สื่อต่างประเทศที่ได้ Apple Watch Series 3 รุ่นพร้อม LTE ไปรีวิวกันก่อนออกวางจำหน่ายจริง เริ่มออกรีวิวกันแล้ว ซึ่งผลออกมามีความเห็นค่อนข้างหลากหลาย ขณะเดียวกันปัญหาบางอย่างที่มีการรายงานออกมา แอปเปิลก็ออกมารับทราบและบอกจะแก้ไข รวบรวมมาให้พิจารณากันเองนะครับ

David Pierce จาก Wired

• Apple Watch Series 3 เหมือนเป็น iPod รุ่นพัฒนาที่ขึ้นไปอีกขั้น และทำอะไรได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้า
• ทดสอบการคุยโทรศัพท์ผ่าน LTE ใช้งานได้เพียง 1 ชั่วโมง ตามข้อมูลก่อนหน้านี้
• แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้จำกัดยังเป็นสิ่งที่ท้าทายแอปเปิลในการพัฒนาต่อไป

Scott Stein จาก CNET

• การเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือทำงานได้ดี ทั้งโทรศัพท์, อีเมล, Siri
• แบตเตอรี่หมดเร็วมากเมื่อโทรศัพท์ หรือใช้งาน GPS เวลาออกกำลังกาย
• ภาพรวมเป็นสมาร์ทวอทช์ที่น่าสนใจมาก แต่แบตเตอรี่ที่จำกัดทำให้ไม่ใช่สินค้าที่อยู่ในระดับต้องซื้อ

Brian Heater จาก TechCrunch

• ทดลองใช้งานแบบต่อ LTE ตรงอย่างเดียว สามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่ต้องต่อกับ iPhone
• Apple Watch รุ่น LTE มีราคาค่อนข้างสูง และมีค่าใช้จ่ายรายเดือนเพิ่ม จึงต้องพิจารณาว่าคุ้มหรือไม่
• คนที่ใช้ Series 2 อยู่แล้ว อาจมีเหตุผลที่จะอัพเกรดไม่มากนัก

Brian X. Chen จาก The New York Times

• มองว่ารุ่น Cellular ไม่จำเป็นสำหรับคนส่วนใหญ่ เนื่องจากราคาสูงเกินไป
• การออกแบบสวยงาม แข็งแรง และฟีเจอร์การออกกำลังกายทำออกมาได้ดีมาก ใช้งานง่าย (พร้อมบอกว่าไม่เป็นผลดีกับ Fitbit)
• ประทับใจแบตเตอรี่มาก ใช้งานตลอดทั้งวันยังเหลือถึง 40%

Lauren Goode จาก The Verge

• Apple Watch Series 3 แบบ LTE มีซิมติดมาด้วยเลย และต้องผูกแพ็คเกจการใช้งานกับเบอร์ของ iPhone เท่านั้น เป็นข้อจำกัดมาก ต่างจาก iPad ที่ใช้ข้ามกันได้
• การออกแบบเหมือนกับ Series 2 มองแล้วแทบไม่แตกต่างกัน (ยกเว้น Series 3 LTE ที่มีปุ่มแดง)
• พบปัญหาการเชื่อมต่อ LTE ไม่สำเร็จบ่อยครั้ง และบางทีก็พยายามเกาะกับ Wi-Fi ที่ไม่รู้จัก แม้แอปเปิลส่งเรือนใหม่มาให้ทดสอบแทนก็ยังพบปัญหาเดิม
• ถ้าใช้ LTE แบตเตอรี่จะลดเร็วมาก แต่หากไม่ได้ใช้งานเลยแบตเตอรี่ก็เหลือค่อนข้างเยอะ
• แอพ Music ไม่สามารถใช้งานฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งได้

Joanna Stern จาก The Wall Street Journal

• ไม่แนะนำรุ่น LTE เนื่องจากปัญหาแบตเตอรี่หมดไว

สำหรับปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ The Verge นั้น ตัวแทนแอปเปิลระบุว่ารับทราบปัญหาแล้ว และจะแก้ปัญหาในอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันถัดไป

ที่มา: Apple Insider, [2] และ Business Insider