Olympus ประกาศว่าซีอีโอ Stefan Kaufmann จะลงจากตำแหน่งโดยมีผลทันทีวันนี้ 28 ตุลาคม 2024 และบอร์ดบริษัทได้แต่งตั้ง Yasuo Takeuchi กรรมการและตัวแทนเจ้าหน้าที่บริหาร มารับผิดชอบงานของซีอีโอแทนในระหว่างการสรรหาซีอีโอคนใหม่

ส่วนสาเหตุนั้นบอร์ดบริษัทบอกว่าได้รับข้อกล่าวหาว่า ซีอีโอ Kaufmann ซื้อยาเสพติดผิดกฎหมาย จึงได้เริ่มปรึกษากับฝ่ายกฎหมายภายนอกเพื่อทำการสอบสวน ซึ่งจากรายละเอียดที่ได้รับทำให้บอร์ดบริษัทมีมติว่าซีอีโอ Kaufmann มีพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับจรรยาบรรณธุรกิจและค่านิยม จึงแจ้งให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่ง Kaufmann ก็ตกลงทำตามมติบอร์ด

ที่มา: Olympus

OM Digital Solutions (OMDS) เปิดตัวกล้องดิจิทัล OM System OM-1 กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้เซนเซอร์ Micro Four Thirds เรือธง เป็นครั้งแรกแรกภายใต้แบรนด์ตัวเองตั้งแต่ขายธุรกิจกล้องดิจิทัลของ Olympus ให้ JIP

Olympus OM-1 เลือกใช้ชื่อเดียวกับกล้องฟิล์มรุ่นดั้งเดิมของ Olympus ที่เปิดตัวเมื่อ 50 ปีที่แล้ว (แม้จะเป็น OM System แต่ยังคงใช้แบรนด์ Olympus ต่อไปได้) สเปคของตัวกล้องใช้เซนเซอร์ CMOS ขนาด Micro Four Thirds 20.4 ล้านพิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผล TruePic X Dual Quad Core Processor โดยตัวเซนเซอร์จะมีโฟโต้ไดโอต 4 ตัวต่อพิกเซล ทำให้แต่ละพิกเซลสามารถประสานกันทำงานเป็น X-type phase detection autofocus ได้

Olympus เปิดตัวแอปใหม่ชื่อว่า OM-D Webcam สำหรับพีซีเพื่อให้ใช้กล้องโอลิมปัสเป็นเว็บแคมสำหรับไลฟ์สตรีมหรือวิดีโอแชทได้ โดยเสียบสาย USB-C กับพีซี เพื่อให้เหมาะกับยุคปัจจุบันที่คนทำงานที่บ้านมากขึ้น

ตอนนี้ OM-D Webcam ซัพพอร์ตกล้องจำนวนหนึ่งเท่านั้น คือ OM-D E-M1X, OM-D E-M1, OM-D E-M1 Mark II, OM-D E-M1 Mark III และ OM-D E-M5 Mark II และตัว OM-D Webcam จะรับเฉพาะสัญญาณภาพจากตัวกล้องเท่านั้น ส่วนเสียงจะต้องหาไมโครโฟนที่อื่น (หรือไมโครโฟนติดตัวคอมพิวเตอร์) ใช้งานเอง

Olympus ยังคงปล่อย OM-D Webcam ออกมาเฉพาะ Windows เท่านั้น และยังอยู่ในช่วงการทดสอบเบต้า โดยยังไม่มีรายละเอียดว่าจะปล่อยเวอร์ชัน Mac หรือไม่

Olympus ประกาศบรรลุข้อตกลงกับกองทุน Japan Industrial Partners (JIP) เพื่อขายส่วนธุรกิจกล้องถ่ายภาพ ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยคาดว่าดีลทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในปี 2020 นี้

