แอปเปิลอัพเดตเอกสารคำแนะนำในการส่งแอพเพื่อตรวจสอบก่อนขึ้น App Store สำหรับนักพัฒนา มีประเด็นใหม่ที่น่าสนใจดังนี้
- ข้อ 2.3.1 ไม่โฆษณาถึงเนื้อหาหรือการทำงาน ที่ไม่มีหรือทำไม่ได้จริงในแอพ ยกตัวอย่างเช่น แอพสแกนไวรัสและมัลแวร์บน iOS
- ข้อ 2.5.13 แอพที่ใช้ Face ID เชื่อมต่อเพื่อยืนยันตัวตน ต้องมีตัวเลือกอื่นสำหรับผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า 13 ปี
- แอพที่ใช้ ARKit ต้องให้ประสบการณ์ Augmented Reality ที่สวยงาม ไม่ใช่แค่ใส่โมเดลหรืออนิเมชั่นวน
การอัพเดตนี้ช่วยยืนยันว่า App Store ไม่อนุญาตให้มีแอพสแกนหรือป้องกันไวรัสแบบเป็นทางการ รวมทั้งไม่อนุญาตให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 13 ปี ใช้งาน Face ID อีกด้วย
ที่มา: MacRumors, ภาพจาก Intego ผู้พัฒนาแอพสแกนไวรัสสำหรับ iOS
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
อาณาจักรแอปเปิ้ลไม่มีไวรัส มาทำแอพแบบนี้ได้ไง เสียหายไปถึงท่านศาสดา:P
ไม่มีมัลแวร์เลยจริงจริ๊งงงง เนี่ยปลอดภัยที่สุดในโลกละอ่าาาา
+1
ผู้พัฒนาไวรัสสแกน => ผู้พัฒนาแอพสแกนไวรัส
พาดหัวข่าวไม่ตรงกับเนื้อข่าว
หรือเนื้อข่าวไม่ตรงกับพาดหัวรึเปล่าครับ
เนื้อหาบอกว่าห้ามโฆษณาเกินจริง แล้วยกตัวอย่างแอพสแกนไวรัส
แต่พาดหัวบอกห้ามมีแอพสแกนไวรัส
รบกวนแก้อันใดอันหนึ่งครับ
น่าจะทำงานจริงไม่ได้มั้งครับ permission ที่ Apple อนุญาตให้ app ใช้ได้ จะพอไป scan ไฟล์ของ app อื่นๆ หรือไฟล์ในเครื่องเลยหรอครับ จำกัดสิทธิ์เยอะแยะ (หรือว่าเดี๋ยวนี้ให้เยอะแล้ว?)
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ถ้าข้อ 2.3.1 แปลถูก ผมก็ว่าแอปเปิ้ลไม่ได้ห้ามแอพสแกนไวรัสและมัลแวร์น่ะ แค่ห้ามโฆษณาเกินจริง
นั่นสิครับ ถ้าห้ามจริงตอนนี้สารพัดแอพ security บน store น่าจะโดนกวาดไปหมดแล้ว
จะมาทำมาหากินกับไวรัสใน ios หรอจ๊ะ 555
ตัวแอพมันอาจจะแสกนไวรัสจริงๆก็ได้นะ แต่จะเจอจริงหรือไม่จริงก็อีกเรื่อง
แก้ไขพาดหัวแล้วนะครับ
ถ้าเป็น macOS ส่วนมากก็ติดตั้งมาจากภายนอกอยู่แล้วนี่ครับ 55555
Appleอาจจะต้องการควบคุมความปลอดภัยแต่เพียงผู้เดียวรึเปล่าครับ
Appleอาจจะมองว่าแอพพวกนี้อาจจะนำเข้าไวรัสและสแกน(ไวรัสตัวเอง)เจอซะเอง เลยกลายเป็นการโฆษณาเกินจริง
อีกอย่างpermissionที่พวกแอพสแกนร้องขอมันก็ค่อนข้างน่ากลัวอยู่นะครับ
- ขอเข้าถึงไฟล์ต่างๆ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (อ้างว่าเพื่อตรวจสอบไฟล์ว่ามีมัลแวร์แฝงมั้ย)
- ขอเข้าถึง internet (อ้างว่าเพื่อดาวน์โหลดรายชื่อมัลแวร์ใหม่ๆและส่งชื่อไฟล์ที่ไม่ทราบว่าเข้าข่ายไวรัสหรือไม่เพื่อเอาไปวิเคราะห์)
แค่สองอย่างนี้ก็น่ากลัวพอแล้ว
มองมุมกลับ ถ้าเกิดแอพนี้มันคัดลอกรูปภาพและวิดีโอ แล้วส่งกลับServerไปละ
Malware กับ Virus มีบน iOS ด้วยเหรอครับ? แต่ถ้า Mac OS นี่มีแน่ล่ะ
การใช้งานการทำแอพสแกนไวรัสมันทำไม่ได้ด้วยวิธีปรกติน่ะสิ เพราะมันต้องใช้สิทธิ์ข้าม folder ตัวเอง ซึ่งมันก็ถือว่าละเมิดกฏข้ออื่นสำหรับนักพัฒนาอยู่ดี ขนาดพวก App VPN บางคำสั่งที่เกี่ยวกับการเชื่อมต่อต้องให้ไปเปิดใช้สิทธิ์เองข้างนอกเลย