ข่าวใหญ่เมื่อวานนี้คือ Kodak ประกาศเข้าสู่วงการคริปโต เตรียมทำ Kodakcoin จนทำให้ราคาหุ้นพุ่งสูง แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยังกังขากับแผนการของ Kodak ว่าเป็นไปได้จริงแค่ไหน
แผนการของ Kodak มีสองส่วน ส่วนแรกคือ Kodak KashMiner เครื่องขุดเหรียญที่จะต้องจ่ายเงิน 3,400 ดอลลาร์เพื่อเช่าเครื่อง แลกกับผลตอบแทน 375 ต่อเดือนเป็นเวลา 2 ปี (9,000 ดอลลาร์) ภายใต้เงื่อนไขว่า Bitcoin ต้องมีราคาเฉลี่ยสูงกว่า 14,000 ดอลลาร์
แท้จริงแล้วเครื่องขุดเหรียญนี้เป็นของบริษัท Spotlite America ที่ซื้อชื่อของ Kodak มาใช้งาน โดยนำมาจากบริษัทจีนที่ไม่ระบุชื่ออีกที (มีคนหาเจอว่าเหมือนของบริษัท Antminer) เรื่องนี้ Saifedean Ammous อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และผู้เขียนหนังสือ The Bitcoin Standard บอกว่านี่เป็นเรื่องตลกสำหรับคนที่รู้เรื่อง Bitcoin จริงจัง
แผนการส่วนที่สองคือการออกเหรียญ Kodak Coin เพื่อใช้เป็นเงินจ่ายค่าบริการแพลตฟอร์มจัดการรูปภาพ KodakOne ก็ถูกตั้งคำถามว่า ทำไมเราต้องใช้เหรียญคริปโตเพื่อจ่ายเงินซื้อ stock photo ด้วย และมีคนพบว่าแพลตฟอร์มของ Kodak ยกมาจากบริษัทชื่อ WENN ที่ใช้สำหรับภาพถ่าย paparazzi โดยแค่นำมารีแบรนด์ใหม่เท่านั้น
Nicholas Weaver อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเบิร์กลีย์ ให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed แสดงความเห็นว่า บริษัทชื่อ Kodak ในทุกวันนี้ (นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา) เป็นแค่ "ร่างทรง" ของบริษัท Kodak ที่ยิ่งใหญ่ในอดีตเท่านั้น และหากินด้วยการขายสิทธิการใช้แบรนด์ของตัวเองไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น แผงโซลาร์เซลล์, ระบบจัดการพลังงาน และล่าสุดคือสกุลเงินดิจิทัล
ที่มา - BuzzFeed, Ars Technica, ภาพจาก Kodak
Comments
ถ้าเป็นเมืองไทยคือเป็นบริษัทที่ทำพลังงานทางเลือกสิ่นะ
oxygen2.me, panithi's blog
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
อาจารย์แกสปอย์หนักมาก ๆ
คิดเหมือนกันเลย เหมือนจะปั่นให้หุ้นขึ้นราคาแล้วก็เทขาย 5555
คิดไปแล้วก็น่าทึ่งว่าชื่อ Kodak เคยยิ่งใหญ่ขนาดไหน แค่เอาชื่อไปแปะกับอะไรก็ขายได้
มีใครเคยคิดว่า Kodak เป็นบริษัทญี่ปุ่นเหมือนผมมั้ย
อ้าว
ไม่ใช่หรอกเหรอ Oo
ข่าวนี้ทำให้เข้าใจซึ้งเลยว่า แบรนด์ มันขายได้จริงๆ แม้จะไม่มีสินค้าเหลือแล้วก็ตาม