สาเหตุของการขายธุรกิจนี้ออกไปนั้น Olympus บอกว่า ส่วนธุรกิจกล้องถ่ายภาพมีผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 ปี ปัจจัยสำคัญคือการเข้ามาทดแทนตลาดของสมาร์ทโฟน แม้บริษัทจะปรับโครงสร้างองค์กรหลายครั้งก็ยังไม่ดีขึ้น จึงทำข้อตกลงขายธุรกิจนี้ให้ JIP ซึ่งมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจให้ดีมากขึ้น ทั้งนี้ Olympus ปัจจุบันมีธุรกิจที่ทำเงินหลักคืออุปกรณ์ทางการแพทย์

ข้อตกลงร่วมกับ JIP นั้น จะสามารถพัฒนาสินค้าของ Olympus เดิม ภายใต้แบรนด์ต่อไปได้ รวมทั้งแบรนด์ลูกอย่าง OM-D และ Zuiko ด้วย

Olympus เปิดตัวกล้อง OM-D E-M1 Mark III พร้อมปรับปรุงระบบกันสั่นใหม่, ชาร์จไฟผ่าน USB-C และระบบถ่ายภาพความละเอียดสูง

ตัวกล้อง E-M1 Mark III ใช้เซนเซอร์ Four Thirds Live MOS 20 ล้านพิกเซล พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ TruePic IX อัดวิดีโอได้สูงสุด DCI 4K ที่ 24 เฟรมต่อวินาที มีกันสั่นในตัวกล้อง 5 แกน สามารถลดการสั่นได้สูงสุด 7 สต็อป และหากใช้ร่วมกับเลนส์ที่กำหนดจะลดการสั่นได้สูงสุด 7.5 สต็อป

ตัวกล้องมีจุดโฟกัส On-chip Phase Detection AF 121 จุด เป็น cross-type ทั้งหมด ครอบคลุม 75% ในแนวตั้ง และ 80% ในแนวนอน พร้อมอัลกอริทึมใหม่ช่วยให้ระบบโฟกัสทำงานแม่นยำแม้วัตถุจะเคลื่อนที่เร็ว ทำงานได้แม้ว่าจะเปิดรูรับแสงสูงสุดที่ F1.2

Olympus เปิดตัวกล้อง PEN E-PL10 ใหม่ โดยตัวกล้องทั้งหมดยังค่อนข้างคล้ายกับรุ่น E-PL9 เน้นปรับในส่วนของจอและลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ ซึ่งจะยังคงเน้นการพกพาและสะดวกต่อการใช้งาน

Olympus PEN E-PL10 ใช้เซนเซอร์ Micro Four Thirds Live MOS 16.1 ล้านพิกเซล และหน่วยประมวลผลภาพ TruePic VIII ถ่ายวิดีโอได้ที่ 4K 30fps ถ่ายภาพรัวได้ 8.6 ภาพต่อวินาที มีระบบกันสั่นในตัวสามแกน กันสั่นได้สูงสุด 3.5 สต็อป

ส่วนลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ Art Filter ในส่วนนี้ Olympus ใส่ฟีเจอร์ Fine Tune มาให้สะดวกสำหรับการปรับเอฟเฟคตามความต้องการ

Olympus เปิดตัวกล้อง OM-D E-M5 Mark III โดยจุดเด่นคือขนาดที่เล็กกว่ารุ่น Mark II อีกเล็กน้อย และมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ยกมาจากกล้องรุ่นโปรของ Olympus

สำหรับสเปคของตัวกล้อง Olympus ใช้เซนเซอร์ Live MOS ขนาด Four Thirds ที่ 20 ล้านพิกเซล พร้อมกันสั่นในตัวกล้อง 5 แกน กันสั่นได้สูงสุดถึง 5.5 สต็อป (หากใช้ร่วมกับ Sync IS จะกันสั่นได้ 6.5 สต็อป) ถ่ายภาพรัวได้ 30 ภาพต่อวินาที มีจุดโฟกัส 121 จุดเป็น cross-type phase detection on-chip AF ทั้งหมด มีโหมด Anti-flicker สำหรับถ่ายภาพภายใต้แสงไฟประดิษฐ์ที่มักจะเกิดการติดดับให้ใช้งานทั้งโหมดชัตเตอร์กลไกและชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์

