หลังมีกระแสลบอย่างหนักหน่วงต่อ Google Pixel 2 ในประเด็นที่ตัดช่องหูฟัง 3.5 มม. ออก แถมยังขายหัวแปลง USB-C เป็น 3.5 มม. ในราคาแพงหูฉี่ถึง 20 ดอลลาร์สหรัฐ
ล่าสุดมีคนพบว่ากูเกิลปรับราคาขายของสินค้าดังกล่าวบน Google Store เหลือ 9 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว ซึ่งลงมาเท่ากับราคาหัวแปลง Lightning เป็น 3.5 มม. ที่แอปเปิลขายอยู่
ที่มา - The Verge
Comments
ทีแรกกะจะฟันเต็มที่เลยสินะ
อ้าว
งี้คงไม่ได้คุณภาพต่างจากของแอปเปิลเท่าไรสินะ แต่ตอนแรกกะฟันราคารัวๆ
Don't be evil
Said by Evil...
be satan
People expect more from the good one not a bad one.
อ้าว กะจะฟันราคาซะหน่อย ยอมถอยมาเท่าแอปเปิลซะแล้ว
แต่ต้นทุนน่าจะสูงกว่าแอปเปิล เพราะสั่งผลิตน้อยกว่าเยอะมากๆ ปริมาณห่างกัน 100-130 เท่า
ลดได้ขนาดนี้ ต้นทุนเหลือเท่าไหร่
เขามีแถมมาในกล่องไหมอ่ะ เสียวหมีจังเขาแถมมาให้เลย
หัวแปลงมีครับ แต่ไม่แถมหูฟัง usb-c มา
อ่านแล้วรู้สึกแปลก ๆ เสียวหมีจัง อิอิ
ข้อดีของการแข่งขัน
ถ้าในตลาดผูกขาดเจ้าเดียวก็ตั้งราคากันสนุกเลย
จริงๆหูฟังไร้สายที่แถมจากน้ำมันเครื่อง(ห่วยๆ)ค่ายนึงก็ใช้แทนได้แล้วครับ :P
คุณภาพล่ะครับ ได้เท่ากันไหม คนใช้หูฟังหลายๆคนเค้าคำนึงถึงคุณภาพที่ได้รับด้วยนะครับไม่ใช่แค่ให้มีเสียง
โอโห้ นี่กล้าตั้งราคาแพงกว่า Apple อีกเหรอ / ขอบคุณการแข่งขัน ทำให้ไม่เกิดการผูกขาด
แซะเค้าไปแซะเค้ามาจะขายแพงกว่าเค้าซะงั้นเหอะๆ เรื่องนี้ Apple ดูหล่อขึ้นมาทันตา
นอกเรื่อง Google Pixel 2 มันมีแววจะเข้าไทยอย่างเป็นทางการไหม
+1 ตอนนี้คือเบรคการซื้อ Note 8 เพื่อรอ Pixel 2 เข้าไทย (ซึ่งน่าจะยาก) TT
มีความพยายามติดต่อนำเข้ามาขาย แต่ถ้า Google ไม่สนใจตลาดในไทยเหมือนเดิมก็คงยากครับ
ไม่ขายในไทย ไม่ต้องรอ
ปล.แม้แต่ราคาสายยังลอก!
