Tags:
Node Thumbnail

Nutanix ผู้พัฒนาระบบประมวลผลคลาวด์สำหรับองค์กร โดยมีแนวคิดแบบใหม่ให้การจัดการหลังบ้านทำได้ง่ายมากขึ้น บริษัทได้ผ่านหลักไมล์สำคัญคือเดินจากการเป็นสตาร์ทอัพ ไปสู่การเข้าตลาดหุ้น Nasdaq เมื่อปีที่แล้ว และขยายการบริการจากเซิร์ฟเวอร์ ไปสู่แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับองค์กร

ล่าสุดในงานการประชุม .NEXT ที่สิงคโปร์ Blognone ได้มีโอกาสร่วมฟังและพูดคุยกับผู้บริหารของ Nutanix เพื่อสรุปแนวโน้มและทิศทางของการจัดการระบบประมวลผลของศูนย์ข้อมูลในยุคถัดไป ตลอดจนแนวทางที่ Nutanix ต้องการเป็น โดยเฉพาะแนวคิดมุ่งสู่การเป็น iPhone ของโลกเซิร์ฟเวอร์ นั้นน่าสนใจทีเดียว

เติบโตทุกปี และมีลูกค้าเพิ่มขึ้นตลอด

alt="Nutanix"

คุณ Matt Young รองประธานภูมิภาค เอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่นของ Nutanix กล่าวว่าบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่ากิจการตามราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ ปีที่ผ่านมารายได้โต 62% จำนวนลูกค้ามากกว่า 7 พันราย เฉพาะใน Asean ก็มากกว่า 500 ราย รวมทั้ง Gartner ก็ให้เป็นผู้นำด้าน Integrated Systems ของ Gartner Magic Quadrant ติดต่อถึงกัน 3 ปี

แนวทางแบบ Hyperconverged นั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกทาง เราได้เห็นบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งเริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์แนวเดียวกันออกมาเป็นคู่แข่งเยอะมาก นั่นคือเหตุผลที่ Nutanix ต้องการขยับขึ้นไปอีกขั้นโดยเพิ่มการสนับสนุนแพลตฟอร์มคลาวด์ให้มากขึ้น แต่คงความง่ายในการ config ด้วยเป้าหมายให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องโฟกัสงานแบบเดิม แต่ไปสนใจงานด้านแอพพลิเคชั่นที่รันมากขึ้น

องค์กรต้องการคลาวด์ แต่ทางเลือกก็ยังหลากหลาย

alt="Public vs. Private Cloud"

ที่ผ่านมาทางเลือกของการไปสู่คลาวด์องค์กรนั้น คือการเลือกว่าจะไป Public Cloud หรือสร้าง Private Cloud เอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็พบกันว่าแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสีย เราได้เห็นหลายองค์กรที่เคยใช้ Public Cloud เต็มตัวก็เปลี่ยนมาทำ Private Cloud อย่างกรณีของ Dropbox ขณะเดียวกันก็มีหลายบริษัทมุ่งสู่ Public Cloud เต็มตัวไปเลย

alt="Workloads"

ในระดับองค์กรนั้น Nutanix พบว่างานระบบส่วนใหญ่ราว 70% เป็นลักษณะที่คงที่หรือคาดการณ์ได้ มีความสม่ำเสมอ ซึ่งงานแบบนี้หากนำไปใช้บน Public Cloud จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการอยู่บน Private Cloud มาก อย่างไรก็ตามงานประเภทเว็บ, Batch หรือที่มีโหลดสูงตามฤดูกาล หากใช้บน Public Cloud ก็จะเหมาะสมมากกว่า นอกจากนี้บางองค์กรยังมี Distributed Cloud อีกด้วย

alt="Cloud Challenges"

เมื่อองค์กรมีคลาวด์ที่หลากหลายสิ่งที่ท้าทายก็คือ จะทำอย่างไรให้คลาวด์แต่ละชนิดทำงานร่วมกันได้มากที่สุด และสามารถปรับขยับได้ง่ายที่สุด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ Nutanix ต้องการเข้ามาแก้ปัญหานี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ล่าสุดในการจัดการ Public Cloud อย่าง Calm และ Xi Cloud Services

ความซับซ้อนคือต้นทุนที่แพงที่สุด

alt="Roadmap"

