Meta ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Live AI ในแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta Glasses ช่วยให้ AI มองเห็นภาพเดียวกับที่ผู้ใช้งานเห็นตรงหน้า สามารถโต้ตอบผู้ใช้ได้แบบเรียลไทม์

Meta บอกว่าฟีเจอร์ใหม่จะเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งาน เพราะสามารถให้คำแนะนำโดยอัตโนมัติตามภาพที่เห็น ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้งานเป็นคนสั่ง รวมทั้งการช่วยเหลือแบบ hands-free help เช่น เตรียมมื้ออาหาร ทำสวน โดยไม่ต้องพูด wake word เพื่อปลุก AI มารับคำสั่ง

ส่วนฟีเจอร์แปลภาษาที่มาคู่กับ Live AI สามารถแปลบทสนทนาภาษาอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลีได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ Ray-Ban Meta Glasses ยังใช้ร่วมกับ Shazam สำหรับค้นหาเพลง เพียงแค่ถามว่า “Hey Meta, what is this song?”

Baidu เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะ Xiaodu AI Glasses ในงานสัมมนาประจำปี Baidu World 2024 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ โดยบอกว่าเป็นแว่นตาพลัง AI ตัวแรกที่ทำงานด้วยโมเดลภาษาจีน

Xiaodu AI Glasses มีน้ำหนัก 45 กรัม กล้องด้านหน้าความละเอียด 16MP พร้อมความสามารถกันสั่นด้วย AI แบตเตอรีอยู่ได้นาน 56 ชั่วโมงแบบบสแตนด์บาย และ 5 ชั่วโมงในโหมดการใช้งานต่อเนื่อง ใช้เวลาชาร์จเต็มเพียง 30 นาที แว่นมีไมโครโฟน 4 ตัวโดยรอบ ลำโพงออกแบบมาให้เสียงเล็ดรอดออกไปได้น้อยที่สุด มีความสามารถแยกแยะเสียงแวดล้อมกับเสียงของผู้สวมใส่

มีรายงานว่าซัมซุงมีแผนเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะแบบ XR ภายในครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งมีรายละเอียดสเป็กเบื้องต้นเป็นชิปเซต AR1 ของ Qualcomm รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน Ray-Ban Meta Smart Glasses

นอกจากนี้กล้องก็มีความละเอียด 12MP และแบตเตอรี 155 mAh เท่ากับ Ray-Ban Meta Smart Glasses เช่นกัน แต่มีน้ำหนักที่เบากว่าคือ 50 กรัม อย่างไรก็ตามไม่มีข้อมูลว่าแว่นตาของซัมซุงจะมีหน้าจอแสดงผลด้วยหรือไม่ แต่ถ้ามีก็น่าสนใจเพราะน้ำหนักที่เบากว่านั่นเอง

Bloomberg รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องบอกว่า Baidu บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในจีน เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะพลัง AI ที่มีลักษณะคล้ายกับแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta Smart Glasses ของ Meta ในงานสัมมนาประจำปี Baidu World สัปดาห์หน้า

ข้อมูลบอกว่าแว่นตาจะมีกล้องด้านหน้าสำหรับถ่ายภาพและวิดีโอ รองรับการสั่งงานและโต้ตอบด้วยเสียงผ่านโมเดล AI Ernie ของ Baidu เชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ ที่ Baidu มีทั้งแผนที่นำทาง และคลังข้อมูล ราคาขายคาดว่าจะต่ำกว่าแว่นของ Meta ที่ขายอยู่ 299 ดอลลาร์ และน่าจะเริ่มขายในต้นปีหน้า

OpenAI ยืนยันว่า Caitlin Kalinowski อดีตหัวหน้าฝ่ายพัฒนาแว่นตา AR ที่ Meta ได้เข้าร่วมงานกับบริษัทในตำแหน่งหัวหน้าทีมพัฒนาฮาร์ดแวร์หุ่นยนต์และสินค้าสำหรับลูกค้าบุคคล

Kalinowski ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าทีมพัฒนาแว่นตา AR ที่ Meta ตั้งแต่ปี 2022 ซึ่งรวมทั้งดูแลโครงการแว่นตา Orion ที่ Meta เพิ่งเปิดตัวด้วย ก่อนหน้านั้น Kalinowski ดูแลทีมพัฒนาแว่น VR และก่อนมาทำงานที่ Meta เคยอยู่ฝ่ายออกแบบฮาร์ดแวร์ MacBook ที่แอปเปิล

ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม รายงานว่าแอปเปิลได้เริ่มทำการสำรวจและทดสอบความเห็นภายในบริษัท ถึงการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) เพื่อเป็นอีกช่องทางสำหรับการเผยแพร่คอนเทนต์ AR/VR ให้ผู้ใช้งาน หลังจากบริษัทเปิดตัวเฮดเซต XR Vision Pro ไปแล้ว

โครงการดังกล่าวมีชื่อเรียกภายในว่า Atlas โดยเป็นการสอบถามความเห็นพนักงานจำนวนหนึ่ง ถึงความเห็นและมุมมองต่อแว่นตาอัจฉริยะที่มีในตลาดปัจจุบัน

เมื่อเดือนที่แล้ว Gurman ก็รายงานว่าแอปเปิลมีแผนออกแว่นตาอัจฉริยะ ข้อมูลใหม่นี้อาจช่วยยืนยันว่าแอปเปิลมีความสนใจพัฒนาสินค้านี้จริง แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลความเห็นจากพนักงานในแอปเปิลเองด้วย

รายงานข่าวลือสินค้าใหม่แอปเปิล จากจดหมายข่าวประจำสัปดาห์โดย Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม คราวนี้ว่าด้วยสินค้าตัวใหม่ ข้ามไปไกลปี 2027 และเฮดเซต Apple Vision Pro รุ่นราคาถูกลงที่ยังอยู่ในแผน

เริ่มด้วย Vision Pro ซึ่งรุ่นปัจจุบันแอปเปิลขาย 3,499 ดอลลาร์ และมีข่าวเกี่ยวกับรุ่นถัดไปมาตลอดว่าอาจเป็นทั้งรุ่นถัดไปสเป็กแรง หรือรุ่นที่ทำราคาถูกลง ข้อมูลของ Gurman บอกว่าจะยังมีทั้งสองแนวทาง โดยรุ่นราคาถูกลงอาจลดลงครึ่งหนึ่ง ลดสเป็กชิปมาเป็น M1 หรือตระกูล A จากปัจจุบันเป็น M2 และตัดฟีเจอร์ EyeSight ที่แสดงดวงตาออกจอภายนอก วัสดุก็อาจเปลี่ยนเป็นพลาสติก เปิดตัวเร็วที่สุดต้นปีหน้า

Meta เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta Smart Glasses โดยเป็นฟีเจอร์ที่ทำงานร่วมกับ AI มากขึ้น และฟีเจอร์ที่ดึงการใช้งานจากสมาร์ทโฟนเพิ่มเข้ามา

อย่างแรกเป็นการปรับปรุง Meta AI โดยสามารถสนทนาโต้ตอบต่อเนื่องได้เลย และสามารถตั้งคำถามกับสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าของแว่นตา ไม่ต้องระบุคำสั่งซ้ำให้ดูภาพ ซึ่งทำให้การใช้งานลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มเครื่องมือเตือนความจำ เช่น ช่วยระบุตำแหน่งที่จอดรถได้จากภาพที่บันทึกไว้

ในอนาคต Meta AI จะรองรับวิดีโอในแว่นตาอัจฉริยะด้วย ซึ่งทำให้มีความสามารถแนะนำเส้นทาง สถานที่น่าสนใจ เมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ใหม่ และจะเพิ่มความสามารถการแปลภาษาเรียลไทม์ รองรับภาษาฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน แปลกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ

Meta เปิดตัว Orion แว่นตา AR ที่ระบุว่ามีเทคโนโลยีล้ำหน้าที่สุดที่เคยมีมา ตัวเลนส์เป็นหน้าจอแสดงข้อมูลต่าง ๆ จึงสามารถเชื่อมต่อระหว่างโลกภายนอกกับสิ่งที่แสดงในโลกเสมือนได้กลมกลืนที่สุด

โครงการพัฒนาแว่นตา AR นี้ Mark Zuckerberg ซีอีโอเคยพูดถึงมาแล้วเมื่อสามปีที่แล้วในชื่อ Project Nazare

EssilorLuxottica บริษัทผู้ผลิตแว่นตาหลายแบรนด์รวมทั้ง Ray-Ban ประกาศขยายความร่วมมือกับ Meta เป็นข้อตกลงระยะยาวเพื่อพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะออกมาอีกหลายรุ่น

ก่อนหน้านี้ Meta ร่วมมือกับ EssilorLuxottica ออกแว่นอัจฉริยะมาแล้วสองรุ่น ล่าสุดคือ Ray-Ban Meta Smart Glasses มีไมค์ตัดเสียงรบกวน รับสายโทรศัพท์หรือส่งคำสั่งเสียงได้ พร้อมกล้องที่สามารถไลฟ์ขึ้น Facebook, Instagram ได้ในตัว

Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta บอกว่าเขาภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ EssilorLuxottica และตื่นเต้นกับแผนงานระยะยาวข้างหน้าที่จะทำให้แว่นตา เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สำคัญในอนาคต ขณะเดียวกันก็พัฒนาให้มีสไตล์สวมใส่ได้ทั้งวัน

Meta ออกอัปเดต Ray-Ban Meta Smart Glasses แว่นตาอัจฉริยะที่ร่วมมือกับ Ray-Ban ออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพื่อต้อนรับฤดูร้อนในฝั่งตะวันตก พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ของ Meta AI เข้ามาด้วย

ดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มมามีทั้งกรอบแว่นแบบ Skyler ใหม่, แบบ Headliner รุ่นปรับปรุงสำหรับคนที่มีปัญหาแว่นไหลลงง่าย และยังสั่งคัสตอมได้อีกหลายร้อยแบบ ตอนนี้มีขายในอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และยุโรปรวม 15 ประเทศ

อีกฟีเจอร์ที่เพิ่มมาคือ Share Your View สามารถวิดีโอคอล และแสดงภาพผ่านแว่นตา รองรับใน WhatsApp และ Messenger ช่วยให้แชร์ภาพตรงหน้าได้อย่างอิสระ อีกกรณีใช้งานที่ Meta ยกมาคือเวลาไปซื้อของ สามารถวิดีโอคอลยืนยันของที่หยิบว่าถูกต้องได้สะดวกขึ้น

Meta ออกแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban Meta Glasses ทรงและสีใหม่ โดยยังคงสเปกเดิมของแว่นรุ่นปี 2023 แต่เพิ่มสีและสไตล์แว่นให้เหมาะกับผู้ใช้ที่หลากหลายกว่าเดิม

แว่น Ray-Ban Meta Glasses ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อีก 2 อย่างผ่านอัพเดตซอฟต์แวร์

Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลอีกเช่นเคย ในจดหมายข่าว Power On ประจำสัปดาห์ คราวนี้เขาเน้นไปที่อุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Devices) และ HomePod รุ่นใหม่

เขาบอกว่าทีมออกผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลนั้น มีไอเดียสินค้าอุปกรณ์สวมใส่ใหม่ออกมาเรื่อย ๆ โดยปัจจุบันสินค้าหลักก็คือ Apple Watch และ AirPods ส่วนล่าสุดคือ Vision Pro แต่แอปเปิลก็มองหาสินค้าใหม่เพิ่มเติม ส่วนใหญ่ยังเป็นไอเดียที่กำลังพัฒนา

Meta เปิดตัว Ray-Ban Meta Smart Glasses แว่นอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่จับมือกับ Ray-Ban หลังเคยออกรุ่นแรก Ray-Ban Stories เมื่อปี 2021 ฟังก์ชันต่างๆ ยังคล้ายเดิม แต่มีการอัพเกรดมากขึ้น และไม่เน้นขายการถ่ายลง Stories แล้ว

Ray-Ban Meta Smart Glass (ชื่อยาวแท้) มาพร้อมไมค์ 5 ตัว สำหรับช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอก เอาไว้สำหรับรับสายโทรศัพท์ หรือเรียกใช้คำสั่งเสียง ส่วนกล้องที่ติดอยู่ด้านบนของเลนส์ ได้ขนาดเซ็นเซอร์ 12 ล้านพิกเซล ความละเอียด FHD สามารถไลฟ์สตรีมขึ้นบน Facebook หรือ Instagram ได้ในตัว ซึ่งตัวแว่นจะมีหลอดไฟบ่งบอกด้วยว่า กล้องกำลังถูกเปิดใช้งานอยู่

Xiaomi เปิดตัวผลิตภัณฑ์ต้นแบบ เป็นแว่นตา Xiaomi Wireless AR Glass Discovery Edition สำหรับการใช้งานทั้งโหมด VR และ AR ด้วยจุดขายน้ำหนัก 126 กรัม และจอแสดงผล MicroLED ที่ละเอียดใกล้เคียงระดับเรติน่า

การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนสามารถทำได้โดยนำแตะกับแว่นตา ค่า latency ต่ำกว่า 50ms ในโหมด AR สามารถควบคุมสั่งการได้อย่างสะดวก ซึ่ง Xiaomi เรียกระบบนี้ว่า Xiaomi AR Gesture Control โดยในวิดีโอสาธิตสามารถทำได้ระดับปิดเปิดหลอดไฟ จนถึงควบคุมทีวีในห้องได้

สินค้าตอนนี้ยังมีสถานะเป็นต้นแบบ (prototype) ยังไม่มีแผนและกำหนดการผลิตวางขายทั่วไป

ที่มา: TechCrunch

Meta ยืนยันการซื้อกิจการ Luxexcel บริษัทผู้ผลิตเลนส์แว่นตาจากเนเธอร์แลนด์ โดยดีลดังกล่าวไม่มีการเปิดเผยมูลค่าที่เข้าซื้อ

Luxexcel เป็นบริษัทผลิตเลนส์แว่นตาตามสเป็กที่กำหนด โดยใช้เทคโนโลยี 3D Printing ซึ่งเลนส์ของ Luxexcel สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอื่นที่ใช้สำหรับแว่นตาอัจฉริยะ เช่น จอแสดงผล LCD หรือการแสดงภาพ 3D เสมือน

คาดว่าเทคโนโลยีของ Luxexcel จะนำมาใช้พัฒนาร่วมกับโครงการแว่นตา AR ที่ Meta ให้ความสำคัญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น โครงการแว่นตา Ray-Ban Stories ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว

ที่มา: TechCrunch

Lenovo เปิดตัวแว่น Lenovo Glasses T1 ที่แหวกแนวจากแว่นยี่ห้ออื่นๆ ในท้องตลาด ตรงที่ไม่มีฟีเจอร์ VR ใดๆ เพราะมันคือหน้าจอพกพาสำหรับไว้ดูหนังหรือเล่นเกมแบบส่วนตัว ไม่ต้องมีใครมายุ่ง

หน้าจอของ Lenovo Glasses T1 เป็นจอ Micro OLED ความละเอียดข้างละ 1920x1080 อัตรารีเฟรช 60Hz อัตราคอนทราสตร์ 10,000:1 มีลำโพงในตัว

สิ่งที่เหลือต้องประมวลผลจากอุปกรณ์อื่นผ่าน USB-C ซึ่งรองรับทั้ง Android, Windows, iOS (ผ่านหัวแปลง) Lenovo บอกว่าหน้าจอ Micro OLED กินไฟต่ำ สามารถเล่นเกมหรือดูหนังจากอุปกรณ์พกพาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสูบแบตแต่อย่างใด

สินค้าจะวางขายในจีนช่วงปลายปี 2022 และประเทศอื่นในปี 2023 ตอนนี้ยังไม่เปิดเผยราคา

Oppo เปิดตัว Air Glass แว่น AR ที่บริษัทระบุว่าเป็น “assisted reality” คือฉายภาพข้อมูลแบบสองมิติบนตัวแว่น ไม่ได้ฉายภาพสามมิติที่อิงกับสภาพแวดล้อม (คล้าย Google Glass) ภายในใช้ชิป Qualcomm Snapdragon Wear 4100 ใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง สแตนด์บายได้ 40 ชั่วโมง

มีทั้งแบบข้างเดียว (half-frame) สีเงิน และสองข้าง (full-frame) สีดำ แต่ละแบบมีสองขนาด พร้อมแม่เหล็กไว้ใช้ติดกับแว่นทั่วไป หน้าจอเป็นโมโนโครมมีระดับสีเกรย์สเกล 16 ถึง 256 ระดับ ฉายภาพด้วยโปรเจกเตอร์ Micro LED จิ๋ว ความสว่างจริงประมาณ 1,400 nits

Facebook ร่วมกับแบรนด์แว่นกันแดด Ray-Ban เปิดตัวแว่นติดกล้องที่มีข่าวมาก่อนหน้านี้ โดยใช้ชื่อว่า Ray-Ban Stories

รูปแบบการใช้งานก็ตรงตามชื่อแว่น คือเน้นใช้สวมใส่เพื่อถ่ายรูปหรือคลิปลง Instagram Stories เป็นหลัก (สามารถฟังเพลงหรือรับสายโทรศัพท์เป็นงานรอง) วิธีการคือต้องใช้ร่วมกับแอพตัวใหม่ชื่อ Facebook View บนสมาร์ทโฟน โดยรูปหรือคลิปที่ถ่ายจากแว่น Ray-Ban Stories จะไปโผล่ในแอพ Facebook View ให้อัตโนมัติ แล้วค่อยแต่งภาพและแชร์ลงโซเชียลต่างๆ อีกที (รูปแบบเหมือนกับแว่น Spectacles ของ Snap ที่ออกในปี 2017 มาก)