สามสัปดาห์หลังปล่อยทีเซอร์ Olympus ก็ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ตามที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการแล้วในชื่อรุ่นว่า OM-D E-M1X จับตลาดช่างภาพกีฬาที่เน้นการใช้งานด้านความเร็วเป็นหลัก วางตำแหน่งทางการตลาดเป็นกล้องระดับโปรใกล้เคียงกับ OM-D E-M1 Mark II

ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นของข่าวการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ของบริษัทผู้ผลิตกล้องชั้นนำของโลกต่าง ๆ ที่มุ่งไปสู่ยุค Mirrorless Full-Frame แต่ Olympus ยังคงยืนหยัดอยู่กับ Mirrorless Micro 4/3 ต่อไป ด้วยการเตรียมเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ในวันที่ 24 มกราคม 2562

มีข่าวลือก่อนหน้าถึงชื่อรุ่นของกล้องว่าจะใช้ชื่อว่า Olympus OM-D E-M1X ซึ่งเป็นกล้องที่มีความละเอียดภาพขนาด 20 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่อง 18 ภาพต่อวินาที กันสั่นได้ถึง 7.5 EV และสามารถใช้โหมดเพิ่มความละเอียดภาพเป็นภาพขนาดประมาณ 80 ล้านพิกเซลในขณะถือถ่ายด้วยมือที่ความเร็วชัตเตอร์ระดับ 1/20 เท่านั้น

Olympus เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ PEN E-PL9 โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นเก่าหลายจุดทั้งด้านคุณภาพของภาพถ่ายและดีไซน์

ในด้านการถ่ายภาพ Olympus ใช้เซนเซอร์ Live MOS 16 ล้านเซนเซอร์ พร้อมหน่วยประมวลผลภาพ TruePic III, ISO 200-6400 (ขยายได้ 100-25600), ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K 30fps, ระบบกันสั่นเป็นแบบสามแกน, มีจุดโฟกัส contrast-detect AF จำนวน 121 จุด พร้อมระบบตรวจจับตาและหน้า, ฟิลเตอร์ใหม่ Instant Film, ระบบถ่ายภาพใหม่ Sweep Panorama

ส่วนการดีไซน์นั้น Olympus ได้ปรับปรุงให้มีกริปขนาดจับถนัดมือมากขึ้น, วงแหวนปรับโหมดขนาดใหญ่ขึ้น และมี built-in flash แล้ว ไม่จำเป็นต้องต่อแฟลชแยกขนาดเล็กเพื่อใช้งานทั่วไปอีก

Olympus เปิดตัว EyeTrek Insight EI-10 โมดูล smart glass โอเพ่นซอร์ส โดยเน้นจับกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร

EyeTrek เป็นอุปกรณ์สำหรับติดกับแว่นที่มีจอขนาดเล็กอยู่ที่ตาข้างหนึ่ง มีหน้าจอ OLED 640 x 400 พิกเซล ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่ Olympus เรียกว่า Pupil-Division Optical System ที่แตกต่างจากเทคโนโลยี beam splitting ที่นิยมใช้ โดยเทคโนโลยีใหม่นี้จะให้ภาพที่คมและชัดกว่าเดิม แม้จะมีขนาดเล็กและเบาก็ตาม ส่วนกล้องที่ติดกับตัวอุปกรณ์นั้นสามารถถ่ายภาพและวิดีโอ โดยมีพิกเซลทั้งหมด 1992 x 1216 พิกเซล

Olympus เปิดตัวกล้อง OM-D E-M10 III ซึ่งเป็นกล้องซีรีส์ OM-D ระดับผู้เริ่มต้นรุ่นใหม่ต่อจากรุ่นเดิม E-M10 II

สำหรับสเปคของตัวกล้อง ใช้เซนเซอร์ Micro Four Thirds ที่ 16 ล้านพิกเซลเท่ารุ่นเดิม มีหน่วยประมวลผลภาพ TruePic VIII มีจุดโฟกัสอัตโนมัติที่ 121 จุด และถ่ายภาพรัวได้ 8.6 ภาพต่อวินาที

