นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าจับตามอง เมื่อ DFC Intelligence ได้เผยรายงานชิ้นใหม่ออกมาว่า ในปี 2016 ที่ผ่านมา รายได้ของเกมบนมือถือและอุปกรณ์พกพามียอดรวมแซงรายได้ของเกมบนเครื่องคอนโซลและ PC เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ในปี 2016 ตลาดของเกมมือถือนั้นเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 32% และมีมูลค่าสูงถึง 38 พันล้านดอลลาร์ และจากการประเมินของ Newzoo บริษัทวิจัยการตลาด มูลค่ารวมอาจพุ่งสูงถึง 65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2016 สำหรับตำแหน่งอันดับหนึ่งของผู้ให้บริการเกมมือถือนั้นตกเป็นของ NetEase จากประเทศจีน ซึ่งสามารถแซงแชมป์เก่าอย่าง Tencent ลงไปได้ แต่อย่างไรก็ดี Tencent ยังคงครองตำแหน่งบริษัทเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลกเอาไว้ได้ดังเดิม
จากรายงานดังกล่าว DFC ศึกษาบริษัทเกมมากกว่า 30 บริษัท และพบว่า เกมเบาสมองจำพวก Casual Game หรือ เกมแนวคาสิโนกำลังจะมาถึงจุดอิ่มตัวในตลาดเกมมือถือ ตอนนี้ตลาดเริ่มหันไปจับเกมที่มีความซับซ้อนมากขึ้น และมีแนวโนวโน้มว่า ผู้ผลิตเกมคอนโซลและ PC อาจจะกระโดดลงมาเล่นในตลาดเกมมือถือกันมากขึ้น
ที่มา: Venture Beat,
Comments
ขอบคุณครับที่แปลข่าวมาให้อ่านกัน แต่ขอออกความเห็นเรื่องตัวเลข เราน่าจะใช้ระบบไทยเช่น 38,000 ล้านดอลลาร์ แทน 38 พันล้านดอลลาร์นะครับ
เรื่องหน่วยนับนี่มีคนถกกันมาหลายครั้งแล้วครับ ก็ไม่มีทีท่าจะได้ข้อสรุปไม่งั้นคงไปลงในข้อแนะนำการเขียนบนความแล้วเหมือนจะกลายเป็นว่า จะแบบไหนก็โอเค จะแปลงเป็นเรียกแบบไทยก็ได้หรือจะแปลทับต้นฉบับก็ไม่ผิดครับ ส่วนตัวก็รับได้ทั้งคู่นะ เข้าใจได้เหมือนกัน
ใช้ให้เหมือนข่าวต้นฉบับดีสุดครับ
+1
ถ้านับจากความหมายคำว่า "แปล" ผมว่ามันก็ควรเปลี่ยนมาให้คนไทยโดยทั่วไปอ่านได้เข้าใจตามหลักภาษาไทยเหมือนกันครับ
ผมอยู่ในวงการแปลซับไตเติลครับ เรื่องหน่วยนับของเงินถูกกำชับจากผู้ว่าจ้างลงมาเลยว่าอย่าใช้ระบบหลักพัน (K) แบบฝรั่ง ให้ถอดเป็น หมื่น แสน ล้าน ผู้ว่าจ้างบางรายกำชับเรื่องหน่วยอื่น ๆ ก็มี เช่นแปลงฟาเรนไฮต์เป็นเซลเซียส แปลงไมล์ให้เป็นกิโลเมตร คงเพราะเขาอยากให้เข้ากับความเคยชินของคนไทยที่สุด สองหน่วยหลังนี้มีเป็นบางเจ้า แต่หน่วยนับจำนวนเป็นหลักพัน ทุกเจ้าจะพูดเหมือนกันหมดว่าให้เปลี่ยนเป็นหมื่น แสน ล้าน
