Banana Pi M2 Zero บอร์ดจากจีนที่ออกแบบรูปร่างเดียวกับ Raspberry Pi Zero ด้วยแนวคิดตัดส่วนที่ไม่จำเป็นทั้งหมดออกมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้บอร์ดรุ่นต่อไป คือ Banana Pi P2 Zero ก็ออกมาแล้วโดยใช้ชิปแทบเหมือนเดิม แต่เพิ่มการรับพลังงานผ่าน PoE

ตัวชิปหลักยังคงเป็น Allwinner H2+ ที่เป็น ARM Cortex-A7 กราฟิก Mali-400 แรม 512MB หน่วยความจำแฟลช 8GB แต่เพิ่มอีเธอร์เน็ต 100Mbps เข้ามาด้วย

ตัวบอร์ดไม่ได้รองรับการรับพลังงานจาก PoE โดยตรงแต่ต้องใช้บอร์ดเสริม BPI-9600 เสียบเพิ่มเข้าไป

Banana Pi เปิดตัวบอร์ด bpi:bit บอร์ดขนาดเล็กเพื่อการศึกษารูปแบบเดียวกับ micro:bit ที่ BBC เคยออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 2016 โดยตัวซีพียูใช้โมดูล ESP-WROOM-32 ที่เป็นชิป ESP32 แรม 520KB รอม 448KB

บนตัวบอร์ดมีปุ่มกดสองปุ่มซ้ายขวา, ไฟ LED 25 ดวงแบบ 5x5, เซ็นเซอร์แสง/การเคลื่อนไหว/ไจโร/เข็มทิศ, มีลำโพงแบบ buzzer ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อนั้นพอร์ตหลักเป็น micro USB, พอร์ตแบตเตอรี่, ขา I/O ขนาดใหญ่ 3 ขาเป็นอนาล็อก/ดิจิตอล, ขาเชื่อมต่อขนาดเล็กอีก 20 ขา

SinoVoip ออกบอร์ด Banana Pi M2 Zero ที่ตัวบอร์ดเท่าๆ กับ Raspberry Pi Zero และตำแหน่งของพอร์ตต่างๆ ก็ตรงกัน จนใช้เคสร่วมกันได้

ตัวบอร์ดใช้ชิป Allwinner H2+ Cortex-A7 หน่วยความจำ 512MB ส่วนเน็ตเวิร์คใช้ชิป AP6212 มีพอร์ตต่อสายอากาศภายนอกให้

ช่อง SD, mini HDMI, micro USB และ GPIO ของทั้งสองบอร์ดวางตรงกัน แต่พอร์ต CSI สำหรับต่อกล้องของ Banana Pi M2 Zero ใหญ่กว่าพอร์ตแบบย่อของ Raspberry Pi Zero อาจจะใช้พอร์ตเต็มเหมือนบอร์ดปกติ

ตัวบอร์ดราคา 15 ดอลลาร์ แต่ SinoVoip บน Aliexpress มีค่าส่งมาประเทศไทยแพงมากโดยบอร์ดนี้มีค่าส่งถูกที่สุด 15.89 ดอลลาร์ อาจจะต้องรอหน้าร้านอื่นๆ นำไปขายจึงมีทางสั่งมาไทยที่ถูกลง

ผู้ผลิตบอร์ดจีนอย่าง Banana Pi เคยมีจุดเด่นที่รองรับพอร์ต SATA ในตัว แต่หลังจากอัพเกรดมาเป็นรุ่น M2 ก็กลับตัดความสามารถนี้ออกไป ตอนนี้ Banana Pi M2 Ultra เปลี่ยนมาใช้ชิป Allwinner R40 แทนที่ Allwinner A31S ทำให้ความสามารถนี้กลับมาอีกครั้ง

นอกจากพอร์ต SATA แล้ว M2 Ultra ยังอัพเกรดสเปค ได้แก่ แรมเพิ่มเป็น 2GB และรองรับแบตเตอรี่ลิเทียมในตัว บนตัวบอร์ดมี eMMC มาให้ 8GB และติดตั้ง micro SD เพิ่มเติมได้

บอร์ดวางจำหน่ายแล้ว ราคา 48 ดอลลาร์ไม่รวมค่าส่ง ค่าส่งมาไทย 3.75 ดอลลาร์

บอร์ดคอมพิวเตอร์จีนอย่าง Banana Pi ประกาศรุ่นอัพเกรดล่าสุดเป็น BPI-M64 ใช้ชิป Allwinner A64 ที่คอร์เป็น Cortex A53 สี่คอร์

สเปครวมๆ ของ BPI-M64 ค่อนข้างครบ แรม 2GB หน่วยความจำแฟลช 8GB พอร์ตแลนกิกะบิต, พอร์ต HDMI, MIPI DSI/CSI, Wi-Fi, Bluetooth (ผมมองไม่เห็นสายอากาศบนบอร์ด อาจจะต้องต่อสายอากาศภายนอกอย่างเดียว), ไมโครโฟน, พอร์ดหูฟัง, อินฟราเรด, ช่องต่อแบตเตอรี่ลิเทียม

บอร์ดยังไม่วางขาย แต่ตัวแทนบริษัทบอกกับ CNX Software ว่าราคาจะอยู่ราวๆ 35 ดอลลาร์

ที่มา - CNX Software

Banana Pi ผู้ผลิตบอร์ดจากจีนที่ออกบอร์ดแบบเดียวกับ Raspberry Pi มาก่อน ตอนนี้หันมาออกบอร์ดเซ็นเซอร์ BPI-GSM จุดเด่นสำคัญคือมีโมดูล Simcom SIM808 มาในตัวทำให้สามารถส่ง SMS ได้ในตัว และยังสามารถรับสัญญาณ GPS ได้