ในด้านการถ่ายวิดีโอนั้น สามารถถ่าย 4K ได้ที่ 24, 25 และ 30 เฟรมต่อวินาที มีกันสั่น 5 แกน ที่สามารถใช้งานร่วมกับกันสั่นดิจิทัลสำหรับวิดีโอได้แม้จะอัดวิดีโอที่ความละเอียด 4K

Olympus Thailand เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลส 2 รุ่น คือ Olympus OM-D EM-1 Mark II สำหรับมือโปร และ Olympus Pen E-PL8 ตีตลาดผู้หญิง นอกจากนี้ยังเปิดตัวเลนส์ 3 รุ่น ถ่ายมาโคร ถ่าย portrait และเลนส์ไวแสง พร้อมๆ กัน ด้วย

Olympus ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ OM-D E-M1 Mark II โดยเป็นกล้องเรือธงในซีรีย์ OM-D ซึ่ง Olympus เผยว่ากล้องตัวนี้ใช้เวลาในการพัฒนาถึง 4 ปี มีการปรับปรุงประสิทธิภาพของภาพถ่าย ทั้ง dynamic range และสัญญาณรบกวนในภาพ

สำหรับสเปคในตัวกล้อง คือจะใช้เซนเซอร์ Live MOS 20.4 ล้านพิกเซล, ISO 200-64,000 ขยายได้ต่ำสุดถึง 64, ถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K ที่ 24 ภาพต่อวินาที, ใช้หน่วยประมวลผลภาพ TruePic VIII เร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 3.5 เท่า, ใช้ชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์จึงทำให้ถ่ายภาพรัวได้สูงสุด 60 ภาพต่อวินาทีในโหมดล็อก AF/AE และ 18 ภาพต่อวินาทีในโหมดติดตาม AF/AE

Olympus เปิดตัวกล้อง action camera TG-Tracker เป็นรุ่นล่าสุดในตระกูลกล้องสมบุกสมบัน (tough) ตอบรับกระแสกล้อง action camera ขนาดเล็กที่กำลังมาแรง (เห็นได้จากความนิยมในกล้อง GoPro)

นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K และที่แตกต่างกว่ากล้องรุ่นอื่นๆ คือ Field Sensor System เซ็นเซอร์วัดค่า 5 อย่างในตัว ได้แก่ GPS, บารอมิเตอร์, วัดอุณหภูมิ, เข็มทิศ, วัดความเร่ง และมาพร้อมระบบซอฟต์แวร์ Log Data สามารถมองเห็นภาพจริงและข้อมูลแวดล้อมของภาพนั้นได้พร้อมๆ กันบนหน้าจอมือถือ

เงียบหายจากการอัพเดตกล้องซีรีส์ย้อนยุค PEN มาเกือบสองปี วันนี้ Olympus ประกาศเปิดตัว PEN-F กล้อง m4/3 รุ่นใหม่ในชื่อเดียวกับกล้อง Half-frame รุ่นตำนานที่วางขายครั้งแรกในช่วงปี 1960

สเปคของ PEN-F มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ 4/3 ความละเอียด 20 เมกะพิกเซล, จุดโฟกัสอัตโนมัติ 81 จุด, ถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที, ระบบกันสั่น 5 แกนเหมือน E-M5 II, หน้าจอด้านหลังขนาด 3" และเพิ่มช่องมองภาพในตัวเป็นครั้งแรกของซีรีส์ PEN ที่ความละเอียด 2.36 เมกะพิกเซล

ให้หลังการเปิดตัว OM-D E-M10 กล้อง mirrorless ทรงย้อนยุคราคาย่อมเยาเมื่อต้นปี 2014 วันนี้ Olympus ก็จัดการเปิดตัว OM-D E-M10 II รุ่นอัพเดตที่ปรับทั้งงานออกแบบ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาจากรุ่นเดิมเยอะเอาเรื่อง

