By: arjin 
on 18 September 2017 - 07:13
Tags:
Topics:
Facebook Messenger ประกาศตัวเลขจำนวนผู้ใช้งานล่าสุด โดยมีผู้ใช้งานเป็นประจำทุกเดือน (MAUs) 1.3 พันล้านคน เพิ่มขึ้นจากที่รายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ 1.2 พันล้านคน ตัวเลขมีความหมายมากเพราะจำนวนผู้ใช้ WhatsApp ที่มีการประกาศล่าสุดนั้นก็อยู่ที่ 1.3 พันล้านคน แปลว่า Facebook Messenger เองก็มีฐานผู้ใช้ใหญ่เท่า WhatsApp แล้ว
Facebook ยังบอกว่าจำนวนผู้ใช้ Messenger Day ที่เปิดตัวมาได้ 6 เดือนแล้ว อยู่ที่ 70 ล้านคน ซึ่งถือว่าไม่สูง เมื่อเทียบกับ Instagram Stories มีผู้ใช้ 100 ล้านคนในเวลา 2 เดือน และ WhatsApp Status มีผู้ใช้ 175 ล้านคน ได้เวลาประมาณ 10 สัปดาห์
ที่มา: TechCrunch
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
กระผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในนั้น แอพบ้าอะไรก็ไม่รู้ ตื่นบ่อยมากๆ (Facebook ก็เหมือนกัน) เปิดขึ้นมาที รับประทานแรมแบบตายอดตายอยากมาก แล้วก็ไม่ปิดตัวเองด้วยนะ รันค้างไว้ตลอด
อยากคุย ใช้ LINE, WhatsApp เอา พวกนั้นยังสงบเสงี่ยมเจียมตัวกว่านี้มาก
จริงๆ อยากรู้นะ วิศวกรของ Facebook เองเค้าใช้ลงแอพใช้เองในเครื่องที่ใช้ประจำวันเองบ้างรึเปล่า รึเค้าใช้แต่รุ่นท็อปแรมไม่อั้นเสียบสายชาร์ตมือถือไว้ตลอด?
ลอง Messenger Lite ดู
Lite ไม่เวอร์คอ่ะ
+1
ผมเลยย้ายมาใช้ Facebook Lite กับ Messenger Lite แทน ประสิทธิภาพมือถือผมกลับมาเร็วและใช้ได้นานเท่าเดิมทันที (หมายความว่าแอปหลักดั้งเดิมมันกินทรัพยากรเครื่องมากสินะ?) แต่บัญชีหลักของผมดันใช้ปุ่ม React และฟังก์ชันอื่นๆ ไม่ได้เลย แต่บัญชีรองกลับเปิดให้ใช้ได้ครบจนเกือบเท่าแอปตัวปกติ :'(
คงต้องให้พี่มาร์คใช้มือถือแอนดรอยเป็นหลักถึงจะพัฒนาได้ดีขึ้นมั้งครับ
wakelock ผมมาจาก line, messenger ทั้งนั้น อิอิ ส่วน telegram แทบไม่ค่อยปลุก แต่มี noti เหมือนเดิม รับประทานแบตกันเฮฮา ใช้ greenify notification ก็ไม่เตือนอีก เฮ้อ
ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยได้ใช้แอพนี้ ก็เลยลบไปจากเครื่อง ถ้าเมื่อใดต้องใช้ ก็ค่อยโหลดกลับมา
+1
Facebook เป็นแอพที่กินแบตในเครื่องมากแถมยังถอดทิ้งไม่ได้อีก
เลย log out เอาไว้ เพื่อไม่ให้มันตื่นมาทำงาน
จากใจ samsung S7
ถ้าไม่บังคับโหลด พ่วงกับแอพเฟชบุ๊ค จะถึงไหม ฮ่าๆ
+555
📸
แล้วปัญหามันคืออะไรครับ? คือยอด 1.3 พันล้านคนมันเกิดจากคนที่ไม่ได้ใช้งาน Messengerแต่ดันโหลดไปติดเครื่องไว้หรือไง? ก็ไม่ เพราะในข่าวเค้าก็บอกว่ามันคือยอดผู้ใช้งาน คือของมันดีพอที่จะทำให้คน 1.3 พันล้านคนต้องใช้มันครับ ถ้าไม่พอใจก็เลิกใช้ได้ครับไม่มีใครห้าม
แล้วอยากอ่านข้อความแชทในแอพเฟชบุ๊คเหมือนเมื่อก่อน ได้ไหมครับ ก็ไม่ได้ คือต้องโหลดอย่างเดียวไงครับ ถึงจะอ่านได้ แบบนี้ไม่บังคับเลยสินะครับ
ก็มันเป็นผลิตภัณฑ์คนละตัวกันแล้วทำไมมันถึงจะต้องทำได้ล่ะครับ?