ว้าว daC เทพแบบนั้นทำไมลดราคาได้นะ
อะไรคือการที่ข่าว Pixel ดึงดูดคอมเมนต์จำนวนมากทั้งๆที่มันไม่วางขายในไทยด้วยซ้ำ
ปล. เห็นลือว่า Nokia 9 ก็จะไม่มีพอร์ต 3.5 แบบนี้น่า discuss มากกว่านะ เพราะโอกาสเข้าไทยสูงกว่าเยอะ
ลอกยันราคา เอาเข้าไป
หู่ฉี่ .. +1
my blog
รู้สึกเหมือนฝรั่ง พยายามฮั้วกันให้รู 3.5 สูญพันธ์ชอบกล
ตอนแรกพยายามมองแง่ดีว่าสายแปลงของ Google คงใช้ DAC ดีมั้ง ราคาเลยแพง แต่การที่ยอมลดราคาลงมา... ก็นะ
ผมมองว่า ยังไงๆ 3.5mm ก็ไม่หายไปง่ายๆ (แต่อาจจะหายไปจากตลาดล่าง) เพราะคิดว่า DAC ในตัวหูฟังอันเล็กๆ ถึงจะมีข้อดีที่ว่าไม่ผ่านสาย แต่ยังไงๆผมคิดว่าคุณภาพก็คงไม่มีทางสู้ DAC อันใหญ่ๆได้อยู่ดี
ผมว่าที่สายไม่มี DAC เป็นอแดปเตอร์โล้น ๆ :)
นั่นสิครับ ผมสงสัยมากทำไมสายพวกนี้ถึงไม่บอกว่าเป็น analog-to-analog หรือ digital-to-analog
เคยได้ยินว่า USB-C ตามมาตรฐานออกแบบเผื่อไว้ให้ส่งสัญญาณ Analog ได้ ไม่เหมือนไอโฟนที่ส่งแต่ดิจิตอลอย่างเดียวเพราะงั้นสายแปลงของไอโฟนจึงต้องมี DAC
ส่วน USB-C นี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีค่ายไหนบ้างที่ทำให้ส่ง Analog ได้ ยี่ห้อก่อนหน้าที่ใช้ USB-C ก็ไม่เห็นมีเจ้าไหนระบุเลยไม่ว่าจะเป็นตัวพอร์ตหรือตัวสาย (คงต้องชำแหละเอาเอง)
ความเห็นส่วนตัวผมเดาว่าน่าจะเป็นตัวที่มี DAC มากกว่ามั้งครับ (แน่นอนว่าอันเล็กแค่นั้นคงไม่ใช่ DAC ดีเด่อะไร) เพราะไม่งั้นเอาไปเสียบยี่ห้ออื่นได้บ้างไม่ได้บ้าง 55+ (แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน Google ออกมาบอกเองว่ารูหูฟังไม่ได้หายไปไหน USB-C นั่นไง อาจจะหมายถึง USB-C ส่ง Analog ได้)
ถ้าไม่มี DAC แล้วดันขายแพงเท่าฝั่ง iOS ที่มี DAC ในตัว นี่คงกำไรสุดๆ แถมตอนแรกตั้งราคาสุดโหดด้วย
บอกข้อดีกันแบบนู้นแบบนี้แต่ไม่มีที่ดีๆ ให้เห็นชัดออกมาสักที
ถ้าออกมาแบบ เออ ตรงสายมันมีหน้าจอมีปุ่มแสดงเพลงแสดงชื่อคนโทรเข้าให้สมกับเป็นสายดิจิตอลให้ด้วยสักหน่อยก็คงพอเรียกเสียงฮือฮาได้บ้างหรอกครับ นี่คือดิจิตอลแล้วยังไง ใช้งานได้เท่ากับตอนเป็นอนาล็อคแบบหาข้อดีกว่าแทบไม่ได้แถมลำบากคนใช้ในแทบทุกด้านอีก
ถ้ามันทำแบบ remote control + display panel เหมือน sony walkman แบบนี้ได้ก็ว่าไปใช่ไหมครับ?
Jusci - Google Plus - Twitter
ใช่ครับ
ไม่คิดต่อต้านเรื่องหูฟังไร้สายครับ แต่เนื่องจากราคาค่อนข้างแพงนี่แหละคือปัญหา
ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะขายได้น้อยกว่า Apple เลยต้องตั้งราคาสูง แต่ก็คิดผิดตั้งแต่ตัดรูหูฟังออกแล้ว
น่าประหลาดใจที่ Google ดันมาทำตัวแบบนี้เสียเองหลังจากที่แซะ Apple ไว้มาก
โมเดลธุรกิจจองหอง
Google and Apple not Diff Behavior.