+1 ผมว่าหลายๆคนยังแยกไม่ออกระหว่าง Localisation กับ (Literal) translation
เวลา client ฝรั่งมาขอให้ผม review งานที่เค้าไปจ้าง outsource คนไทยแปลมาอีกที
ผมแทบอยากจะบอก ให้ไปจ้างคนแปลใหม่เถอะ ภาษามันดูหุ่นยนต์มาก user คงขำน่าดูว่าฟัง/อ่าน คำแปล
เรื่องการแปลมองได้หลายมุม
เมื่อก่อนผมก็ชอบการแปล แบบแปลงให้เป็นไทยๆมากที่สุด เช่นการแปลงมุกตลก หรือแปลงคำพังเพย โดยยกของไทยมาทดแทนเลย
แต่ยุคหลังได้ไปอ่านต้นฉบับแล้ว กลับคิดว่า การแปลตรงๆมาแม้อาจต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้ได้ความรู้ในวัฒนธรรมเขาเพิ่มขึ้นเช่นกัน(เจอบางเรื่อง จะใส่เชิงอรรถไว้ ว่าความหมายคล้ายกับของไทยแบบไหน อันนี้ยิ่งดี)และบางอันมันก็ไม่ได้ตรงกับของไทยสักเท่าไร การยกของไทยมาทดแทนทันที ก็อาจทำให้ความหมายเพี้ยนไปได้เช่นกัน
ส่วนเรื่องหน่วย เป็นเรื่องของความเคยชิน ซึ่งคนอ่านแต่ละคนก็อาจจะเคยชินแตกต่างกัน อย่างหน่วยที่ยกมา ก็ไม่ใช่หน่วยไทยๆสักหน่อย(หน่วย ISO,metric ก็ไม่ใช่หน่วยไทยแท้นะ) ยังดีไม่ต้องแปลง เป็นหน่วย เส้น หน่วย วา หุน
ถ้ารับจ้างแปล ก็แปลตามที่ผู้ว่าจ้างต้องการนั่นแหละดี แต่ถ้าเป็นการแปลเพื่อบทความตัวเอง อันนี้อาจขึ้นกับรสนิยมของผู้แปลเอง
อันนั้นเป็นมุมมองของคุณแค่อาชีพเดียวนี่ครับ อาชีพอื่นๆโดยเฉพาะการเงินเค้าก็ใช้พันล้านกัน อย่างธนาคารแห่งประเทศไทยก็ใช้หน่วยพันล้านกันเป็นปกติ เพราะการเงินมันคือการเปรียบเทียบตัวเลข จำเป็นต้องทำให้เปรียบเทียบง่าย ต่างจากซับไตเติ้ลที่ต้องทำให้อ่านง่ายเข้าใจง่าย
ถ้าจะบอกว่าบทความนี้มันเกี่ยวข้องกับซับไตเติลหนังหรือซีรี่มากกว่าการเงิน ผมก็ว่าไม่ใช่นะ ฉะนั้นใครจะใช้หน่วยอะไรก็ควรจะใช้ไป แต่ในข่าวเดียวกันต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน(ตามกำหนดของเว็บ)ฒากกว่า
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.
someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เอาแค่ระบบ VIP บางเกมส์ ระดับสูงสุดนี่เฉียดๆ แสนกันเลยทีเดียว
คนเล่นเกมมือถือ เท่าที่เห็นที่เติมเยอะๆ มีแนวโน้มว่าไม่ค่อย...
(ที่เห็นกลุ่มแมสเซนเจอร์ในบริษัทเติมกันร่วมๆหลักหมื่นกับเกมกระโหลกกะลา แล้วพอมีเพื่อนทยอยเลิกก็บ่น)
ตอนแนะนำให้เล่น ps4 เพราะได้เครื่อง เล่นได้เรื่อยๆ บอกไม่มีเงินซื้อ ..!!??