คุณ Sudheesh Nair ประธาน Nutanix นำเสนอว่าไอทีองค์กรแบบดั้งเดิมกำลังถูกท้าทายด้วยโลกยุคใหม่ ที่ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว สะดวก และใช้งานง่าย ขณะเดียวกันไอทีองค์กรก็ต้องรองรับเทคโนโลยีใหม่อันหลากหลายให้ได้ แต่ก็ยังต้องการควบคุมดูแลแบบเดิมให้ได้มากที่สุด ช่องว่างนี้คือสิ่งที่ Nutanix เชื่อว่าจะเข้ามาปิดได้

alt="Complexity"

มีคำพูดที่น่าสนใจของคุณ Nair อยู่นั่นคือ งานไอทีในองค์กรยุคนี้มีบทบาทมากขึ้น เปลี่ยนจากฝ่ายสนับสนุนมาเป็นเรื่องของธุรกิจที่ปฏิสัมพัทธ์กับลูกค้าโดยตรง จึงควรเปลี่ยนมาโฟกัสกันที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพการใช้งานฮาร์ดแวร์ภายใน ขณะเดียวกันองค์กรกังวลเรื่องต้นทุน แต่แท้จริงระบบที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ มีต้นทุนแฝงคือความยุ่งยากในการจัดการซึ่งแพงที่สุด ดังจะเห็นได้จากกรณีบริษัทใหญ่ถูกแฮกในช่วงหลัง ก็เป็นปัญหาจัดการแพตช์ไม่ทัน

แนวคิดของ Nutanix คือระบบจัดการในศูนย์ข้อมูลนั้นควรเป็นเรื่องของเครื่องจักรติดต่อหากันเอง (Machines to Machines) เช่นสามารถตรวจสอบปัญหากันได้เอง ซ่อมตัวเอง ตัดสินใจ หรือจัดลำดับแพตช์ได้เอง เพื่อลดภาระของผู้ดูแลระบบแบบเดิม ซึ่งคำเปรียบเทียบหนึ่งก็คือ Nutanix อยากเป็น iPhone ของโลกระบบองค์กรที่เปิดกล่อง config เล็กน้อย ก็ใช้งานได้เลย แล้วงานไอทีองค์กรก็จะได้ไปโฟกัสที่การพัฒนาระดับแอพพลิเคชั่นมากขึ้น ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าดีทีเดียว โดยเฉพาะในองค์กรที่ฝ่ายไอทีมีบุคลากรไม่มากและต้องดูแลทุกอย่าง

alt="Nutanix"

Nutanix และโอกาสใหม่ๆ

ตลาดที่ Nutanix ให้ความสำคัญมากแต่ต้นคือเอเชีย ซึ่งมองว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตของไอทีองค์กรสูง ขณะเดียวกันความท้าทายของไอทีองค์กรในเอเชียก็คือการไปสู่คลาวด์นั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด ต่างจากฝั่งตะวันตกที่คุ้นเคยกับคลาวด์มานานแล้ว

alt="Lenovo Case"ตัวอย่างกรณีความง่ายในการติดตั้งของลูกค้า ที่ Nutanix ร่วมมือกับ Lenovo

เรื่องนี้ทำให้ Nutanix มองว่าอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบเนื่องจากแนวคิด config และติดตั้งจัดการง่าย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ก็สนับสนุนโอเพ่นซอร์ส, คลาวด์ และมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า ในด้านการเติบโตนั้นยังอยู่ในระดับที่สูงแต่ไม่หวือหวา เนื่องจากลูกค้าระดับองค์กรมีรอบการใช้จ่ายตามอายุอุปกรณ์ เมื่อถึงรอบเวลา Nutanix ก็มั่นใจว่าจะเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ เพราะเรื่องราวของลูกค้าที่ใช้ Nutanix จะเป็นการโฆษณาบอกต่อนั่นเอง

alt="Customers"

สำหรับตลาดในประเทศไทยนั้น คุณทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทยของ Nutanix บอกว่าผลิตภัณฑ์ได้รับการตอบรับดีจากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกรณีตัวอย่างของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่ใช้เวลาศึกษาการนำคลาวด์มาใช้งานหลายปี แต่เมื่อถึงขั้นตอน implement ก็สามารถสำเร็จในเวลาไม่กี่สัปดาห์ด้วยผลิตภัณฑ์ของ Nutanix และยังมีโอกาสอีกมากเนื่องจากภาครัฐก็ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ และผลักดันการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่มากขึ้น

Get latest news from Blognone