By: arjin 
on 20 January 2018 - 09:26
Tags:
Topics:
Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลได้ไปพูดที่ Harlow college ซึ่งเป็นหนึ่งใน 70 สถาบันในยุโรป ที่เข้าร่วมโครงการหลักสูตร Everyone Can Code ของแอปเปิล โดยเขาพูดถึงเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้ในชีวิตประจำวันในทุกเรื่องว่า เขาไม่เชื่อสิ่งนี้ และเขาไม่คิดว่าการไปถึงจุดนั้นได้คือสิ่งที่ดี
เขายกตัวอย่างว่าต่อให้เป็นหลักสูตรการออกแบบกราฟิกคอมพิวเตอร์ มันก็มีหัวข้อที่ต้องพูดคุยถกเถียงให้เข้าใจ ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาทดแทนได้ทั้งหมด หรืออย่างวิชาวรรณกรรมเขาก็ไม่เห็นด้วยที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งหมด
นอกจากนี้ Tim Cook ยังบอกว่าตัวเขาเองไม่มีลูก แต่มีหลาน ซึ่งหากควบคุมได้ เขาจะไม่ให้หลานเล่น Social Network เลย
สุดท้ายเขายังพูดถึงประเด็นโปรแกรมมิ่งควรเป็นภาษาที่สองสำหรับเด็กว่า ถ้าหากคุณต้องเลือก การเขียนโค้ดนั้นสำคัญกว่าการเรียนภาษาต่างประเทศมาก เขาทราบดีว่าหลายคนไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่อยากให้รู้ว่าโค้ดเป็นภาษาสากล และนำไปใช้ได้กับคน 7 พันล้านคนทั่วโลก
ที่มา: The Guardian
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
... ไม่น่าละ Apple ทำ Social Network ทีไร แป็กทู๊กที
(จริงๆ ก็ตั้งแต่สมัย Jobs ละ)
คำที่ว่า "โค้ดเป็นภาษาสากล และนำไปใช้ได้กับคน 7 พันล้านคนทั่วโลก" นี่เกินจริงไปนิด - -
คือถ้าจะสื่อสารกับผมด้วยการเขียนโคดนี่ บอกเลยว่า ผมไม่รู้เรื่อง - -
ผลลัพธ์ของโค้ด คือ App บนมือถือ และ โปรแกรมต่างๆ ในคอมพิวเตอร์ ซึ่ง App ต่างๆ สื่อสารกับมนุษย์ได้ ผ่าน interface ในรูปแบบต่างๆ ไม่รู้ว่าเกินจริง หรือเหนือจริง/เสมือนจริง
ทีแรกผมก็ไม่ค่อยเข้าใจ ได้อ่านความเห็นนี้เข้าใจชัดเจนเลยครับ เยี่ยมครับ
ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจประเด็นคุณถูกป่าวนะครับ แต่ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้า Facebook ออกแบบโดยคนไทย ในแอพมีแค่เมนูภาษาไทย เราจะได้เห็น Facebook แบบที่เราเห็นในวันนี้หรือเปล่านะ
เหมือนเล่น mmorpg แล้วบอกสกิลยิงธนูเป็นสกิลที่สำคัญที่สุดในโลก งานนี้พระ นักเวท นักดาบ น้อยใจแย่ ยิงธนูไม่เป็น
มันเว่อไปครับสำหรับ coding / ถ้าดนตรี ก็ว่าไปอย่าง
ผมว่ามันก็ไม่น่าจะเวอร์นะ ถ้าเข้าใจโค้ดก็สามารถทำ localize หรือแปลเพื่อพูดคุยสื่อสารกับคนชาติอื่นๆ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเข้าใจภาษาท้องถิ่นนั้นๆ ได้เหมือนกัน
Localize โดยไม่ต้องเข้าใจภาษาท้องถิ่น
พอเล่าเป็นไอเดียได้มั๊ยครับ
เขียนแค่โปรแกรมครับ ส่วนงานแปลหรืองานด้านภาษาเป็นงานของตำแหน่งอื่น
อ่อ ขอบคุณครับ สรุปก็ต้องมีคนรู้ภาษาท้องถิ่นอยู่ดี
ใช่ครับ มันอยู่ในประโยคของเขาที่พูดว่า "มันก็มีหัวข้อที่ต้องพูดคุยถกเถียงให้เข้าใจ ไม่ใช่ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาทดแทนได้ทั้งหมด หรืออย่างวิชาวรรณกรรมเขาก็ไม่เห็นด้วยที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ทั้งหมด" ซึ่งที่จริงเขาก็ไม่ได้บอกว่าทุกคนต้องเรียนตามที่เขาว่ามา และอาชีพอื่นๆ ก็ยังมีความสำคัญอยู่เช่นกัน(คหสต.)
