จีนยกระดับการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลและอินเทอร์เน็ตระดับโลกอีกขั้น มีแหล่งข่าวไม่ระบุตัวตนบอกว่า รัฐบาลจีน เตรียมบังคับให้บริษัทโทรคมนาคมในจีน บล็อกไม่ให้ผู้ใช้งานใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศได้ คำสั่งจะมีผลกุมภาพันธ์ 2018
ในจีนมีบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 รายคือ China Mobile, China Unicom และ China Telecom การปิดกั้นการใช้งาน VPN ถือเป็นการปิดช่องทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศจีนและเว็บไซต์ต่างประเทศ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีบริษัทใดให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับข่าวมาตรการดังกล่าว และยังไม่มีความชัดเจนว่ามาตรการนี้จะส่งผลต่อบริษัทข้ามชาติที่ต้องต่อสู้กับกฎหมายด้านความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต ที่มีข้อกำหนดที่เข้มงวดในการถ่ายโอนข้อมูลในทางใด
Jake Parker รองประธานบริษัท US-China Business Council ประจำอยู่ที่ปักกิ่งระบุว่า มาตรการใหม่จะกระทบคนวงกว้างทันที และ VPN ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบริษัทที่พยายามเข้าถึงบริการทั่วโลกนอกประเทศจีน
ภาพจาก Pexels
ที่มา - Bloomberg
Comments
อะเฮื้อออ ไปเที่ยวจีนนี่จุกอกตาย อัพเฟซไม่ได้
เปิดroamingไปไม่โดนบล็อคครับ
เปิด roaming เหมือนต่อ vpn มาไทยครับ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
เปิดโรมมิ่งเอาครับ เล่นได้ทุกอย่าง ลองมาแล้ว ไปจีนตอนต้นปี
โหดมาก อยู่กันไปได้ไง
หวังว่าเราจะไม่ต้องตั้งคำถามนี้กับตัวเองในอนาคต
มันก็ไม่แน่นะท่าน
ถ้าโมลเดลนี้ work ผมว่าในอนาคตไม่น่ารอด
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
อันนี้ขอถามโง่ๆ หน่อยครับ VPN ประโยชน์มันคืออะไรนะครับ?
คือผมใช้ VPN กับการ remote มาเพื่อ Access Resource ของ Office เท่านั้น ส่วนถ้าใช้งาน Internet ทั่วไปผมจะไม่ต้อง VPN ใช้ Internet บ้าน Internet มือถือ ทั่วไปก็ใช้ได้แล้วไม่เห็นต้องใช้ VPN อะไรเลย
ปล.ผมเห็นคนรอบข้างหลายคนพอ VPN ไม่ได้นี่ทุรนทุรายโวยวายหนักมาก ผมอยากมีความรู้สึกทุรนทุรายอย่างนั้นบ้าง แต่ดันมีความรู้ VPN แค่นั้น เลยไม่รู้จะทำไงให้ตัวเองเดือดร้อนดี
VPNมันเอาไว้หลอกระบบบล๊อคที่บล๊อคเว็บที่(คนที่รู้ว่าใคร)เห็นว่าไม่เหมาะสมได้ครับ
สมมติ
นาย ก อยากเข้าเว็บ X แต่เว็บXโดนรัฐบาลบล๊อคไม่ให้เข้าถึงไว้
แต่มีเว็บ G ที่รัฐบาลไม่ได้บล๊อค และServer เครื่องนี้ก็มีบริการVPNให้ใช้งาน และประเทศที่เว็บGอยู่ รัฐบาลไม่ได้บล๊อคเว็บX
นาย ก เลยVPNไปเว็บ G แล้วพอพิมพ์URLไปเว็บX ก็จะสามารถเข้าได้ปรกติ
รัฐบาลของนาย ก ก็จะเห็นว่า นาย ก ใช้งานแต่เว็บG ซึ่งอนุญาตให้เจ้าถึงอยู่แล้ว ก็จะเห็นเหมือน นาย ก ใช้งานอินเตอเนตเหมือนคนปกติทั่วไป
รัฐบาลของเว็บ G ก็จะเห็นแค่ มีคนใช้คอมที่สำนักงานเว็บ G เข้า เว็บX ซึ่งก็อนุญาตเข้าเข้าถึงเช่นกัน
จาก
ก-------xlx------ เว็บX
ก็จะเป็น
ก ------> G ----->เว็บX
เป็นนักท่องเที่ยวคงต้องพึ่ง Pocket WIFI
แล้วบริษัทต่างชาติทำยังไงล่ะนั้น
ส่งผลต่อบริษัทข้ามชาติที่้ต้องต่อสู้กับ -> ที่ต้อง
หมายความว่า การใช้ VPN ทุกวันนี้เป็นสิ่งที่รัฐ "ยอมปล่อย" ให้ใช้ ถ้าจะปิดก็ปิดได้หรือครับ? ผมนึกว่า VPN คิดค้นมาเพื่อหลบหลีกการตรวจสอบจากรัฐและ ISP เสียอีก
ถ้าทำจริง คงวุ่นวายมาก
บริการหลายๆอย่าง รัฐบาลจีนบล้อคทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวกับความมั่นคงอะไรนักหนาเลย แค่นักศึกษาจีนที่ไปเรียนต่อเมืองนอก จะเข้าใช้บริการบางอย่างของมหาลัยอเมริกาแค่จะฝากไฟล์หรือฟังเลคเชอร์ออนไลน์ ยังต้องต่อ VPN เพราะบล้อคนั่นบล้อคนี่หยุมหยิมมากจนกระทบไปหมด Pintarest ยังบล้อคนี่ก็พูดไม่ออกละครับ
VPN บาง protocol ที่ถูกบล็อกง่ายๆเช่น PPTP, L2TP, IPSec น่าจะโดนบล็อกไปหมดแล้วหน่ะครับ จะมีบางส่วนที่อาจจะหลงเหลือแล้วตามจับเป็นรายบุคคลวุ่นวาย(การใช้ VPN ในจีนต้องลงทะเบียนไม่งั้นผิดกฎหมาย) ดังนั้นจึงอาจมาบังคับ ISP ให้ช่วย filter กรณีเหล่านี้ให้แทนครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
แล้วพวกบริษัทต่างชาติที่จำเป็นต้องทำ VPN site-to-site นี่ทำยังไงกันล่ะครับ
หรือบังคับซื้อ IPLC ลูกเดียวเลย