แต่คนเล่นคอนโซล/พีซี เท่าที่เห็น ส่วนใหญ่จะฉลาด
อย่าว่างั้นงี้เลยครับ เพื่อนผมเงินเดือนคนละหลายๆ หมื่น ก็ไม่ซื้อคอนโซลนะ เหตุผลคือไม่ค่อยมีเวลาอยู่หน้าจอทีวี จะหาเวลาออกกำลังกายยังยากเลย ดังนั้นเกมบนมือถือนี่คือตอบโจทย์ในการพกไปเล่นนอกบ้าน เล่นได้ทุกที่ ที่สำคัญ มือถือมันอยู่กับเราตลอดเวลาเลย
คนที่รายได้ไม่เยอะ เขาอาจจะไม่อยากจ่ายเงินทีละหมื่นเพื่อซื้อคอนโซลก็ได้ครับ แต่จ่ายทีละ 100-200 ซื้อของในเกมมันค่อยๆ ทยอยจ่าย บางคนบอกว่าซื้อเครื่องไหว แต่จ่ายค่าแผ่นไม่ไหว (คงติดมาจากสมัยก่อนที่เล่นแผ่นก๊อปกัน 30-40 แผ่น ความจริงเกมที่เล่นจริงๆ จังๆ ก็ไม่น่าจะถึง 10เกมมั้งนะ) ส่วนสายเปย์ที่จ่ายเงินซื้อ item ในเกมเป็นหมื่นๆ นี่ผมก็เข้าไม่ถึงเหมือนกันว่าทำไมถึงลงทุนกันขนาดนั้น
ส่วนตัวผมเองไม่เล่นเกมบนมือถือเลย แต่ผมจัดพวกเครื่อง HH แทน เพราะอยากเล่นเกมคอนโซลญี่ปุ่นแบบพกพาได้ ตัวเก่าก็ 3DS ล่าสุดนี่ก็ NS ครับ
เท่าที่เจอผมเห็นคนเล่นเกมส์มือถือแบบเติมนี่ส่วนมากทำงานดีๆ หรือไม่ก็เจ้าของธุรกิจทั้งนั้นเลย จริงๆเค้าก็มี ps4 แต่เค้าไม่เล่นเพราะมันไม่มีเวลา มือถือเค้าเล่นเพราะหาเรื่องคุยในกลุ่มสังคมเค้านะครับ ถ้าเอาเรื่องเล่นคอนโซลมาวัดความฉลาดนี่ผมงงเลยทีเดียว เพราะหลังๆที่ผมเห็นเล่นส่วนมากมักจะเป็นเด็กที่มีเวลาว่างพอสมควร ซึ่งส่วนมากมักจะไม่มีรายได้
ขอแย้งว่า Console นี่ส่วนใหญ่เป็นของเล่นคนทำงานครับ มีรายได้
เพราะราคาระดับนี้ แผ่นเกมส์ราคานี้ ถ้าไม่มีรายได้ ซื้อไม่ไหวหรอกครับ
มันคือสิ่งที่ผมพบและแย้งประเด็นทางเจ้าของเมนต์ครับ เพื่อให้เห็นมุมมองที่แตกต่างเพราะระยะหลังๆเพื่อนผมก็ไม่ได้มีเวลาเล่นคอนโซลกันแล้วเครื่องก็ปล่อยให้เด็กๆที่บ้านเล่นกัน ไม่มีรายได้ก็เล่นได้ครับขอเงินพ่อแม่ หรือซื้อให้หลานเป็นของขวัญมั่ง
แต่จะมาให้เล่นแบบสมัยเด็กๆคงไม่ไหวแล้ว แบบเปิดทีตอนเช้าหันมาอีกทีกินข้าวเย็นแล้วแบบนี้
Top Player เกมมือถือโดยเฉพาะเกมกาฉะนี่ เติมกันหลักล้านนะครับ ระดับแมสเซนเจอร์นี่เล่นไม่ไหวหรอก เอาง่ายๆเขารวยระดับเศรษฐีหรือไม่ก็พวกมีงานการเงินเดือนหลายหมื่นหลายแสนเลยทีเดียว แถมจำนวนไม่ใช่น้อยๆด้วย ขนาดในไทยยังเห็นในเฟซหลายคนเลย ถึงบางคนจะเป็นพวกเอาตังพ่อแม่มาถลุงก็เหอะ แต่ก็มีตัวอย่างให้เห็นแบบในญี่ปุ่นที่ไม่มีตังก็ยังถึงกับกู้มาเล่นเลยทีเดียว เอาตรงๆก็เหมือนการพนันแหละครับ คนเล่นพนันส่วนนึงก็แค่เอาเงินไปโปรยคลายเครียด แต่บางพวกก็โดนความโลภครอบงำจนหมดตัว พวกนี้บางทีก็ไม่เกี่ยวกับความฉลาดหรอก มันอยู่ที่สติ ถ้าเล่นให้พอดีก็ไม่เป็นไร
ตามคคห.อื่นๆว่า
นอกจากประเด็นเรื่อง การเติมเงินทีละน้อยๆหลักร้อย มันมีภาระน้อยกว่าซื้อเครื่องเกมทีละเป็นหมื่นแล้ว
เพื่อนผมคนนึงรายได้เฉียดแสน เล่นเกมมือถือตลอด เพราะเล่นตอนเดินทางไปทำงาน (นั่งBTS)
เพื่อนผมอีกคนเป็นอาชีพสายสุขภาพ รายได้หลายแสน เล่นเกมกาชา เติมเงินตลอด(อันนี้เติมกันหลักหมื่นต่อเกม) เวลาว่างไปพัทยาเพื่อจับโปเกมอน
เขาเหล่านี้ไม่มีเวลาว่างมาเล่นคอนโซลครับ เกมมือถือตอบโจทย์เขา และมันเป็นสื่อบันเทิงที่เขาเลือก ไม่ต่างจากคนอื่นๆที่เขาไปถลุงเงินกับ ฟุตบอล การพนัน เที่ยวกลางคืน ฯลฯ ความคุ้มค่าขึ้นกับมุมมองของความชอบ
ส่วนผมแทบไม่ได้เล่น เพราะขับรถไปทำงาน เลยไม่เหลือเวลาเล่นเกมในมือถือ(สลับกับคนอื่นซะงั้น)
นี่เรื่องเครื่องเกมก็เอามาเหยียดความคิดคนกันได้หรอว่าโง่หรือฉลาด? โลกแคบไปมั้ยที่บอกว่าคนเล่นเกมมือถือมีแค่คนกลุ่มเดียว
เหยียดแบบนี้จะโดนแบนหรือโดนเตือนไหมครับ?
