เว็บไซต์ AllThingsD อ้างข้อมูลวงในจาก Instagram ว่าแอพเวอร์ชัน BB10 จะใช้วิธีพอร์ตเวอร์ชัน Android แทนการสร้างแอพขึ้นมาใหม่แบบ native

เหตุผลที่ Instagram ไม่ทำแอพเวอร์ชัน BB10 native น่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ซึ่งปัจจุบันทีม Instagram (แม้จะเป็นของ Facebook ไปแล้ว) มีคนเพียง 20 คนเท่านั้น การเลือกวิธีพอร์ตแอพจาก Android น่าจะเหมาะกับทรัพยากรมากกว่า

ข่าววงในยังบอกว่าการพอร์ตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และเต็มไปด้วยปัญหาทางเทคนิคหลายอย่าง เช่น ประสิทธิภาพ และหน้าตาที่แตกต่างไปจากแอพแบบ native ไม่น้อย

ก่อนหน้านี้เราเพิ่งมีข่าว Skype for BB10 เป็นเวอร์ชันพอร์ตจาก Android เช่นกัน

เพิ่งประกาศถอนตัวจากญี่ปุ่นได้ไม่นาน ก็มีข่าวว่า BlackBerry เตรียมถอนตัวจากเกาหลีใต้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้แล้ว

ต้นทางจากเว็บไซต์เกาหลี Yonhap อ้างแหล่งข่าววงในระบุว่า BlackBerry คิดจะถอนตัวจากเกาหลีใต้ เนื่องมาจากยอดขายที่ตกต่ำ และไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งเจ้าถิ่นอย่าง Samsung และ LG รวมถึง Apple ได้

Jim Balsillie อดีตซีอีโอร่วมของ BlackBerry ได้รายงานผ่านเอกสารของกลต. ว่าเขาได้ขายหุ้นใน BlackBerry ที่ตนถือครองอยู่ก่อนหน้านี้ออกไปทั้งหมดแล้ว ก่อนสิ้นปี 2012

Skype ประกาศแอพสำหรับ BlackBerry 10 ซึ่งบริษัทประกาศชัดว่าเป็นการนำ Skype for Android มาพอร์ตให้ทำงานบน BB10 ได้

โฆษกของ Skype ชี้แจงว่าการที่ BB10 สามารถรันแอพจาก Android ได้โดยตรง ช่วยให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จาก Skype for Android ที่พัฒนามานานแล้ว ทำให้ผู้ใช้ BB10 ได้ใช้งาน Skype ในทันที และบริษัทก็สัญญาว่าจะร่วมมือกับ BlackBerry อย่างใกล้ชิดให้แอพตัวนี้ทำงานบน BB10 ได้อย่างราบรื่น เช่น การปรับแอพให้รองรับระบบ notification และ Hub ของ BB10 เป็นต้น

ผู้ใช้ BB10 อาจอยากให้ Skype ทำแอพแบบ native มากกว่า แต่ในเบื้องต้นมีแอพให้ใช้คงดีกว่าต้องรอต่อไปเรื่อยๆ แบบไม่มีกำหนด

ตลาดหนึ่งที่ BlackBerry เจาะไม่เคยเข้าคือญี่ปุ่น ซึ่งล่าสุดโฆษกของบริษัทยืนยันข่าวการถอนตัวจากการทำตลาดในญี่ปุ่นแล้ว

BlackBerry ยอมรับว่าญี่ปุ่นไม่ใช่ตลาดสำคัญของตัวเอง จึงจะไม่วางขาย BlackBerry 10 ในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ก็ยืนยันว่ายังสนับสนุนลูกค้า BlackBerry รุ่นก่อนๆ ในญี่ปุ่นต่อไป

ตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของ BlackBerry ในญี่ปุ่นคือ 0.4% เมื่อเดือนมิถุนายน 2012

ที่มา - AllThingsD

นักวิเคราะห์จากบริษัท Barclay ของอังกฤษ รวบรวมข้อมูลยอดขาย BlackBerry Z10 ในช่วงสุดสัปดาห์แรก และพบว่ายอดขายของ Z10 ออกมาดี ร้านค้าบางแห่งของหมดหรือใกล้หมด

Barclay เปรียบเทียบยอดขาย Z10 ช่วงแรกกับ Lumia 920 เมื่อปีที่แล้ว และประเมินว่า Z10 ขายดีกว่า Lumia 920 ในช่วงเวลาเดียวกัน (ทั้งหมดนี้เป็นยอดประเมินของนักวิเคราะห์เอง ไม่ใช่ยอดอย่างเป็นทางการ)