บนตัวบอร์ดใช้ชิป ATmega2560 ตัวเดียวกับ Arduino Mega ทำให้สามารถเขียนโปรแกรมผ่าน Arduino IDE โดยเลือกบอร์ดเป็น Arduino Mega ได้ทันที มีจอ OLED สำหรับแสดงผล และเซ็นเซอร์ DHT22 สำหรับวัดระดับอุณหภูมิและความชื้น, เซ็นเซอร์แสงสว่าง พร้อมวงจรรับไฟจากแบตเตอรี่ลิเทียม

ราคาพร้อมแบตเตอรี่อยู่ที่ 64 ดอลลาร์

Banana Pi อัพเดตบอร์ดตระกูล M2 ที่เปิดตัวมาเมื่อปีที่แล้ว เป็น M2+ เปลี่ยนรูปแบบบอร์ดกลายสี่เหลี่ยมจตุรัส ขนาด 65x65 ตารางมิลลิเมตร

ตัวบอร์ดใช้ Allwinner H3 เทียบกับรุ่น M2 ที่ใช้ Allwinner A31S มีพอร์ตอีเธอร์เน็ตกิกะบิตและ Wi-Fi มาในตัว แต่ไม่มี SATA เช่นเดียวกับ M2 บนตัวบอร์ดเองมี eMMC ขนาด 8GB มาให้แต่แรก

ยังไม่แจ้งราคาและวันเริ่มจำหน่าย

Sinovoip ผู้ผลิตบอร์ด BananaPi ประกาศพอร์ตไลบรารี WiringPi ที่ใช้ควบคุมขา GPIO บนบอร์ด Raspberry Pi มาใช้บนบอร์ด BPI M1/M1Plus/M2 ได้เรียบร้อยแล้ว

WiringPi ทำให้การเขียนโปรแกรมบน Raspberry Pi ได้คล้ายกับการพัฒนาโปรแกรมบน Arduino (ดูตัวอย่างบน Sparkfun) ขา I/O ของ Banana Pi เองคล้ายกับ Raspberry Pi อย่างมากการใช้งานโดยทั่วไปจึงน่าจะใช้งานกันได้ครบถ้วน

สำหรับคนพัฒนาฮาร์ดแวร์และบอร์ดเสริมอยู่แล้ว และพัฒนาผ่าน WiringPi ตอนนี้ก็น่าจะพอร์ตบอร์ดเสริมมาใช้งานได้ง่ายขึ้น

Banana Pi บอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ออกมาแล้วสามรุ่น คือ Banana Pi (Allwiner A20), Banana Pi Pro (Allwinner A20), และ Banana Pi M2 (Allwinner A31s) ตอนนี้รุ่นล่าสุดก็เปิดสเปคออกมาแล้ว เป็น Banana Pi BPI-M3

BPI-M3 อัพเกรดซีพียูไปใช้ Allwinner A83T เป็น Cortex A7 8 คอร์, แรม 2GB, eMMC อีก 8GB, Wi-Fi/Bluetooth ในตัวด้วยชิป AP6212, พร้อมพอร์ตกิกะบิตอีเธอร์เน็ต ที่สำคัญคือจุดเด่นของ Banana Pi ที่รองรับ SATA แต่หายไปในรุ่น M2 ก็กลับมาในรุ่นนี้แล้ว

Banana Pi โครงการคู่แข่ง Raspberry Pi จากฝั่งจีนประกาศอัพเดต บอร์ดครั้งใหญ่ เป็นรุ่น Banana Pi M2 ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือ ซีพียูเปลี่ยนเป็น Allwinner A31S แทนที่ Allwinner A20 แต่ข้อเสียสำคัญคือ M2 จะไม่มีพอร์ต SATA เหมือนบอร์ด Banana Pi รุ่นอื่นๆ อีกต่อไป

บนตัวบอร์ดมีพอร์ต HDMI, USB OTG, USB 2.0 4 พอร์ต, อีเธอร์เน็ตกิกะบิต, Wi-Fi ในตัว, ช่องหูฟัง, ไมโครโฟน, เซ็นเซอร์อินฟราเรด, และพอร์ตต่อบอร์ดเสริม 40 ขาแบบเดียวกับ Raspberry Pi

ความได้เปรียบในแง่ของประสิทธิภาพการประมวลผลของ Banana Pi M2 หลังจาก Raspberry Pi 2 ออกมาน่ามีช่องว่างน้อยกว่าสมัย Raspberry Pi รุ่นเดิมมาก แต่ M2 ราคาขายอยู่ที่ 59 ดอลลาร์ คงเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งาน Wi-Fi และอีเธอร์เน็ตความเร็วสูงๆ เป็นหลัก

พีซีขนาดเล็กเดินตามแนวทาง Raspberry Pi และคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีมาก่อนหน้านั้น เช่น Pandaboard หรือ Beagleboard ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน แต่บอร์ดล่าสุดจากกลุ่ม LeMaker ก็เปิดโครงการใหม่ที่แข่งขันกับ Raspberry Pi โดยตรงในชื่อว่า Banana Pi

Banana Pi จะใช้ชิป Allwinner A20 เช่นเดียวกับบอร์ด Cubieboard 2 ที่วางตลาดมาก่อนหน้านี้ โดยตัวลินุกซ์ก็แทบจะเหมือนกัน ส่วนสเปคนั้นแรงกว่า Raspberry Pi มาก โดยตัวซีพียูเองก็เป็น Cortex-A7 สองคอร์, แรม 1 GB, มีช่องอีเธอร์เน็ตระดับกิกะบิต, SATA, และอินฟราเรด