Cloudflare ผู้ให้บริการ CDN รายใหญ่ซึ่งได้มาทำ peering ในไทยไว้กับ JasTel ตั้งแต่เมื่อกลางปีที่แล้วนั้น ที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนัก เนื่องจากแทนที่การเข้าใช้งานจากในไทยจะจบในไทยดังที่มุ่งหวังไว้ ส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการในไทยกลับต้องวิ่งไปจบที่ปลายทางที่สิงคโปร์หรือฮ่องกงแทน ซึ่งทำให้มีข้อเสียในเรื่องของการที่ต้องใช้แบนด์วิธต่างประเทศ ซึ่งก็มักจะมีราคาแพงกว่าแบนด์วิธในประเทศอยู่หลายเท่าตัว โดยเฉพาะสำหรับลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการอย่าง Leased Line หรือ MPLS หรือ MetroNet ทำให้การใช้บริการ Cloudflare กลับถือเป็นข้อเสียสำหรับลูกค้าในไทยที่มีเว็บเซิร์ฟเวอร์ซึ่งถูกเข้าใช้โดยผู้ใช้จากในประเทศเป็นหลัก แต่จากการตรวจสอบล่าสุด (จากเครื่องข่าย 4G ของ AIS และ True) ปรากฎว่าการเข้าใช้เว็บไซต์เหล่านี้ ได้มีการวิ่งจบแค่ปลายทางในไทยได้แล้ว ซึ่งน่าจะเพิ่งมีมาได้เมื่อไม่กี่วันนี้นี่เอง
สำหรับวิธีตรวจสอบว่าหากเข้าเว็บนี้แล้วจะวิ่งไปจบที่ปลายทาง Cloudflare ที่ไหนนั้น สามารถทำได้โดยการใส่ /cdn-cgi/trace เป็น URI ต่อท้ายชื่อเว็บ เช่น https://www.techtalkthai.com/cdn-cgi/trace ซึ่งก็จะได้ผลลัพธ์เป็นดังนี้
fl=...
h=www.techtalkthai.com
ip=...
ts=...
visit_scheme=https
uag=Mozilla/5.0 (Windows NT 6.1; WOW64; rv:53.0) Gecko/20100101 Firefox/53.0
colo=BKK
spdy=h2
http=h2
loc=TH
โดย colo=BKK ก็หมายถึงปลายทางอยู่ในกรุงเทพฯ หากไม่ใช่ก็จะเป็นรหัสสนามบินมาตรฐาน 3 ตัวอักษรอื่นๆ เช่น SIN=สิงคโปร์ HKG=ฮ่องกง หากทดสอบโดยการ ping หรือ traceroute ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกับการเข้าใช้เว็บในประเทศทั่วๆไปโดยตรง เช่น
D:\>tracert www.techtalkthai.com Tracing route to **www.techtalkthai.com** [104.27.165.141] over a maximum of 30 hops: 1 * * * Request timed out. 2 703 ms 34 ms 51 ms 10.95.16.13 3 35 ms 50 ms 34 ms 10.95.237.14 4 * * * Request timed out. 5 965 ms 65 ms 45 ms 10.95.226.5 6 * * * Request timed out. 7 30 ms 44 ms 29 ms 10.95.226.13 8 38 ms 65 ms 48 ms 10.95.226.9 9 48 ms 64 ms 47 ms 10.95.204.238 10 47 ms 47 ms 47 ms te9-4.node254-67.mtg.net.trueinternet.co.th [203.144.162.93] 11 49 ms 49 ms 68 ms 61-91-213-117.static.asianet.co.th [61.91.213.117] 12 59 ms 43 ms 42 ms 203-144-128-48.static.asianet.co.th [203.144.128.48] 13 53 ms 55 ms 40 ms TIG-Net25-136.trueintergateway.com [122.144.25.136] 14 44 ms 33 ms 47 ms TIG-Net245-111.trueintergateway.com [113.21.245.111] 15 32 ms 42 ms 32 ms 104.27.165.141 Trace complete.