การปรับปรุงด้านงานออกแบบ OM-D E-M10 II ถูกปรับให้ใช้งานระดับโปรมากขึ้น แต่ยังคงขนาดกะทัดรัดไว้ดังเดิม ด้วยการขยับปุ่มปรับโหมดการถ่ายภาพ ไปไว้ด้านขวารวมกับแกนปรับรูรับแสง/ความเร็วชัตเตอร์ และแทนที่ว่างในฝั่งซ้ายด้วยที่เปิดปิดแบบย้อนยุค ร่วมกับปุ่มฟังก์ชันอีกปุ่มที่เพิ่มเข้ามา โดยเจ้าสวิตช์เปิดเครื่องนี้สามารถใช้เปิดแฟลชขึ้นมาได้ด้วยการโยกขึ้นไปให้สุด ส่วนของสเปคด้านถ่ายภาพที่ปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดคือการใส่ระบบกันสั่น 5 แกนเข้าไป สเปคอื่นๆ มีดังนี้

หลังจากปล่อยให้ Sony ทำเลนส์กล้องสำหรับควบคุมด้วยสมาร์ทโฟนแต่เพียงผู้เดียวมาเกือบสองปี คู่แข่งร่วมประเทศอย่าง Olympus ก็เปิดตัวโซลูชันคล้ายกันของตัวเองมาพร้อมกับการเปิดตัวกล้อง และเลนส์ชุดใหม่แล้ว

วิธีของ Olympus เหมือนกับที่ Sony เพิ่งเปิดตัวไป โดยทำมาเป็นอแดปเตอร์ให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้เอง โดยตัวอแดปเตอร์จะเรียกว่า Olympus Air 01 ใช้เซนเซอร์ CMOS ความละเอียด 16 เมกะพิกเซล รองรับเลนส์ m4/3 ทุกแบบ ถ่ายได้สูงสุด 320 ภาพ ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และในอนาคตจะเปิดให้นักพัฒนาภายนอกทำแอพสำหรับใช้งานร่วมกับ Air อีกด้วย

นอกจากจะเปิดตัวกล้อง OM-D E-M5 II รุ่นใหม่ Olympus ยังเปิดตัวเลนส์รุ่นใหม่อีกด้วย ซึ่งเป็นเลนส์ซูม 14-150mm f4.0-5.6 รุ่นที่สอง มันได้รับการออกแบบใหม่หมด มีการเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นและมีโค้ทเลนส์ในแบบของ Olympus เองชื่อ ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) โดยจะช่วยกันรอยและลดแฟลร์ได้

ราคาอยู่ที่ 599 ดอลลาร์สหรัฐ เริ่มวางขายเดือนมีนาคมแต่ตอนนี้สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว

ที่มา - DPReview

หลังจากลือแล้วลืออีกสำหรับผู้สืบทอดกล้อง mirrorless รุ่นยอดนิยมของค่าย Olympus มาวันนี้มันถูกเปิดตัวแล้วในชื่อ OM-D E-M5 II โดยที่ยังมีคุณสมบัติตามรุ่นพี่ทุกประการ เช่นกันน้ำกันฝุ่นและระบบกันสั่นห้าแกน โดยระบบกันสั่นดังกล่าวและเซ็นเซอร์รับภาพขนาด 16 ล้านพิกเซลยังถูกปรับปรุงใหม่อีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 40 ล้านพิกเซล ซึ่งใช้วิธี "เลื่อน" เซ็นเซอร์รับภาพเป็นระยะครึ่งพิกเซลไปตามแกนกันสั่น พร้อมทั้งถ่ายภาพแปดภาพในหนึ่งวินาทีแล้วรวมเป็นภาพเดียว

หลังจากที่มีข่าวลือหนาหูถึงทายาทรุ่นต่อไปของ OMD EM-5 ที่จะมาในเร็ววันนี้ ล่าสุดเว็บ 43rumors ได้อ้างว่ามีข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ให้ข้อมูลว่าตัวที่จะออกมาแทน EM-5 นั้นจะใช้ชื่อว่า EM-5II

