By: nismod 
on 13 February 2018 - 21:44
Tags:
นิตยสาร Consumer Reports ที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงในแง่รีวิวที่เป็นกลางได้เปิดเผยการทดสอบคุณภาพเสียงในแล็บ โดยเปิดเผยผลการทดสอบเบื้องต้นว่า Google Home Max และ Sonos One มีคุณภาพเสียงที่ดีกว่า HomePod สวนทางกับรีวิวหลายเจ้า (รวมถึงที่อ้างว่าเป็น Audiophile) ด้วยว่าเสียง HomePod ดีเหนือคู่แข่งตอนนี้
ทาง CR แจกแจงว่าเสียงเบสของ HomePod นั้นดังและถูกเน้นเกินไป (a bit boomy and overemphasized) ส่วนช่วงเสียงกลางก็แอบๆ มีหายไปบ้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่พบในลำโพงที่ได้คะแนนสูงๆ ขณะที่ช่วงเสียงสูงไม่ค่อยชัดมากนัก (underemphasized)
ภาพรวม CR ให้คะแนน HomePod อยู่ในระดับ Very Good เช่นเดียวกับ Sonos One และ Google Home Max ทว่าสองแบรนด์หลังคะแนนสูงกว่าเล็กน้อย โดยให้เหตุผลว่าเสียง HomePod หม่น (muddy) กว่า Sonos และ Google เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ลำโพงทั้งสามก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์น่าประทับใจ แต่ก็ยังถือว่าห่างชั้นกับลำโพงไร้สายที่คะแนนดีที่สุดอย่าง Edifier S1000DB ที่ราคา 350 ดอลลาร์ (เท่า HomePod)
ส่วนฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องเสียง CR รีวิวคล้ายๆ กับเจ้าอื่นๆ คือทำอะไรไม่ได้มากและต้องอยู่ใน ecosystem เดียวกันถึงจะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่ผลการรีวิวเต็มๆ จะมาในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
ที่มา - Customer Reports
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- NVIDIA จะไปหยุดที่ตรงไหน ทำไมครองโลกดาต้าเซ็นเตอร์ | Cloudnone EP.22
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
Comments
เรื่องของเสียง มันก็อยู่ที่ชอบหรือไม่ชอบล่ะนะ
เขาวัดด้วย spectrum ของเสียงที่ออกจากอุปกรณ์เทียบกับ spectrum ของเสียงต้นฉบับที่เปิดครับ มันมีวิธีวัดที่มาตราฐานอยู่และได้รับการยอมรับ จะมาบอกว่าแล้วแต่คนชอบไม่ได้ นั่นมันเรื่องของความชอบส่วนตัว เอามาวัดในเรื่องที่ต้องการมาตราฐานเสียงไม่ได้
เยี่ยม
HomePod มันเป็นตู้เปิดหรือเปล่า การจัดตำแหน่งอาจทำให้ผลการทดสอบเพี้ยนก็ได้
ไม่แปลกใจ ได้คนจูนจาก Beats ไปก็ออกมาแนวนั้น
เน้นติดหูแรกๆ แต่หลังๆนี่ค่อยว่ากัน
เสียงเทียบชั้นยี่ห้อ A ที่ราคาแพงกว่า 3 เท่าอีกแล้วครั๊บพี่น้อง น้ำเสียงนุ่มลึก เบสเก็บตัว กลางนี่ใสกิ้งเลย เสียงทุบกลองดีที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลนคับพี่น้อง ซื้อเลยคับซื้อ อ้าวคนนั้นไม่ซื้อ อย่ายืนเกะกะหน้าร้านนะครับ
เหมือนกระทู้ก่อนๆ ยังบอกกันว่า เรื่องเสียงไม่เน้น เน้นเป็นผู้ช่วย อยู่เบย
ผมว่าต้องแยกประเด็นนะ
ข่าวก่อนนี้ ประเด็นที่เอามาคุยกันคือความสามารถในการเป็น Home Assistant เพราะเนื้อข่าวมันเกี่ยวกับความสามารถในการตอบคำถามของลำโพงแต่ละเจ้าที่เอา HomePod ไปเทียบ ดังนั้นจะบอกว่าเสียงไม่เน้น เน้นเป็นผู้ช่วยมันก็ถูกแล้วนี่ครับ
ส่วนข่าวนี้ก็ชัดอยู่แล้วว่าประเด็นมันคือเรื่องคุณภาพเสียง เพราะลำโพงของแต่ละเจ้าที่เอามาเทียบก็เป็นรุ่นที่เจาะตลาดกลุ่มที่ต้องการคุณภาพเสียงเป็นหลัก ซึ่งมันก็ต้องตรงข้ามกับความเห็นในข่าวก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
เคยถามตัวเองเหมือนกัน
ว่าหูฟังเทพสำหรับตัวเองคืออะไรกันแน่?
