เป็นบริษัทหนึ่งที่ผ่านร้อนผ่านมาหนาวมาค่อนข้างมากสำหรับโมโตโรลา ตั้งแต่เข้าไปอยู่ใต้ร่ม Google จนมาอยู่กับ Lenovo ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าไลน์และตัวผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกับรุ่นเรือธงที่เปลี่ยนทั้งชื่อและลูกเล่นของตัวเครื่อง

ทว่าสิ่งหนึ่งที่โมโตโรลายังคงรักษาเอกลักษณ์เอาไว้ได้นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรกคือ Moto G Series ที่เดินทางมาถึงรุ่นที่ 5 แล้ว แต่ยังรักษาจุดเด่นทั้งคุณภาพ ประสิทธิภาพและสเปค ภายใต้ราคาต่ำหมื่นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

Moto G5 มี 2 รุ่นย่อย ซึ่งรุ่นที่นำมารีวิวในบทความนี้เป็นรุ่น G5 Plus ตัวบนของรุ่น จัดอยู่ในกลุ่มสเปคระดับกลาง แต่ทว่าในแง่ของการใช้งานดีไม่แพ้รุ่นบนๆ โดยเฉพาะเรื่องของกล้องที่สเปคเทียบเท่ากับกล้องของเรือธงอย่าง Galaxy S7 เลยทีเดียว

ตัวเครื่องและสเปค

ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่โมโตโรลาเปลี่ยนวัสดุของตัวเครื่อง Moto G มาเป็นอลูมิเนียมทั้งเครื่องใน Moto G5 Plus รุ่นนี้ จากเดิมที่ใช้พลาสติกร่วมกับกรอบอลูมิเนียม

สเปคภายในใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 625 เป็นซีพียู ARM Cortex-A53 แปดแกน และจีพียู Adreno 506 แรม 4GB ความจุ 32GB

ส่วนหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว จอ LED แพแนล IPS ความละเอียด FHD ครอบด้วย Gorilla Glass 3 จุดสังเกตคือเปลี่ยนทรงของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านล่างของจอจากสี่เหลี่ยม เป็นทรงวงรี ซึ่งเซ็นเซอร์ตรงนี้ไม่ใช่ปุ่มโฮม เป็นเซ็นเซอร์เอาไว้ปลดล็อคและล็อคเครื่องเท่านั้น

ด้านบนตัวเครื่องเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ส่วนลำโพงเป็นลำโพงคู่ ซึ่งรองรับทั้งโทรศัพท์และการเล่นเพลงหรือภาพยนตร์ในตัวเดียว

ด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ ซึ่งความโดดเด่นของ Moto G5 Plus ที่สืบทอดมาตั้งแต่ G4 คือสามารถล็อกหน้าจอได้ด้วยเซ็นเซอร์เดียวกันนี้ แค่ทาบนิ้วไหนก็ได้ ประมาณครึ่งวินาที คล้ายกับตอนปลดล็อก หน้าจอก็จะล็อกให้โดยไม่ต้องกดปุ่มล็อกหน้าจอด้านขวา

ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียงและล็อกหน้าจอ

พอร์ทยังคงเป็น micro USB คู่กับช่องหูฟัง 3.5มม.

ส่วนกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel รูรับแสง f/1.7 แฟลชLED คู่ ดีไซน์เป็นไปในทิศทางเดียวกับเรือธงอย่าง Moto Z ที่ใช้กรอบกลมและนูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย

การใช้งาน

จุดเด่นหนึ่งที่ Moto G5 Plus รักษาเอาไว้ตั้งแต่รุ่นแรกคือการรันด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์แบบเพียว (Pure Android) ไม่มีการปรับแต่ง แอพเสริมหรือ bloatware ใดๆ มีเพียงแอพของ Moto ที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ให้เท่านั้น

แอนดรอยด์ที่ใช้เป็นเวอร์ชัน Nougat 7.0 ทำให้จะได้ใช้ฟีเจอร์ของแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่นี้ไปเต็มๆ ที่สำคัญคือโมโตโรลาสัญญาด้วยว่าจะได้อัพเวอร์ชันใหม่อย่างน้อยๆ 1 เวอร์ชันด้วย

ส่วนของแอพ Moto ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ มีให้ใช้อยู่ 2 ฟังก์ชันหลักๆ ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งสิ้น

เริ่มจาก Moto Display ที่เครื่องจะแสดงรายการแจ้งเตือนและนาฬิกาบนหน้าจอ เมื่อผู้ใช้จับเครื่องตอนล็อกหน้าจอ เราสามารถตั้งได้ว่าจะให้แอพไหนแสดงผลบนจอ

ส่วน Moto Action ซึ่งเป็นการเปิดใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของเครื่องดังนี้

• One Button Nav นำแถบ Navigation Bar ด้านล่างออก แล้วแทนที่การสั่งการผ่านเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแทน อย่างการปาดซ้ายเพื่อย้อนกลับ ปาดขวาเพื่อเข้าสู่หน้า Recent App และกดเซ็นเซอร์เมื่อกลับหน้าโฮม
• Chop for Flashlight จับ Moto G5 Plus ในแนวตั้งแล้วทำท่าสับติดกัน 2 ครั้งเพื่อเปิดไฟฉาย
• Twist for Quick Capture บิดข้อมือ 2 ครั้งเร็วๆ เมื่อถือเครื่องเพื่อเปิดกล้อง
• Swipe to Shrink Screen ปาดหน้าจอจากขอบเพื่อลดขนาดให้เล็กลงสำหรับการถือมือเดียว
• Pick up to Stop Ringing เมื่อมีสายเข้า เครื่องจะหยุดร้องทันทีที่ผู้ใช้จับเครื่อง
• Flip for Do Not Disturp เปิดฟังก์ชัน Do not disturp (ไม่ส่งเสียงไม่สั่น) ทันทีที่คว่ำหน้าเครื่องลง