หลังอุปกรณ์ AR (augmented reality) ของบริษัทอย่าง Google Glass ไม่ประสบความสำเร็จกับผู้บริโภคทั่วไปนัก และ Google หยุดอัพเดต Google Glass Explorer ไปเมื่อปี 2019 แม้ยังมีอัพเดตเช่น Google Meet ให้กับลูกค้าองค์กรบ้าง แต่ Google ก็พูดถึงอุปกรณ์ชนิดนี้น้อยมาก

ล่าสุด หลัง Google เปิดเผยข้อมูลถึงชิป Tensor ผู้บริหาร Rick Osterloh ตำแหน่ง senior vice president ฝ่ายอุปกรณ์และบริการของ Google ก็ให้สัมภาษณ์กับ Business Insider พูดถึงอุปกรณ์ AR อีกครั้ง ว่าก่อนหน้านี้เทคโนโลยียังไม่ล้ำหน้าเพียงพอที่จะซัพพอร์ตอุปกรณ์ประเภทนี้

Razer เปิดตัว Anzu Smart Glasses ที่แม้จะชื่อ Smart Glasses แต่จริงๆ จะคล้ายคลึงกับหูฟังไร้สายมากกว่า และไม่มีการแสดงผลภาพใดๆ บนเลนส์ แต่ใช้ฟังเพลง รับโทรศัพท์ หรือสั่งการผู้ช่วยเสียงได้ วางจำหน่ายในราคา 199.99 ดอลลาร์ (ราว 6,100 บาท)

Anzu ใช้ไดรเวอร์เสียงเหมือนหูฟังไร้สาย ขนาด 16 มิลลิเมตร แยกสองข้าง แต่ไม่ได้เสียบเข้าไปในหู ซึ่ง Razer ระบุว่าเสียงที่ออกมาจะได้ยินถึงแค่ผู้คนที่อยู่ใกล้ในระยะที่มือเอื้อมถึง (แต่ก็แปลว่าคงไม่เหมาะใส่ขึ้นรถไฟฟ้าหรือออกไปข้างนอกเท่าไร)

Olympus เปิดตัว EyeTrek Insight EI-10 โมดูล smart glass โอเพ่นซอร์ส โดยเน้นจับกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร

EyeTrek เป็นอุปกรณ์สำหรับติดกับแว่นที่มีจอขนาดเล็กอยู่ที่ตาข้างหนึ่ง มีหน้าจอ OLED 640 x 400 พิกเซล ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่ Olympus เรียกว่า Pupil-Division Optical System ที่แตกต่างจากเทคโนโลยี beam splitting ที่นิยมใช้ โดยเทคโนโลยีใหม่นี้จะให้ภาพที่คมและชัดกว่าเดิม แม้จะมีขนาดเล็กและเบาก็ตาม ส่วนกล้องที่ติดกับตัวอุปกรณ์นั้นสามารถถ่ายภาพและวิดีโอ โดยมีพิกเซลทั้งหมด 1992 x 1216 พิกเซล

Epson บริษัทไอทีที่หลายคนรู้จักในฐานะผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ เปิดตัว Moverio BT-300 แว่นตาอัจฉริยะรุ่นที่สาม ที่ยังคงรูปทรง และรูปแบบการใช้งานไว้ดังเดิม แม้ว่าคู่แข่งร่วมตลาดอย่าง Google Glass จะแตกดับจากโลกของผู้ใช้ทั่วไปแล้วก็ตาม

Moverio BT-300 ยังมาในทรงแว่นตาไฮเทคเหมือนรุ่นก่อนหน้า แต่ย่อส่วนลง 20% พร้อมอัพเกรดไปใช้หน้าจอคู่ Si-OLED รองรับการแสดงผลแบบแบบสามมิติในตัว ความละเอียดที่ 1280x720 พิกเซล เพิ่มความละเอียดกล้องหน้าเป็น 5 เมกะพิกเซล ส่วนตัวควบคุม Control Unit ถูกย่อขนาดลงเช่นกัน และอัพเกรดไปใช้ Atom x5-8500 รัน Android 5.1 Lollipop

Sony ได้ปล่อยชุดเครื่องมือมาตรฐานสำหรับนักพัฒนาแอพของแว่นตา SmartEyeGlass อันอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบสวมใส่ได้อีก 1 อย่างที่ Sony เปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อตอนต้นปี