Cloudflare นั้นมีจุดเด่นสำคัญในเรื่องของภูมิต้านทานต่อการโจมตีแบบ Distributed Denial of Service หรือ DDoS ซึ่งเกิดจากการวางโครงข่ายแบบ Anycast และข้อดีอื่นๆอีกหลายอย่าง รวมไปถึงการให้บริการ Universal SSL ฟรี ซึ่งทำให้เว็บ HTTP ธรรมดาที่ยังไม่มี SSL/TLS สามารถแปลงร่างเป็น HTTPS ได้โดยง่ายโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นตอนนี้เมื่อหมดปัญหาเรื่องการที่จะต้องวิ่งออกไปจบที่ปลายทางที่ต่างประเทศแล้ว Cloudflare ก็น่าจะเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับเจ้าของเว็บเซิร์ฟเวอร์ในไทย โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมจากทั่วโลกก็จะได้ประโยชน์อย่างมากจากการที่ Cloudflare มี data center อยู่ทั่วโลกทำให้ผู้ใช้ในแต่ละประเทศสามารถเข้าถึงได้ใกล้และเร็วนั่นเอง
Comments
ข่าวนี้ผมว่าเป็นรายละเอียดมากไปหน่อย ไม่ได้เพิ่มบริการใหม่หรือศูนย์ใหม่ แต่เป็นเรื่องเส้นทาง routing ที่อัพเดตกันเรื่อยๆ นะครับ (ผมเองลองเช็คจากเน็ตเวิร์คองค์กรบางที่ก็ยังไปออก TPE อยู่) ทาง CloudFlare เองไม่ได้ประกาศอะไรออกมา
ISP รายใหญ่ๆ อย่าง AIS แม้จะต่อไป node BKK แต่ก็ผ่าน IIG (ผมผ่าน IIG-TLS1-PE01.ais-idc.com) ก็น่าจะคิด BW เป็น Inter อยู่ดี?
lewcpe.com, @wasonliw
ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเอาลงก็ได้ครับถ้าไม่เข้าคุณสมบัติของการเป็นข่าว จุดประสงค์ผมคือเพื่อให้คนได้รู้ว่ามีการปรับปรุงตรงจุดนี้แล้ว คนที่เคยตัดสินใจไม่ใช้ด้วยเห็นผลที่ว่าก็จะได้กลับมาพิจารณาใหม่ คนที่ใช้มานานแล้วแต่ไม่เคยรู้เรื่องเหล่านี้ก็จะได้เข้าใจมากขึ้นว่าที่ผ่านมามันไม่ได้ optimized อย่างที่ควรจะเป็นและได้เกิดผลเสียอะไรบ้างไปบ้าง ซึ่งตอนนี้ก็น่าจะมีคนได้อ่านได้รู้ไปบ้างแล้ว
อาจเป็นอย่างนั้นจริง หรืออาจเกิดจากการที่ต้องไปวิ่งผ่าน proxy หรือ VPN หรือ routing บางอย่างในองค์กรก่อนก็เป็นได้ครับ คงต้องเอาผล traceroute มาดูประกอบด้วยครับ
เขาคงไม่อยากประกาศอะไรเพราะถ้าประกาศก็เท่ากับเป็นการยอมรับว่า 1.ปีกว่าๆที่ผ่านมานี่ไม่ได้ใช้งานได้ตามที่ได้คุยเอาไว้เลย 2.ทำไมเพิ่งมาแก้ไขได้เอาตอนนี้ที่ผ่านมามัวแต่ทำอะไรอยู่มันติดอะไร 3.ปัญหาอยู่ตรงไหนกันแน่ อยู่ที่ Cloudflare เอง หรือเป็นที่โครงข่ายในประเทศของเราไม่สนับสนุนให้มันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ฯลฯ
ผมลอง traceroute ดูอีกทีจากทั้ง AIS 4G และ True 4G ได้ผลตามข้างล่างครับ 182.232.240-255.x นั้นเป็น AIS Mobile ส่วน 49.231.32-255.x ก็เป็นของ AWN เองครับ และถ้าดูจาก ping time ก็น่าจะมั่นใจได้ว่าปลายทางนั้นอยู่ในไทยครับ เพราะถ้าเป็นสิงคโปร์ก็จะต้องช้ากว่านั้น ยิ่งฮ่องกงจะยิ่งช้ากว่า ผมทดสอบผ่าน 3G Pocket Wi-Fi เลยเร็วได้แค่ที่เห็น แต่สำหรับคนที่ใช้เน็ตองค์กรแรงๆนั้นก็น่าจะเร็วกว่านี้เยอะอยู่ และหากลองเปรียบเทียบกับเว็บในประเทศอื่นๆก็น่าจะเห็นชัดครับ
รายชื่อใบรับรองดิจิตอลทั้งหมดที่ออกโดย Root CA และ Intermediate CA สัญชาติไทย
ใช้อยู่นะครับ แต่ว่ายัง งง ๆ หาอ่านวิธีเซ็ตติงในเน็ตครับ
ถ้าเป็นภาษาไทย ของเว็บ NuuNeoi ที่อ้างถึงข้างบนก็ใช้ได้อยู่ครับ
รายชื่อใบรับรองดิจิตอลทั้งหมดที่ออกโดย Root CA และ Intermediate CA สัญชาติไทย
แจ๋วเลย ผมกำลังกลุ้มอยู่ สามสี่วันที่แล้วทาง ISP โทรมาแจ้งว่า Bandwidth inter พุ่งกระจาย จากเครื่องที่ใช้ CloudFlare เป็น Front-End จนต้องยกเลิกออกไปก่อน เดี๋ยวจะลองเอากลับเข้ามาดูว่าดีขึ้นหรือยัง