ยังคงไม่เข้าใจว่ามีตรงไหนเค้า "บังคับ" ให้โหลดครับ? คุณจะใช้งานผลิตภัณฑ์ไหนคุณก็ใช้คุณก็โหลดแค่ผลิตภัณฑ์นั้นมันก็จบ คุณไม่ใช้ Messenger คุณก็ไม่ต้องโหลด แต่ที่คุณจะโหลดเพราะคุณจะใช้ (โดยที่เค้าก็ไม่ได้บังคับว่าคุณต้องใช้ Messenger) มีตรงไหนผิดครับ?
ไม่ต้องโหลดอย่างเดียวครับ mobile web ก็อ่านได้
บังคับโหลด แล้วโม้ยอดนั่นนี่ไปเรื่อย
ไหนบังคับยังไงครับชี้ความกระจ่างให้ผมหน่อยครับ
แล้วยอดในข่าวนี่คนที่ไม่เคยโหลดแอปเลยใช้แต่ผ่านเว็บเขาก็นับ?
เขาไม่ได้บังคับนะผมก็ไม่ได้โหลดถ้ามีใครทักมาผมก็จะบอกให้เขาไปคุย line แทนแค่นั้นเอง
มีโทรศัพท์เครื่องเดียว เปิดแอพ Facebook จะดูข้อความ "ไม่ได้" ต้องโหลด Messenger เท่านั้น แบบนี้ไม่เรียกบังคับหรอ? แล้วคนที่กดโหลดเพราะกรณีแบบนี้ นับรวมกับยอดนั้นไหมล่ะ?
ก็อยากอ่านถึง มีความจำเป็นต้องใช้ไงครับ แล้วถึงต้องโหลดมา ด้วย
ถ้าเราไม่อยากอ่านก็ไม่ต้องโหลดครับ ฮ่าๆ
จะอ่านไลน์ไม่โหลดไลน์ได้เปล่าอะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เอ้า ก็มันคนละแอป คนละผลิตภัณฑ์กันนี่ครับ
ผมเปิดแอป Google Maps ผมจะดูข้อความ "ไม่ได้" ต้องโหลด Hangout เท่านั้น แบบนั้นเรียกบังคับเหรอครับ?
ผมเปิดแอป Microsoft Word ผมจะดูข้อความ "ไม่ได้" ต้องโหลด Skype เท่านั้น แบบนั้นเรียกบังคับเหรอครับ?
มันบังคับโหลดตอนไหน ???
