หากจะพูดถึงลำโพงที่มีดีไซน์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมด้วยความฮิตที่ติดระดับโลก หนึ่งในแบรนด์ที่คนจะต้องนึกถึงนั้นต้องมีชื่อ Marshall อยู่ในนั้นอย่างแน่นอน ด้วยดีไซน์ที่มองเห็นแค่หางตายังบอกได้ว่านี่คือลำโพงของแบรนด์นี้ ก็ไม่แปลกเลยที่ใครหลายคนนั้นก็ต่างที่อยากจะได้มาใช้งานสักตัว ฟังเพลงก็เสียงกระหึ่ม จัดวางอยู่ในบ้านเฉย ๆ ก็ลงตัว รวมไปถึงบางรุ่นนั้นก็สามารถพกพาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าเป็นลำโพงที่ครบครันมาก ๆ ใครที่อยากได้สักตัวแต่ยังไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี 8 ลําโพง Marshall รุ่นไหนดี 2024 จะขอเป็นหนึ่งในบทความที่จะช่วยให้ตัดสินใจในการเลือกใช้เอง ไปดูกันเลย
กำลังขับรวม | ตอบสนองความถี่ | ระดับเสียงสูงสุด | การเชื่อมต่อแบบไร้สาย | การเชื่อมต่อแบบสาย | |
---|---|---|---|---|---|
ACTON III | 60W | 45–20,000 Hz | 95 DB @ 1 M | Bluetooth 5.2 | AUX 3.5 mm |
STANMORE III | 80W | 45 - 20,000 Hz | 97 DB @ 1 M | Bluetooth 5.2 | AUX 3.5 mm, RCA |
WOBURN III | 150W | 35 - 20,000 Hz | 100.5 DB @ 1 M | Bluetooth 5.2 | AUX 3.5 mm, RCA, HDMI |
MIDDLETON | 60W | 50 - 20,000 Hz | 87 DB SPL @ 1 M | Bluetooth 5.1 | AUX 3.5 mm |
EMBERTON II | 10W | 60 - 20,000 HZ | 87 DB SPL @ 1 M | Bluetooth 5.1 | |
WILLEN | 10W | 100 - 20,000 HZ | 82 DB SPL @ 1 M | Bluetooth 5.1 | |
KILBURN II | 28W | 52 - 20000 Hz | 100.4 DB @ 1 M | Bluetooth 5.0 | AUX/3.5 mm. |
TUFTON | 80W | 40 - 20,000 HZ | 102 DB @ 1 M | Bluetooth 5.0 | AUX/3.5 mm. |
ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท
มาเริ่มกันที่ ACTON III ลำโพงพกพาที่ขนาดกำลังดี จัดวางตรงไหนก็ลงตัวอย่างสวยงาม ตัวลำโพงนั้นผลิตมาจากวัสดุ Vegan และวัสดุ Recycled 70% จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างสูงที่สุด มอบเสียงที่กระหึ่ม ชัดเจน จะฟังเพลงแนวไหนก็จัดเต็มกันได้เลย ตอบโจทย์การฟังเพลงอยู่ที่บ้านในวันหยุดมาก ๆ แถมยังเลือกได้ถึง 3 สี เพื่อการตกแต่งห้องตามสไตล์ที่ชอบอีกด้วย
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 18,990 บาท
STANMORE III นั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ที่แสนจะคลาสสิก บวกกับแนวเสียงที่สามารถฟังเพลงทุกแบบได้อย่างสนุก จัดปาร์ตี้ในบ้านได้อย่างสบาย เพราะตัวลำโพงเครื่องนี้มาพร้อมกับพลังการขับถึง 80W และยังมีช่องอินพุต RCA สำหรับต่อจากเครื่องเล่นระบบ Analog เพื่อการเล่นเพลงได้จากหลายที่ ฟังเพลงโปรดวนไปได้อย่างไม่รู้เบื่อ
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 28,990 บาท
สำหรับลำโพง Marshall รุ่น WOBURN III ก็เรียกได้ว่าเปรียบเสมอพี่ใหญ่ของแบรนด์เลยก็ว่าได้ เพราะมาพร้อมกับขนาดใหญ่แบบเบิ้ม ๆ และแน่นอนว่าขนาดใหญ่จึงมีเสียงที่ดังสุด ๆ และความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือช่อง HDMI ที่จะทำให้สามารถนำตัวลำโพงนี้ไปเชื่อมต่อเข้ากับทีวีได้ อีกทั้งการใช้งานระบบไดรเวอร์ 3 ทางจะทำให้ตัวเสียงนั้นออกมามีคุณภาพระดับสเตอริโอคุณภาพสูง
