Nikon ประกาศเปิดตัว D850 โดยเป็นรุ่นต่อของ D810 ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันประมาณสามปี
สำหรับ Nikon D850 นี้มาพร้อมกับฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ตั้งแต่เซนเซอร์แบบฟูลเฟรม BSI CMOS ที่ 45.7 ล้านพิกเซลแบบไม่มี low-pass filter ใช้ชิพประมวลผลภาพ EXPEED 5 ระบบโฟกัสแบบใหม่ยกมาจาก D5 มีจุดโฟกัส 153 จุด (มีจุดกากบาท 99 จุด และ 15 จุดสามารถตอบสนองได้ไวจนถึง f/8) พร้อมกับค่าความไวแสง ISO แบบเนทีฟตั้งแต่ 64-25,600 (ขยายได้สูงสุด 32 ถึง 102,400) และสามารถถ่ายภาพรัวได้ถึง 7 ภาพต่อวินาทีในโหมด AF/AE (สามารถเพิ่มสูงสุดได้ถึง 9 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้งานกับอุปกรณ์เสริม MB-D18 battery grip และแบตเตอรี่ EN-EL18a/b)
ในด้านวิดีโอนั้น สามารถบันทึกได้ที่ความละเอียด 4K ที่ 24, 25 และ 30 เฟรมต่อวินาที โดยมีฟีเจอร์สนับสนุนการถ่ายวิดีโอ ได้แก่ focus peaking, zebra stripes, ส่งออกวิดีโอแบบไม่บีบอัดที่ 4:2:2 8-bit 4K ทาง HDMI
ในด้านการแสดงผลและการเชื่อมต่อ D850 มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสที่ 2.36 ล้านพิกเซลขนาด 3.2 นิ้วกระดกได้ พร้อมช่องเสียบการ์ดสองช่องคือ XQD และ SD, ตัวบอดี้เป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์พร้อมซีลกันสภาพอากาศ, ปุ่มควบคุมตัวกล้องสามารถเปิดไฟได้เพื่อให้มองเห็นในที่มืด, ตัวกล้องมี Wi-Fi และ Bluetooth LE มาให้ในตัว สามารถถ่ายโอนภาพและควบคุมกล้องได้ผ่านแอพ SnapBridge
สำหรับตัว Nikon D850 นี้คาดว่าจะวางขายจริงกันยายนนี้ โดยราคาบอดี้อย่างเดียวอยู่ที่ 3,299.95 ดอลลาร์
ที่มา - dpreview
Comments
ตลกดีแหะ XQD Sony / nikon / Sandisk เป็นผู้พัฒนาร่วมกัน
แถมตอนนี้ เหมือนว่า Sony จะเป็นผู้ผลิต XQD รายเดียว
แต่กล้องตัวท๊อปของ Sony เองอย่าง A7RII A9 กับไม่เลือกใช้ XQD เลย
คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ
มีระบบควบคุมแสงเพื่อให้มองเห็นได้ในสภาพที่มืด > ปุ่มกดเรืองแสง ?
แก้ให้เข้าใจมากขึ้นแล้วครับ
อ่าน feature แล้วของใหม่ที่เพิ่มมาเป็น feature เด่น ๆ ของฝั่ง MLR ทั้งนั้น เหมือนจะบอกกลาย ๆ ว่า MLR น่ะทำได้ แต่ไม่อยากทำ