ตรรกะป่วยมาก เล่นเกมบน pc console เท่ากับ "ฉลาด" คนเล่นมือถือเท่ากับ "โง่" สินะ
ส่วนตัวเล่นแต่ console กับมือถือ ส่วนบน PC ไม่ได้เล่น เพราะใช้เครื่อง Mac ทำแต่งาน
ไม่ได้พูดว่าใครโง่ครับ แต่ยอมรับว่าชมคนชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือpc ว่า "ส่วนใหญ่"จะฉลาด ซื้อเกมมาเล่นเกม ไม่ต้องมาเสียเงินหลายๆครั้วกับกล่องสุ่ม
ส่วนใครจะร้อนตัวเรื่องอื่นๆ อันนี้ผมช่วยรับผิดชอบให้ไม่ได้จริงๆ
เข้าใจครับว่ามีคนรวยมีความสามารถเป็นผู้บริหาร เงินเดือนหลักแสนหลักล้าน เล่นเกมมือถือเติมกาชาปอง เพราะไม่มีเวลาเล่นคอนโซลในห้องเกมส์เธียเตอร์
ก็อย่าเติมกันเยอะนะครับ เป็นห่วงกลัวเด็กๆทำตาม กดเติมเปิดมาเจอแต่เกลือ 555
แล้วพ่อแม่เดือดร้อนต้องจ่ายหนี้ตามหลังแบบที่เป็นข่าว
เพราะเนื้อหาข่าวก็บอกว่ารายได้แซงทุกแพลทฟอร์มแสดงว่าคนเล่นเติมเยอะจริง
อันนี้ผมมีเรื่องฮาที่เคยถามระดับบริหารในบริษัทฯนะครับ
- คอนโซลปุ่มเยอะเล่นยากนะไอ้น้อง
- ไม่ได้มีเกมส์แบบเล่นเพลินๆต้องเล่นจริงจัง
ส่วนตัวผมมันคนเล่นน้อยอยู๋แล้วหลังๆยิ่งน้อยเข้าไปอีก(TAT)
ผมเลยสอยคอนโซลมาเพื่อแบบว่างๆก็เจียดเล่นสักหน่อย
เพราะเมื่อก่อนผมก็เล่นแบบปีละเกมส์ 2 เกมส์
- Dead Space 1-3 (ภาคอื่นดูคลิปเอา)
- Chaos ring 0-3
- SRW OG SAGA 1-2
- FFXV
- Neir Automata
- SRW OG4
ก่อนหน้านั้นก็ SRW/Pokemon ผ่าน GB
ทั้งชีวิตเกมส์ผมมีแค่นี้ นอกนั้นก็เกมส์มือถือติดเป็นพักๆ
2-3 เดือนพอเลเวลสูงๆก็ตันต้อง
in-app purchase หนักๆ หรือ เกมกาชาที่มันต้องกดเอา
ตัวพิเศษเพื่อสู้บอสกับผู้เล่นอื่นให้ชนะผมก็ลบทิ้งไม่เล่นต่อ
เพราะงั้นคอนโซลจึงตอบโจทย์คนอย่างผมมากกว่า
รายได้ส่วนใหญ่มาจาก "กาชา" หรือเปล่า :)
กาชา ไม่สร้างรายได้ครับ เกลือ ต่างหากที่สร้างรายได้
(╯°□°)╯︵ ┻━┻
Dream high, work hard.