มันไม่ได้บังคับโหลด แต่ก็มีหลอกให้โหลดเรื่อยๆนะครับ ไม่มีไครทักแชตมาแต่มีเด้งมาว่ามีคนคุยทักเรามาเรื่อยๆ ซึ่งผมก็ว่าความน่าเกรียดมันไม่ค่อยต่างกันเท่าไร
ไม่อยากพูดไรมาก ดูกระทู้นี้บน blognone แล้วกันครับ
"ผู้ใช้ Facebook Chat บนเว็บมือถือเริ่มโดนบังคับให้ดาวน์โหลดแอพ Messenger แล้ว"
https://www.blognone.com/node/81813
อืม แปลกเนอะ ในข่าวเก่าไม่ค่อยมีคนมาเถียงแทนเฟซบุ้ก ต่างกับตอนนี้
เวลาเปลี่ยน อะไรๆก็คงเปลี่ยน
ไม่เชิงบังคับ แต่เป็นการพยายาม มัดมือชก ซะมากกว่า
มันเหมือนกับว่าถ้าอยากได้ประสบการ์ณในการใช้งานที่ดีขึ้น ต้องย้ายไปแอฟโน่น แอฟนี้
ไม่ชอบที่คนกดโทรได้ แต่เวลา block ก็ต้อง block ทั้งการโทร & message
จริงอยากให้รวมบนแอพ Facebook เลย ใช้บน iOS ไม่ได้มีปัญหาอะไร นอกจากต้อง Switch แอพไป
ผมไม่ใช่ ใน 1.3 พันล้านแฮะ อิอิ
ยินดีด้วยครับ คุณเป็นคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้
ถ้าเมื่อก่อนมันใช้แชทในแอพเฟสโดยตรงเลยไม่ได้ตั้งแต่แรก หลายๆ ท่านก็คงไม่ต้องใช้คำว่า "บังคับโหลด" หรอกครับ
นี่นึกจะแยกก็แยก เปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน
ผมชอบกว่า Line อีกนะคือมันพ่วงกับเฟสเลย บางทีจะทักใครไปมานั่งหาในไลน์เอชื่อไรหว่าบางคนตั้งชื่อไม่ตรงกับตัวเองผมนี่งงเลยหาไม่เจอทักไปใน messenger ง่ายกว่าอีก 555
ปล.ใช้ในไอโฟนก็ตินะครับแบทอยู่ได้เต็มวันไม่มีปัญหาอะไรอ่ะ
รวมคนใช้ Lite มั้ยหว่า จำใจใช้ตัวเต็มไม่ไหวจริงๆครับแอพนี้ แรม 4 ยังไม่พอ
App Facebook นี่แหละเป็นตัวที่ทำให้ผมเลิกใช้Androidแล้วใช้iOSแทน
เพราะiOSมันให้งานที่แสดงผลบนหน้าจอสำคัญสุดเสมอ มันไม่ยอมให้แบคกราวน์กระซวกแบตกระซวกCPUได้แบบAndroidเลย
จะมีส่วนน้อยแบบผมรึเปล่าหว่าที่ใช้บนโครม
เห็นมันก็มีแจ้งเตือน เลยไม่ได้โหลดแอพอะไรเพิ่ม
ไม่ลงทั้ง FB ทั้ง Messenger เข้าใช้ทาง Browser มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จะโพสเตตัส จะตอบแชต ก็ใช้ได้หมดนี่นา แล้วข้างบนจะดราม่ากันทำไมเนี่ย -..-'
my blog
รำคาญเรื่องโทรนี่แหละ คนก็ไม่มีมารยาทไม่รู้จักส่วนตัวก็โทรโท้โทร ปิดก็ไม่ได้ ปิด Noti ทีเดือดร้อนคนอื่นที่คุยแบบคนปกติอีก สรุปบังคับให้คนโทรหากัน เน้นสร้างความรำคาญหากันเป็นจุดหลัก
อุตส่าห์หนีมาใช้บนเว็บ เพราะเพื่อนจะส่งหาแต่ทางนี้ (ส่วนตัวใช้แต่ไลน์ ข้างบนที่เถียงกันผมงงนะ จะเล่นคำเพื่อเถียงเอาชนะกันทำไม ถามใจคุณเองดูเถอะว่าพฤติกรรมที่มันทำก็คือการบีบผู้ใช้ทางอ้อมนั่นแหล่ะ) เมื่อกี๊ของผมก็ขึ้นข้อความเตือนว่าอีก 3 วันจะต้องโหลด messenger lite ถึงจะใช้ได้เหมือนกัน ถ้าบังคับจริง คงต้องถึงเวลาขอร้องเพื่อนให้คุยทางไลน์แทนบ้าง -_-