ช่วงนี้ Kaspersky Lab ถูกกล่าวหาว่าได้รับว่าจ้างจากหน่วยข่าวกรองของรัสเซียให้ล้วงข้อมูลจากอเมริกาด้วยซอฟต์แวร์ความปลอดภัย ทำให้รายได้ของบริษัทนั้นลดลงอย่างมากในตลาดอเมริกาเหนือ (แต่ในตลาดอื่นยังคงเติบโตอยู่) และซอฟต์แวร์ของเขาถูกแบนจากหน่วยงานภาครัฐของอเมริกาเนื่องจากโปรแกรมแอบไปคัดลอกไฟล์สำคัญ
ล่าสุด Eugene Kaspersky ซีอีโอของบริษัทได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ออฟฟิศของบริษัทในลอนดอน ซึ่งเขายืนยันว่าหน่วยข่าวกรองของรัสเซียไม่เคยสั่งให้มาล้วงข้อมูลเลย ในขณะที่ทุกวันนี้บริษัทของเขาต้องพบกับรายงานจากสื่อหลายสำนักและคำแถลงจากหน่วยงานภาครัฐของอเมริกาจำนวนมาก ซึ่งเป็นข้อมูลแนวชี้นำไปในทางที่ผิด และไม่เป็นความจริง พร้อมกล่าวคำว่า "ถ้ารัฐบาลรัสเซียมาหาผมและให้ผมทำในสิ่งที่ผิด หรือพนักงานของผม ผมจะย้ายธุรกิจออกไปนอกรัสเซีย"
ทั้งนี้ Kaspersky ยืนยันว่าบริษัทของเขาไม่เคยช่วยการจารกรรมใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานของรัสเซียหรือประเทศอื่นก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของ Kaspersky ถูกออกแบบมาเพื่อหยุดการโจมตี, ระบุโค้ดอันตราย ไม่ใช่การสอดแนมลูกค้า และบริษัทจะต่อสู้เพื่อชื่อเสียงของเรา
ที่มา - Reuters
Eugene Kaspersky ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Kaspersky ภาพจากบล็อกของ Kaspersky
Comments
หน้าที่ของเขาก็คือการเก็บ Log การทำงานกับพฤติกรรมเสี่ยงนี่ หน้าที่เขาอยู่แล้ว เรื่องเยอะมากก็ออกแบบใช้เองเลย USA
มีอยู่แล้วครับที่เป็นของที่เกิดจากสัญชาติ USA คนเดือนร้อนเป็น Kaspersky ซะมากกว่าละครับ เสียดายรายได้มหาศาล ฝั่ง user เองเปลี่ยนยี่ห้ออาจจะแค่ train ใหม่นิดหน่อย
ไม่เคยสั่งครับ แค่ “ขอความร่วมมือ”
แบบนี้ป่าว
ถ้าบริสุทธิ์จริงก็น่าเห็นใจ ล่าสุดผมเองปีนี้ก็เปลี่ยนไปใช้ bitdefender ไม่ใช่เพราะข่าว แต่ฝั่งนู้นให้ราคาถูกกว่า