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท
ใครที่กำลังมองหา ลําโพง Marshall รุ่นไหนดี ที่สามารถพกพาได้ ก็ต้องยกให้กับ MIDDLETON ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวลำโพงไร้สายที่ฮอตฮิตปรอทแตกมาก ๆ กับความสามารถในการใช้งานได้นานถึง 20 ชั่วโมงขึ้นไป มาพร้อมกับการกันน้ำที่ IP67 จึงสามารถพาออกตะลอนทัวร์ได้ตั้งแต่เช้ายังค่ำ ไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงเลยแม้แต่น้อยเพราะลำโพงตัวนี้ให้เสียงแบบ Stereo กระหึ่ม สะใจ ย่านเสียงครบแน่นอน
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 7,490 บาท
EMBERTON II เป็นอีกหนึ่งลำโพงพกพาที่มีขนาดเล็ก จะมือผู้ชายหรือผู้หญิงก็ถือได้สบายด้วยข้างเดียว มาพร้อมกับปุ่มควบคุมเพียงแค่ 2 ปุ่มคือ ปุ่ม Bluetooth และปุ่มมัลติฟังก์ชันสีทองใช้สำหรับควบคุมการเล่นเพลงทุกอย่างในปุ่มเดียว พร้อมกับแถบไฟแสดงปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ยิ่งจับคู่พร้อมกันสองตัวยิ่งมอบประสิทธิภาพในการรับฟังให้ออกมาได้อย่างทวีคูณ
ข้อดี
ข้อควรรู้
ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย AUX 3.5 mm.
ราคาเริ่มต้น 3,990 บาท
คงเรียกได้ว่า WILLEN เป็นรุ่นที่เล็กที่สุดของลําโพง Marshall จึงทำให้สะดวกมาก ๆ ในการพกพา โดยที่ด้านหลังของลำโพงนั้นก็มีสายรัดทำให้จับหรือติดตามที่ต่าง ๆ ได้สะดวกไม่ต้องกลัวหล่น ใช้งานข้างนอกได้นานถึง 15+ ชั่วโมง กันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP67 ทำให้พกพาไปได้ทุกที่ สามารถใช้คุยโทรศัพท์ได้เนื่องจากมีไมโครโฟนในตัว
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท
ลําโพง Marshall รุ่นไหนดี ที่จะให้ความคลาสสิกกับการถือได้แบบสุด ๆ ใครที่กำลังตั้งคำถามแบบนี้ไว้ในใจก็ต้องใช้งานรุ่น KILBURN II ที่นอกจากจะมีดีไซน์ที่สุดจะคลาสสิกแล้วยังมีหูหิ้วมาให้ถือเพื่อการพกพาอีก มอบระบบเสียง Codec aptX ที่จะขับเสียงมาได้อย่างสมจริง ดังกังวาล รวมถึงแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้เต็มอย่างรวดเร็ว แต่สามารถใช้งานได้นานถึง 20+ ชั่วโมง
ข้อดี
ข้อควรรู้
ราคาเริ่มต้น 20,990 บาท
รุ่น TUFTON นั้นเรียกว่ายกมาให้แบบเป็นตู้กับทรงลำโพงแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง พร้อมด้วยหูหิ้วที่เข้ากับสไตล์อย่างลงตัว แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 20+ ชั่วโมงทำให้อยากหิ้วไปเปิดฟังไปก็ทำได้ทั้งวัน มอบเสียงแบบ Multi-Directional Sound 3 ทิศทาง จึงสามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน อยู่มุมไหนก็สนุกได้ด้วยจังหวะที่รังสรรค์มาเพื่องานปาร์ตี้โดยเฉพาะ
ข้อดี
ข้อควรรู้
และนี่ก็คือ 8 ลําโพง Marshall รุ่นไหนดี 2024 ที่จะมอบทั้งดีไซน์ที่สุดแสนจะคลาสสิก และมอบเสียงอันโดดเด่น สามารถตกแต่งเสียงได้แบบเต็มที่ เพราะว่าลำโพงทุกตัวที่อยู่ในบทความนี้สามารถตั้งค่าและปรับเชิงลึกได้ที่แอป Marshall Bluetooth ทำให้ได้เสียงที่ตอบสนองความการในการหูเคลือบทองของทุกคนอย่างแน่นอน
ที่มาภาพและข้อมูล marshall.com