อันดับแรก
แน่นอนว่าต้องสามารถแสดงเสียงได้ครบทุกย่านก่อน ถ้าข้อนี้ไม่ผ่านมันก็ขาดคุณสมบัติการเป็นลำโพงที่ดีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อันนี้ชัดเจนในตัวเอง ? (เอาแค่ข้อนี้ให้รอด ก็อาจจะราคาหลักหมื่นละนะ)
อันดับสอง
เท่าที่เคยฟังมาทั้งเครื่องเล่น ทั้งหูต่างๆ นาๆ ราคาแพงๆ ก็เคยยืมชาวบ้านมาบ้าง ก็พบว่าต้องแยก "เสียงที่ตรง" กับ "เสียงที่ชอบ" ออกจากกันก่อน... อันที่เราชอบก็คือหูฟังที่เราฟังสนุก เข้ากับสไตล์เพลงเรา มันก็อาจจะไม่ตรง ผ่านการปรุงแต่งในแบบที่เราชอบ
เช่น เน้นเบส (แบบในข่าว) หรือเสียงเด่นในบางย่าน
อันดับสาม
สรุปว่าเราควรซื้ออันที่เราฟังสนุกที่สุดหรือไม่? แต่ว่าโลกนี้มันก็มี Software Equalizer ให้ปรับอยู่ดี เพราะมันก็ทำมาแก้ปัญหาพวกนี้แหละ ใครชอบเบสก็ปรับ ใครชอบเสียงสูงก็แต่ง
เอาจริงๆเพลงแต่ละเพลง
ต่อให้ฟังไฟล์ Flac มันก็มีค่าเริ่มต้นไม่เท่ากัน ปรับ EQ เพลง1 อาจจะเพราะ แต่พอเพลง2 เบสอาจจะเกิน ? (หูฟังก็เช่นกัน) และเสียงที่อัดมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมือนไปนั่งฟังนักร้องตัวเป็นๆ ร้องให้ฟังอยู่ดี
ดังนั้นนิยามคำว่า "เสียงดี"
อาจจะต้องหมายถึง "เสียงไม่ตรงต้นฉบับ" แบบนี้หรือเปล่า? เช่น อัดเสียงจากลำโพงวนซ้ำไปเรื่อยๆ พบว่าเสียงที่ได้จากการอัดเสียงครั้งที่ 1,000 ยังใกล้เคียงต้นฉบับ แบบนี้เป็นต้น
ถ้าใช้วิธีการอัดเสียง จะรู้ได้ไงว่าลำโพงมันห่วยหรือไมค์มันแย่เอง
ก็ถูกครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ คือตัวรับพังอัดเสียงอะไรไม่ได้เลย อัดจากลำโพงอะไรก็ได้ผลลัพท์เหมือนกันและเหมือนเดิมไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม
หูฟังเทพสำหรับผมง่ายมากครับ ถ้าทนเสียงเปียโนไม่ได้ ก็จบครับ ไม่ผ่าน
เสียงเปียโนโซโล่นี่ล่ะครับ ตัวทำลายหูฟังชั้นดี (ฮา) คือเปียโนเป็นเครื่องที่อัดมาแล้วมี dynamic range สูงมาก (โดยเฉพาะถ้า solo นะ) การที่มันมีการแกว่งตัวของความดังเบามาก ๆ เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้หูฟังพังครับ และเท่าที่สังเกตดูหูฟังราคาต่ำจะทนเสียงเปียโนไม่ค่อยได้
ไอ้พวกเสียงเบสกระแทก ๆ นี่ ธรรมดาไปเลยครับ
อีกอันที่ทำให้หูฟังพังได้คือ การเล่นเพลงที่ไม่ได้ทำ mastering มา เหตุผลเดียวกันคือเรื่อง dynamic range ที่กว้างมาก (เพราะไม่ได้ผ่าน compressor มา) อันนี้ก็ต้องระวังเหมือนกัน
ปล. ทุกวันนี้ผมใช้ studio monitor ฟังเพลงเป็นหลักครับ (ที่ใช้อยู่ก็ AT M70x) เพราะหูฟังบ้าน ๆ นี่ผมทำพังไปประมาณปีละคู่ได้ ...
เพิ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย ผมชอบฟังเปียโนเหมือนกัน เคยใช้หูฟังราคาสามพันกว่าบาท ใช้ไปได้ปีเดียว driver แตกไปข้างนึง หมดประกันมานิดเดียวเซ็งเลย หลังจากนั้นแค้นมากประชดชีวิตซื้อตัวเกือบสองหมื่นมาแทนใช้มาแล้วห้าหกปียังใช้ดีอยู่เลย
Creative Aurvana Live อายุ 6 ปีผมยังรอดแฮะ
ชอบฟังเปียโนโซโล่เหมือนกันเลย แสดงว่า2พันบาทผมนี่โคตรคุ้มอ่ะ 555
อาจจะต้องหมายถึง "เสียงตรงต้นฉบับ"
ผมเขียนผิดนะครับ
If you have no any ida about the clip boeard then now you can my clipboard history try this site for the work and its so easy for the all user.