ผมไม่เข้าใจไม่ทราบที่มาของบริบทที่คุณยกมาครับ ผมถกเฉพาะประเด็นที่เจ้าของเม้นต์พูดถึงว่า โค้ดเป็นภาษาสากลสื่อสารกับคนทั่วโลกได้จริงมั๊ย จนมาถึงประเด็นที่คุณบอกว่า ไม่เกินจริง เข้าใจโค้ดก็สามารถ localize ได้โดยไม่ต้องเข้าใจภาษาท้องถิ่น ผมก็เลยสนใจว่ามันมีแนวทางที่น่าสนใจหรือเปล่า อยากศึกษาดูเท่านั้นแหล่ะครับ
บริบทของผมคือมันเป็นการสื่อสารทางอ้อมครับ ซึ่งต้องมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ประกอบ ในที่นี้คือคนที่รู้ภาษานั้นๆ มาเป็นสะพานเชื่อมการสื่อสารที่ว่า ตัวอย่างสมมติก็เช่น เราสามารถสร้างแอพแปลภาษาแบบ real time ขึ้นมาได้แอพหนึ่งที่สามารถแปลทุกภาษาเพื่อสื่อสารกับทุกคนในโลกได้
อ่อ เข้าใจครับ ผมคงจะติดอยู่ในประเด็นที่ Tim Cook และเจ้าของเม้นต์พูดถึงมากไปหน่อย ว่าเด็กควรเรียนภาษาอะไรเป็นภาษาที่สองมากกว่ากัน ซึ่งเหมือนจะเปรียบเทียบเฉพาะแค่ ภาษาโปรแกรมมิ่ง กับ ภาษาสื่อสารอื่นๆ ว่าอะไรสำคัญกว่ากัน
ถามพ่อ-แม่เด็ก กับตัวเด็กก่อนนะ
เพราะโค้ดมันเป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าผมพูดภาษาอังกฤษตั้งแต่เกิดผมก็อาจจะพูดแบบนี้นะ
เขาคงหมายถึงคนที่พูดภาษาอังกฤษ เป็นปกติอยู่แล้ว จะมาเรียนภาษาไทยไปทำไมในเมื่อ code มันเป็นภาษาอังกฤษ
ไม่ให้เด็กเล่นแต่เจอบ่อยเลย พวกอาจารย์สั่งการบ้านในเฟส ประกาศในเฟส แล้วจะไม่ให้เด็กเล่นได้อย่างไร
โซเซี่ยลมีเดียก็เหมือนรถยนต์ มีทั้งประโยชน์ทั้งโทษ รถยนต์ออกมาใหม่ ๆ ก็ชนกันตาย ชนคนตาย เราก็พัฒนากฏหมายออกมาควบคุมให้เป็นระเบียบ ตัวคุณทิม คุก นี้คงเป็นคนสไตล์อนุรักษ์นิยมหน่อย ๆ เห็นปัญหาก็จะปัดปัญหาทิ้งแล้วก็ปิดล็อกมันไว้
ส่วนตัวผมเห็นด้วยนะ แต่ผมว่าภาษาคอมพิวเตอร์ที่เราต้องเรียนรู้ไม่น่าใช่ภาษาคอมพิวเตอร์แบบทุกวันนี้ แต่เป็นภาษาของ AI ที่ใกล้เคียงมนุษย์ เพียงแต่ Logic ของมันอาจมีลำดับขั้นตอนต่างจากมนุษย์ โดยเฉพาะการ Train ให้ AI เรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่สามารถรอให้มันเรียนรู้พฤติกรรมจากเราได้ ซึ่งอาจเป็นภาษาเชิง Logic ด้วยภาษาธรรมชาติ ที่ภาษาของ AI นั้นรองรับ เพื่อไม่ให้มันยืดเยื้อในการ Train ภาษาพูดหรือเขียนของมนุษย์มันยือเยื้อ คงต้องมีภาษาที่กระชับเพื่อให้ AI เรียนรู้จากเราแบบง่าย เพื่อสร้าง Flow งานของ AI นั้น
รอให้วันที่ OS มีแต่ input ที่สั่งงานด้วยเสียงอย่างสมบูรณ์ก่อน คงจะได้เห็นภาษาแปลกสำหรับสอน AI
** ซ้ำ