รูปลักษณ์ของตัวบอดี้กล้องภายนอกจะต่างจากรุ่นแรก อีกทั้งยังเพิ่มระบบ sensor shift เป็นรุ่นแรกของกล้องโอลิมปัส ซึ่งอ้างว่าเมื่อใช้โหมดนี้ในระดับที่ 8 เฟรมภาพต่อหนึ่งไฟล์จะให้ความละเอียดของภาพที่ 40 ล้านพิกเซล เพิ่มขึ้นจากความละเอียดโหมดปกติที่ 16 ล้านพิกเซล

Olympus ได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ OM-D E-M10 ที่มีฟีเจอร์จาก E-M1 และ E-M5 มารวมกันไว้ในราคาย่อมเยา โดย Olympus ให้คำนิยามกับกล้องรุ่นนี้ไว้ว่า "the OM-D for all"

สำหรับรายละเอียดของ E-M10 มีดังนี้

ดูเหมือนว่าแนวทางการออกแบบกล้องย้อนยุคของ Olympus จะทำผลงานได้ดีไม่ใช่น้อย เพราะการออกแบบดังนี้ได้ลามมาถึงกล้องคอมแพคในค่ายเดียวกันที่เพิ่งเปิดตัวมาใหม่อย่าง Stylus 1 กล้องคอนแพคไฮเอนด์ที่มาในทรงใกล้เคียงกับ OM-D

Stylus 1 นอกจากจะใช้การออกแบบใกล้เคียงกับ OM-D แล้ว วัสดุที่ใช้ก็หรูหราด้วยแมกนีเซียมอัลลอยทั้งตัว ใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.7" ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล แต่จุดเด่นของกล้องรุ่นนี้คือเลนส์ช่วงซูมยาว 28-300 มม. ที่รูรับแสงคงที่ f/2.8 ทั้งช่วง และยังใส่ตัวขยายช่วงซูมอีก 1.7 เท่า ทำให้ทางเลนส์ยาวถึง 510 มม. ได้อีกด้วย (ต้องซื้อแยกนะครับ) ตัวกล้องขนาดไม่ใหญ่นัก แต่หนักพอตัวที่ 402 กรัม (รวมแบตเตอรี่)

Olympus เปิดตัวกล้องซีรีส์ OM-D รุ่นที่สองแล้วในชื่อรุ่น OM-D E-M1 ที่ทาง Olympus เองบอกว่าไม่ได้มาแทน OM-D ตัวแรก (รหัส OM-D E-M5) แต่เป็นตัวต่อจาก E-5 กล้อง DSLR ตัวท็อปที่ขายตั้งแต่ปี 2010 นั่นเอง

ด้วยความที่ Olympus ออกตัวมาแบบนั้น OM-D E-M1 จึงมีสเปคเหนือกว่า OM-D E-M5 แทบทุกส่วน สเปคคร่าวๆ มีดังนี้ครับ

หลังจากปล่อยให้แฟนๆ รอกล้อง mirrorless ตัวท็อปของซีรีส์ PEN มาเกือบสองปี วันนี้ Olympus ได้เปิดตัว PEN E-P5 อย่างเป็นทางการแล้ว

ทางด้านสเปค E-P5 ใช้เซนเซอร์ความละเอียด 16.1 เมกะพิกเซล (เท่ากับ OM-D) หน้าจอด้านหลังขนาดเท่าเดิม 3" แต่เพิ่มความละเอียดเป็น 1,036,800 พิกเซล เอนจอลงด้านล่างได้ 50 องศา และใช้งานแบบสัมผัสได้ รวมถึงเพิ่ม Wi-Fi เข้ามาสำหรับโอนภาพ หรือควบคุมกล้องด้วยสมาร์ทโฟนตามสมัยนิยม

นอกจากนี้ Olympus ยังเคลมว่า E-P5 เป็นกล้อง mirrorless รุ่นแรกที่สามารถทำความเร็วชัตเตอร์ได้สูงสุด 1/8000 วินาที ในขณะเดียวกันก็เร่ง ISO ได้สูงสุดถึง 25600