Stack Overflow เผยสถิติความนิยมของภาษาโปรแกรมมิ่งบนเว็บไซต์ของตัวเอง โดย Python เป็นภาษาที่มีอัตราการเติบโตสูงมากในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา โดยจะเฉพาะจากกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว-รายได้สูงที่มีสัดส่วนทราฟฟิก 64% ของเว็บไซต์
สถิติของ Stack Overflow ย้อนกลับไปถึงปี 2011 พบว่าอัตราการเติบโตของ Python เพิ่มสูงมาก และในเดือนมิถุนายน 2017 แท็ก Python กลายเป็นแท็กอันดับหนึ่งของเว็บไซต์ แซงหน้า Java/JavaScript เป็นที่เรียบร้อย
ส่วนภาษาที่ได้รับความนิยมรองลงมาคือ C#, PHP และ C++ รวมเป็น 6 ภาษาโปรแกรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด
อัตราการเติบโตของ Python (วัดเฉพาะทราฟฟิกจากประเทศพัฒนาแล้ว)
ทั้งนี้ Stack Overflow อธิบายว่าทราฟฟิกของ Java จะขึ้นลงตามฤดูกาลเปิดเทอมของนักเรียนนักศึกษา เพราะเป็นภาษาที่ใช้สอนในชั้นเรียนอย่างแพร่หลาย ช่วงนี้อาจเป็นช่วงปิดเทอม (ของโลกตะวันตก) พอดี ส่งผลให้ทราฟฟิกของ Java ตกลงชั่วคราว และเป็นผลให้ Python แซงหน้าขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม Stack Overflow ก็พยากรณ์ล่วงหน้าอีก 2 ปีว่าทราฟฟิกของ Python มีแต่จะโตขึ้น ในขณะที่ Java/JavaScript ค่อนข้างทรงตัว
ถ้าพิจารณาอัตราการเติบโตอย่างละเอียดในรอบปี 2016-2017 ภาษาที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดคือ Rust และ Go ที่ราว อัตราราว 40% ต่อปี ตามด้วย R และ Python ที่ประมาณ 27-28% อย่างไรก็ตาม ขนาดของทราฟฟิก Python เยอะกว่าภาษาเหล่านี้มาก
อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาทราฟฟิกจากประเทศกำลังพัฒนา เช่น บราซิล รัสเซีย จีน ภาษายอดนิยมยังเป็น JavaScript/Java ตามด้วย C#/PHP ส่วน Python ยังอยู่อันดับ 5 แต่ก็มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าภาษาอื่นๆ เช่นกัน
ส่วนเหตุผลที่ Python เติบโตอย่างรวดเร็ว Stack Overflow อธิบายว่าเป็นเพราะ Python ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่พัฒนาเว็บ ประมวลผลข้อมูล big data ไปถึงงานสคริปต์สำหรับ DevOps
Stack Overflow ลองขุดดูสถิติว่าแพ็กเกจใดของ Python ได้รับความนิยมสูงสุด คำตอบคือ pandas ไลบรารีสำหรับวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนแพ็กเกจด้านคณิตศาสตร์อย่าง Numpy และ matplotlib ก็ได้รับความนิยมเพิ่มสูงเช่นกัน ถ้าเทียบกับแพ็กเกจด้านการพัฒนาเว็บอย่าง Django กับ Flask ที่อัตราการเติบโตไม่สูงเท่า
Stack Overflow จัดกลุ่มการใช้งาน Python ออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
ผลคือกลุ่ม Data scientist ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากที่สุด แต่ทราฟฟิกของกลุ่มอื่นๆ ก็เติบโตเช่นกัน
ข้อมูลเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนว่า Python ได้รับความนิยมเพราะการบูมของวงการ data science และ machine learning ส่วนวงการที่นิยมใช้ Python มากที่สุดมาจากด้านการศึกษาและวิจัย
ความน่าสนใจคือทราฟฟิกของ Python สวนทางกับ Java เพราะเป็นที่นิยมมากขึ้นในช่วงปิดเทอม แสดงให้เห็นว่า Java นิยมเพราะใช้สอนในชั้นเรียน ส่วนช่วงปิดเทอมที่ครูหรือนักศึกษาต้องทำงานวิจัย ก็จะใช้ Python กัน
ที่มา - Stack Overflow (1), Stack Overflow (2)
Comments
เป็นประโยชน์มากๆๆ
จะว่าไป python เขียนได้ทุกแนว ทั้ง App,Web , Data Science จิปาฐะ
ทำได้ดีด้วย ส่วน R ก็เหมาะกับ Data Science
ราว อัตราราว?
ถ้าสมมติใช้การประเมินว่ายอดทราฟฟิคอื่นๆ คงตัวแต่ทราฟฟิค Java ที่เพิ่มขึ้นทำให้ส่วนแบ่งมันลดจนกราฟตก (คือที่กราฟ สมมติกราฟของ JavaScript, C# ที่ตกลงในตอน Java ยอดเพิ่มขึ้น) ก็มี C++ อีกตัวที่กราฟไปในทางเดียวกันกับ Java แสดงว่ามีการเรียนการสอนด้วย C++ อยู่พอสมควรเหมือนกันสินะครับ
เป็นอีกภาษาที่ผมชอบ
เห็นด้วยยย ขนาดเคยเขียนอย่างอื่นมาเล่น python นี่แทบจะทิ้งภาษาอื่นเลย มันง่ายมาก
ประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อก่อนก็เขียนภาษาอื่นอยู่ตามลักษณะงานที่ต้องใช้มี C บ้าง Java บ้าง แต่หลัง ๆ มานี้เขียนแต่ Python อย่างเดียวแทบไม่ได้กลับไปเขียนภาษาอื่นเลย เพราะความอเนกประสงค์ของ Python นี่ล่ะ
ตัวภาษาง่ายดีครับ แต่พอไปถึง django ผมไปไม่รอดทุกที งง มาก
ลองดู flask กับ webapp2 ครับ django พาผมมึนเหมือนกัน
Flask ง่ายจริงครับ เฟิร์ม!!
ไม่มีปีกกาแล้วงงครับ ฮ่าๆ
^
^
that's just my two cents.
ตอนนี้นั่ง fetch db รอจนรากงอกค่อยเห็น result ออกมา(สองนาทีกับข้อมูลประมาณแสนกว่า rec) ยังตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะหา driver ตัวไหนดีหรือจะเลิกเขียนแล้วไปใช้ C#,R แทนดี? เพราะต้องใช้กับ tensorflow ด้วย
ลอง Go กับ Java ดูครับ เพราะ tensorflow รองรับทั้งสองภาษาแล้วครับ TensorFlow ออกเวอร์ชัน 1.0 แล้ว เริ่มรองรับภาษา Java และ Go
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
การทำ Performance Analysis ต้องทดสอบและวัดผลเยอะ ๆ ครับ
ผมยังเชิ่อว่าหากวิเคราะห์ได้ดีพอ Performance ไม่เป็นปัญหาสำหรับ Python ครับ
อ่านข่าวนี้แล้วรู้สึกดี
ผมใช้ Python ตั้งแต่สมัย Numerical Python จนเป็น Numpy ตอนเรียนก็เอา Python มาทำ Cluster สนุกมาก ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ และยังสนุกกับมัน
เป็น ecosystem ที่ powerful มากจริง ๆ
แนะนำแหล้งสำหรับมือใหม่หน่อยครับ
http://www.diveintopython3.net/