By: lew 
on 18 February 2018 - 02:11
Tags:
Topics:
ธนาคารกลางรัสเซียเปิดเผยว่ามีธนาคารในรัสเซียถูกแฮกระบบเชื่อมต่อกับเครือข่าย SWIFT แล้วสั่งโอนเงินออกไปยังบัญชีปลายทาง มูลค่ารวม 339.5 ล้านรูเบิล หรือประมาณ 190 ล้านบาท ตั้งแต่ปีที่แล้ว
รายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มแฮกเงินจากธนาคารได้ เริ่มปรากฎสู่สาธารณะอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายน 2016 เป็นต้นมา ทาง SWIFT เองแม้จะยืนยันว่าตัวระบบ SWIFT ไม่เคยถูกแฮก แต่ก็พยายามกดดันให้ธนาคารที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายต้องปรับปรุงความปลอดภัย
ธนาคารกลางรัสเซียไม่ระบุชื่อธนาคาร ส่วนทาง SWIFT เองก็ระบุว่าจะไม่แสดงความเห็นต่อกรณีใดกรณีหนึ่งเป็นการเฉพาะ
ที่มา - Reuters
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ
Blognone Jobs Premium
Cloudnone
- ถึงคลาวด์เคราะห์: ทำอย่างไรเมื่อบริการคลาวด์ที่ใช้ถูกยกเลิก | Cloudnone EP. 21
- รู้จักอาชีพ Site Reliability Engineer สำคัญยังไง? | Cloudnone EP. 20
- อธิบาย CrowdStrike ทางเทคนิค ทำไมถึงทำพีซีจอฟ้าเป็นล้านๆ เครื่อง | Cloudnone EP.19
- Kubernetes [Part 2] ยี่ห้อไหนดี งานไหนต้องใช้ แล้วเลือกยังไง? | Cloudnone EP.18
- สงคราม AI 2024: OpenAI ชิงปาดหน้า Google วันเดียว | Cloudnone EP.17
Comments
ติ่ง blockchain มีอวยแน่นอน นี่ไง blockchain ดีกว่าธนาคารเยอะ ไม่สามารถปลอมแปลงขึ้นมาได้
กรณีของ swift นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับ cryptocurrency หรอก
swift ไม่ผิด ผิดที่ธนาคารไม่ปลอดภัยพอ
blockchain ไม่ผิด ผิดที่ wallet ไม่ปลอดภัยพอ
กรณีเดียวกันกับโทษ antivirus ไม่ดีแต่ยังใช้ software ผีอยู่
และยังอีกหลายกรณีในโลกนี้ที่ประมาณนี้ บลาๆๆ
สงสาร swift ที่ต้องมาโดนกังขาเรื่องความปลอดภัยทั้งๆที่มันเป็นเพราะ user(ธนาคาร) error
ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ให้บริการแบบไหนจะชดใช้ให้เจ้าของเงินที่ถูกต้องได้แน่นอนกว่ากันล่ะครับ
555555+
ลองอ่านเยอะๆ จะสามารถช่วยในการพูดคุยแบบมีเหตุมีผลได้ครับ
ลองใส่ขีดหรือ Bullet ข้างหน้าแต่ละประเด็นที่อยากสื่อไหมครับ หรือเว้นบรรทัดก็ยังดี จะได้แบ่งเป็นเรื่องๆ ไป
ว่าแต่ใครโทษ Antivirus?
Antivirus คงหมายถึงเรื่องอื่นครับ
ส่วนตัวแล้วเคยเจอคนที่ ใช้เครื่องโดยไม่ระวังอะไรเลยทั้งเวบทั้งลงโปรแกรมแท้บ้างเถื่อนบ้างฟรีบ้างรวมถึงปลั็กอินอย่างสนุกสนาน เครื่องมันก็จะเอ๋อๆหน่อย ก็คุยกับผมว่านี่ขนาดลง antivirus ไปแล้วนะ สงสัยเจ้านี้ไม่ดี มีอะไรเจ้าใหม่แนะนำมั๊ย
บางทีเครื่องเอ๋อๆ ก็ไม่ได้เกิดจาก virus และ antivirus ก็ไม่ได้ป้องกันเครื่องรวน
นับจริงๆ ก็คงไม่ผิดนักครับ กระบวนการกำกับดูแล (กันเอง, โดยรัฐ) ของระบบธนาคารไม่ได้สมบูรณ์อย่างที่เชื่อกัน สองสามปีโดนไปหลายรอบนับรวมๆ แล้วจำนวนครั้งอาจจะมากกว่า exchange crypto ถูกแฮก
แต่ถ้านับโดย "มูลค่า" ผมว่าก็ยังฟ้ากับเหวอยู่ดีครับ ธนาคารพวกนี้รับผิดชอบเงินเยอะกว่ามาก ข้อบังคับต่างๆ แม้ไม่ได้หยุดการแฮกโดยสมบูรณ์ แต่ส่วนมากก็หยุดการแฮกไว้ได้ในเวลาค่อนข้างเร็ว (ไม่กี่วัน) เทียบกับ exchange ที่โดยนแฮก อย่าง MtGox ถูกผองถ่ายเงินออกไปเป็นเดือนๆ
ข้อบังคับพวกต้องมีระบบ monitor ต้องส่งยอดบัญชีให้หน่วยงานกำกับดูแล ฯลฯ พวกนี้มันทำให้เหตุการณ์แบบนี้ไม่รุนแรงเกินไป ตัวธนาคารเองมีขนาดใหญ่พอที่จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นได้
โดยรวมๆ เมื่อมองจากฝั่งลูกค้า (ฝากเงิน) ก็ยังปลอดภัยกว่ามากอยู่ดี
lewcpe.com, @wasonliw
แฮกเงินจากธนาคาร หรือ ขโมยเงินธนาคาร ไม่กระทบผู้ฝากเงินนะครับ
เช่น กำเงินไว้ที่เค้าเตอร์ธนาคาร แล้วโดนปล้น (ธ.ไม่ต้องรับผิดชอบ)
แต่ถ้า ยื่นเงินเข้าไปในเค้าเตอร์ พนักงาน key จำนวนเงินแล้ว โดนปล้น (ธ.รับผิดชอบ)
แล้วก็ ระบบ SWIFT มันแค่ ระบบเดิน transaction ระหว่างธนาคาร
เช่น สั่งโอนเงิน เข้า bank กกรุงเทพ จากต่างประเทศ ก็แปะ BIC Code ลงไป BKKBTHBK จบ
Crypto Currency ไม่มีเจ้าภาพ หรือ เป็นแค่ บ.เอกชน เจ๊ง-โดนขโมย ตัวใครตัวมัน
ธนาคารล้มก็กระทบอยู่ดีครับ อย่างเมืองไทยมีระบบประกันเงินฝากก็คุ้มครองได้ (บ้าง) แต่สุดท้ายเงินมันหายไป ถ้าเยอะพอก็เอาเงินมาคืนลูกค้าไม่ได้ ก็กระทบแน่ๆ
lewcpe.com, @wasonliw