒนาอย่างช้า ๆ ก็เถอะ)
ถ้าจะให้เปรียบเรื่องประสิทธิภาพของรถยนต์สองชนิดนี้ ก็เหมือนหลอดไส้กับหลอด LED แหละครับ ยังไงโลกมันต้องหมุนไปทางที่ประสิทธภาพดีกว่าเห็น ๆ อยู่แล้ว แล้วค่อยไปตามแก้เรื่องอื่นทีหหลัง (เช่น หลอด LED มันไม่สบายตา และราคายังแพงอยู่)
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
+1
my blog
แล้ว loss จาก generator, สายส่ง และ transformer เป็นยังไงบ้างครับ
แล้ว loss จาก generator, สายส่ง และ transformer เป็นยังไงบ้างครับ
อยากได้ตัวเลขพวกนี้เหมือนกัน เทียบกับ น้ำมันที่เผาทิ้งตอนรถติด แต่ละวันน่าจะเผาทิ้งไปเยอะ
อันนี้ยังไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้เทียบ น้ำมันก็มีการขนส่งน้ำมันไปสู่ปั๊มต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ในบ้านเราใช้รถขนน้ำมัน นั่นก็ loss มหาศาลเหมือนกัน (แถมใช้พื้นผิวถนน ใช้คนขับ ใช้เชื้อเพลิงในการขนส่ง) ผมคิดว่า loss จากสายส่งคงจะน้อยกว่า loss จากการขนส่งน้ำมันอย่างมีนัยสำคัญนะครับ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
คนที่ใช้ BMW ActiveHybrid3 ออกมาบ่นว่าค่าไฟที่ใช้ชาร์จมันก็ไม่ต่างอะไรจากค่าน้ำมันสักเท่าไหร่นะครับ (ล่อไฟซะ 40A ต้องไปขอมิเตอร์ใหญ่กับสายไฟขนาดเบิ้มมาใช้)
ถ้ารถยนต์เลิกใช้น้ำมัน เอาน้ำมันไปเผาทำไฟฟ้าแทน ค่าน้ำมันอาจจะถูกจนค่าไฟถูกลงก็ได้ครับ
อย่าไปฟังมากกับคนที่โม้ โอ้อวดครับ
ActiveHybrid 3 เครื่อง 3 ลิตร Twin Power Turbo 306 แรงม้า คนซื้อไม่คำนวนค่าน้ำมันหรอกครับ ส่วนใหญ่ก็ซื้อไปอัดบนทางด่วน
และที่สำคัญ รุ่นนี้ไม่มีที่เสียบปลั๊กนะครับ เติมน้ำมันอย่างเดียว ให้เครื่องไปปั่นไฟเก็บในมอเตอร์เวลาเดินทางในความเร็วปกติ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
กว่าแรงระเบิดในลูกสูบจะส่งแรงไปถึงล้อ ต้องผ่านข้อเหวี่ยง เพลา เกียร์ เฟืองนับร้อยๆ ชิ้นครับ เหลือแรงแค่ครึ่งเดียว 50% เท่านั้นที่ส่งไปถึงล้อรถ