ขณะที่การเบนช์มาร์คคะแนนก็ยังคงอยู่ในเกณฑ์สมาร์ทโฟนระดับกลาง (คะแนนสูงกว่ารุ่นก่อน Moto G4 Plus ราว 2 หมื่นคะแนน) แต่ในแง่การใช้จริงพบว่าลื่นมาก อาจด้วยความเป็นเพียวแอนดรอยด์ ขณะที่การเล่นเกมโหลดเกมหรือใช้งานแอปพลิเคชัน อาจช้าบ้างตามสเปค แต่ยังไม่เจอปัญหาน่าหงุดหงิดกวนใจ

Moto G5 Plus ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Nano Coating ของโมโตโรลา ที่ช่วยกันน้ำ อาจจะไม่ได้ถึงขนาดจุ่มลงไปในน้ำได้ทั้งเครื่อง แต่หากเครื่องโดนฝนสาดหรือน้ำหกใส่ ก็ช่วยให้หมดความกังวลไปได้ระดับหนึ่ง

แบตเตอรี่

Moto G5 Plus มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปทั้งวัน หรือเล่นเกมบ้างประปรายก็ยังเพียงพอ พร้อมระบบ TurboPower เทคโนโลยีชาร์จเร็วของโมโตโรลา ที่ใช้เวลาราว 25-30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่จาก 1-2% ขึ้นมาราวๆ 50-55% แล้ว

ที่สำคัญคือ Moto G5 Plus รองรับมาตรฐาน Quick Charge 2.0 ของ Qualcomm ด้วย ต่อให้ลืมหัวชาร์จของโมโตโรลา ก็ยังสามารถหาหัวชาร์จที่รองรับ Quick Charge 2.0 ใช้งานทดแทนกันได้

กล้อง

กล้องหลังขนาด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับของใหม่อย่างระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel ที่ช่วยให้การโฟกัสภาพเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ถูกใช้งานบนเรือธงอย่าง Galaxy S7 ซึ่งนอกจากระบบโฟกัสและความละเอียดแล้ว คุณสมบัติทางเทคนิคของกล้องบน Moto G5 Plus ยังเหมือนกับบน Galaxy S7 ด้วย อย่างรูรับแสงกว้างที่ f/1.7 ทางยาวโฟกัส (Focal Length) ที่ 26มม. และขนาดเซ็นเซอร์ ที่ 1/2.5 นิ้ว

ส่วนฟีเจอร์กล้องของโมโตโรลายังคงมากันครบ ทั้งโหมดโปร โหมดออโต้ พาโนรามาและสโลโมชันที่ความละเอียด 720p 120fps ส่วนวิดีโออัดได้ทั้ง FullHD 30fps, 60fps และสูงสุด 4K UHD 30fps

ด้านคุณภาพของภาพ ถือว่าถ่ายออกมาได้ดีและน่าพอใจมากในมือถือระดับนี้ เมื่อถ่ายตอนกลางวันหรือพื้นที่ที่แสงเพียงพอ ภาพที่ออกมาจะค่อนข้างคมชัด สีสันสวยด้วย HDR โฟกัสเร็ว ขณะที่ถ่ายในที่แสงน้อย การโฟกัสก็ยังคงเร็ว อาจมี noise บ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ ภาพไม่ฟุ้งหรือแตก

สรุป

โมโตโรลายังคงรักษามาตรฐานการทำสมาร์ทโฟนตระกูล Moto G เอาไว้ได้อย่างดีและต่อเนื่อง นับตั้งแต่ Moto G รุ่นแรกเป็นต้นมา ไม่ว่าจะในเรื่องของสเปคต่อราคา ที่เมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนในราคากลุ่มเดียวกันแล้วคุ้มค่ากว่า

ที่สำคัญคือ Moto G5 Plus ให้ประสบการณ์การใช้งานเพียวแอนดรอยด์ และได้รับการยืนยันจากโมโตโรลาด้วยว่าไม่ได้รับแพกับแอนดรอยด์ O แน่นอน ขณะที่กลุ่มสมาร์ทโฟนระดับเดียวกันของแบรนด์อื่นๆ มักจะไม่ค่อยได้รับอัพเดตแบบเดียวกัน ต้องไปลุ้นเอาเองว่าจะได้อัพเดตหรือไม่

โปรโมชั่นพิเศษ

Lenovo จัดโปรโมชันร่วมกับ TruemoveH ลดราคาค่าเครื่อง Moto G5 Plus จากปกติ 9,990 บาทเหลือ 4,490 บาท เมื่อเปิดเบอร์ใหม่หรือย้ายค่ายเบอร์เดิมและซื้อพร้อมแพ็คเกจ 4G+ Super Smart 599 บาทขึ้นไป และชำระค่าบริการล่วงหน้า 1,500 บาท ติดสัญญา 12 เดือน