เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา FCC ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดการการสื่อสารและคลื่นความถี่ของสหรัฐอเมริกา ผ่านมาตรการยกเลิกการกำกับ Net Neutrality ด้วยคะแนนผลโหวต 3-2 คะแนน การยกเลิกมาตรการควบคุมนี้จะทำให้เกิดการย้ายหมวดหมู่ของผู้ให้บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ต จากที่อยู่ในหมวด 2 กลับไปไว้ในหมวด 1 เช่นเดิม
มาตรการ Net Neutrality ในสหรัฐอเมริกาถูกบังคับใช้อย่างได้ผลจริงเมื่อปี 2015 เมื่อ FCC จัดหมวดหมู่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและเคเบิลใหม่ โดยย้ายจากหมวด 1 ซึ่งเป็นหมวดของผู้ให้บริการข้อมูล (information provider) ไปยังหมวด 2 ซึ่งเป็นหมวดของผู้ให้บริการโครงข่ายทั่วไป (common carrier)
เมื่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตถูกจัดให้อยู่ในบริการตามหมวดที่ 2 (หรือ common carriers) ซึ่งถูกมองว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องมีการจัดสรรและกำกับดูแลมากกว่าสินค้าฟุ่มเฟือย FCC จะมีอำนาจกำกับผู้บริการมากขึ้น เช่นอำนาจในการสืบสวนข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการ, ออกข้อบังคับว่าด้วยการให้บริการอย่างมีเหตุผล และรวมถึงการออกข้อบังคับว่าด้วย Net Neutrality ซึ่งมาตรการสามข้อหลักที่ FCC บังคับใช้ คือต้องไม่มีการปิดกั้นเนื้อหา ไม่มีการบีบความเร็ว และไม่มีการจ่ายเงินเพิ่มเพื่อแลกกับความเร็วเฉพาะบริการที่มากขึ้น
ทว่า หลังการขึ้นดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี Donald Trump เมื่อช่วงต้นปี Trump แต่งตั้งให้ Ajit Pai เป็นหัวหน้าบอร์ด (chairman) ของ FCC คนใหม่ และ Pai ผู้ซึ่งเคยทำงานให้กับ Verizon พยายามเป็นอย่างยิ่งในการ "ย้อนถอยหลัง" (reverse) การบังคับใช้มาตรการ Net Neutrality
มีเสียงตอบรับทางลบหลังจากการโหวตยกเลิกมาตรการ Net Neutrality เป็นจำนวนมาก ผลการศึกษาสองแห่งอ้างว่าความเห็นสนับสนุนการยกเลิกมาตรการ Net Neutrality จำนวนมากที่ FCC ได้รับระหว่างกระบวนการรับฟังข้อคิดเห็นนั้นเป็นของปลอม นอกจากนี้รัฐวอชิงตันเตรียมออกกฏหมายภายในรัฐเพื่อบังคับใช้มาตรการกำกับ Net Neutrality ต่อ และ อัยการสูงสุดของนิวยอร์ก เตรียมยื่นฟ้อง FCC แบบหลายรัฐต่อกรณีการโหวตยกเลิกมาตรการควบคุมนี้
ที่มา: The Verge
Comments
lewcpe.com, @wasonliw
ขอบคุณครับ ลองปรับแก้แล้วรู้สึกเนื้อข่าวเริ่มยาวมากเพราะพยายามเขียนถึงพื้นหลังต่อกรณีนี้ด้วย ถ้าคุณลิ่วมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมก็รบกวนด้วยนะครับ
Blog | Twitter
Ajit Pai โดนสาปส่งมาก
ไม่น่าเชื่อว่าผ่านจริงๆ ขนาดคนลงชื่อค้าน
ทั้งให้โทรไปคอมเพลนกับ FCC ...
ยังนึกไม่ออกว่าผู้บริโภคได้ประโยชน์ตรงไหน แล้วใครโหวตเห็นด้วย ( = =‘
ผ่านสิครับ lock มาแล้วว่า 3 คนโหวตผ่านแน่นอน คนก็เก็งๆ กันแล้ว
ตอนนี้เขาหวังพึ่ง การฟ้องร้อง สภาคองเกรส ศาล กันแล้วครับ
สมัยก่อน NN เมกาก็ไม่เห็นมีปัญหาไรนะ แต่ก็ดูกันต่อไป
ส่วนบ้านเราดีหน่อย ISP ไม่ค่อยรู้เรืองพรรคนี้ อิอิ
มีครับ ดูใน Lastweektonight ที่ผมทำลิงก์ไว้ให้ก็ได้ ในสมัยนึง operator มีบล็อคคู่แข่งหลากหลายรุปแบบ ทั้งบริการ payment, video call
lewcpe.com, @wasonliw
มันเคยมีกรณีฉาวที่ดังที่สุดก็เรื่อง FaceTime กับ AT&T และก็กรณี ของ Comcast ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger