Disney ผลักดันตัวเองให้เป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแทนที่จะเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์อย่างเดียว เห็นได้จากการเปิดตัว Movies Anywhere ที่รวมหนังหลายค่ายเข้าไว้ด้วยกัน โดยเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Disney เผยจะเปิดตัวแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งสองแห่ง หนึ่งคือแพลตฟอร๋มหนัง (Movies Anywhere ในปัจจุบัน) และอีกหนึ่งคือเว็บไซต์ถ่ายทอดกีฬา ดูผ่านแอพ ESPN ทั้งสองแพลตฟอร์มควบคุมเทคโนโลยีโดยบริษัทเล็กๆ อย่าง BamTech
Disney เข้าถือหุ้นใน BamTech มาตั้งแต่ปี 2016 เริ่มจากถือหุ้น 33% มาเป็น 75% ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ Disney เริ่มเดินหน้ายุทธศาสตร์สู่ตลาดสตรีมมิ่งเต็มตัว
BamTech ขยายตัวมาจาก Major League Baseball Advanced Media หรือชื่อสั้นๆในตอนนั้นว่า Bam สร้างเว็บไซต์ถ่ายทอดเกมกีฬา จากนั้นจึงสร้างแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเพื่อให้คนที่อยู่นอกเมืองได้ดูด้วย ผลงานของ Bam น่าสนใจดึงดูดบริษัทรายใหญ่อย่าง WWE, Fox Sports, PlayStation Vue และ Hulu ไม่เว้นแม้แต่ HBO ที่เข้ามาร่วมลงทุนในปี 2014
ในปี 2015 Bam แยกส่วนการผลิตสตรีมมิ่งออกมาเป็น BamTech หลังจากนั้น Disney ก็เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ Robert A. Iger ผู้บริหาร Disney ระบุว่าเขาประทับใจใน BamTech เนื่องจากบริษัทมีประวัติดี ไม่มีปัญหาขัดข้องแม้จะมีการถ่ายทอดสดมาหลายหมื่นครั้ง นอกจากนี้ BamTech ยังใช้เทคโนโลยีแทรกโฆษณาในวิดีโอตามสถานที่ของผู้ดูด้วย และมีชื่อเสียงในการดึงดูดและรักษาผู้ชมโดยให้ดูแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย
แต่ปัญหาของ BamTech คือยังเป็นบริษัทเล็ก และยังมีอัลกอริทึมและเทคโนโลยีเรียนรู้จากผู้ใช้แต่ละคนไม่มากพอ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากจะสู้กับรายใหญ่ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ BamTech ดึงผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกเข้ามาทำงานด้วย คือ Michael Paull จาก Amazon มาเป็นผู้บริหาร และยังมีอดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจาก FBI เข้ามาด้วย
ภาพจาก BamTech
ที่มา - The New York Times
Comments
แพลตฟอร๋ม => แพลตฟอร์ม