อ่านไม่ผิดครับ ข่าวนี้เป็นการอัพเกรด Android ของบริษัท BlackBerry

เหตุเพราะภายในระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 และ PlayBook OS นั้นมี Android Runtime ฝังอยู่ภายใน เพื่อให้ระบบปฏิบัติการทั้งสองตัวสามารถรันแอพที่เขียนสำหรับ Android ได้ (แต่ต้องดาวน์โหลดผ่านร้าน BlackBerry World)

เดิมทีรันไทม์ตัวนี้เป็น Android 2.3.3 Gingerbread แต่ล่าสุดทาง BlackBerry ก็ประกาศแล้วว่าจะอัพเกรดรันไทม์ตัวนี้เป็น Android 4.1 Jelly Bean เพื่อรองรับแอพรุ่นใหม่ๆ และให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นด้วย ส่วนช่วงเวลานั้นยังไม่ระบุว่าเป็นเมื่อไรกันแน่ครับ

ที่มา - CrackBerry

BlackBerry ประกาศเตรียมมอบรางวัลเป็นเครื่อง Z10 สีแดง รุ่นจำกัดจำนวน 12,000 เครื่อง ให้แก่นักพัฒนาแอพพลิเคชันสำหรับ BlackBerry 10

BlackBerry ประกาศข่าวนี้ผ่านทางบล็อกของตนเอง โดยการแจก Z10 ในครั้งนี้จำกัดเฉพาะนักพัฒนาที่เข้าร่วมงาน Porathon และ BlackBerry Jam ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่ก่อนการเปิดตัว BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา

BlackBerry อัพเดตแพลตฟอร์มเพื่อรองรับตัวเครื่องที่จะวางขายตามมาอย่าง Q10 ทีมีคีย์บอร์ด QWERTY ในตัวแล้ว ด้วยการอัพเดต SDK ให้มีตัวอีมูเลเตอร์รุ่นมีคีย์บอร์ดในตัว พร้อมกับเปิดตัว BlackBerry 10 Dev Alpha C อย่างเป็นทางการ

นอกจากการอัพเดต SDK แล้ว BlackBerry ยังสัญญาว่าจะอัพเดตรันไทม์สำหรับรันแอพ Android บน BB10 อีกด้วย หลังจากในรุ่นปัจจุบันที่ใช้บน Z10 นั้นมีฐานจาก Android 2.3 ที่นอกจากประสิทธิภาพยังไม่ดีแล้ว ยังไม่รองรับแอพใหม่อีกหลายตัว และกำลังพัฒนาให้รองรับถึง Android 4.1 ในอนาคต แต่ยังไม่บอกว่าเป็นเมื่อไรครับ

ที่มา - The Verge

BlackBerry Z10 เริ่มวางขายแล้วในอังกฤษเป็นที่แรก ซึ่งมีรายงานว่า "มีคนต่อคิวซื้อหน้าร้าน" และ Z10 รุ่นสีขาวเริ่มขาดตลาดในร้านค้าหลายแห่ง ส่วน Z10 สีดำแม้ขายดีไม่เท่าแต่ก็มีสัญญาณเชิงบวก

บริษัทวิจัยตลาด Jefferies & Co. ประเมินว่าเบื้องต้น BB10 น่าจะขายได้ "หลักแสนเครื่อง" ในตลาดอังกฤษ ส่วนยอดสั่งซื้อล่วงหน้าในแคนาดาและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ออกมาดี ซึ่งโฆษกของ BlackBerry เองก็ระบุว่าบริษัทพอใจกับกระแสตอบรับของ Z10 ในช่วงแรก

ข้อมูลที่น่าสนใจคือบริษัทวิจัย CIBC ของแคนาดาระบุว่า 50% ของยอดสั่งซื้อล่วงหน้าในแคนาดา มาจากลูกค้าที่ไม่ได้ใช้ BlackBerry อยู่ก่อน ถือเป็นสัญญาณอันดีที่ BB10 สามารถจูงใจลูกค้าให้ย้ายแพลตฟอร์มได้นั่นเอง

เว็บไซต์ Gizmodo ได้ทดสอบถ่ายภาพในที่มืดจาก BlackBerry Z10 และเปรียบเทียบกับมือถือยอดนิยมอย่าง Galaxy S III, iPhone 5 และ Lumia 920 ผลปรากฏว่า กระทั่งการถ่ายภาพในที่มืดที่สุดและมีแสงดีที่สุดสำหรับการถ่ายภาพแล้วก็ตาม BlackBerry Z10 ทำได้ไม่ดีเมื่อเทียบการมือถือที่นำมาใช้ทดสอบเปรียบเทียบ (ดูภาพเปรียบเทียบได้ข้างล่าง) นอกจากนั้นการตั้งค่าเพื่อถ่ายภาพในเวลากลางคืนแทบไม่มีประโยชน์เลย ซึ่งเหมือนกับกล้องมือถือเมื่อสีปี่ก่อน Gizmodo ทิ้งท้ายว่าไม่เคยเห็นอะไรที่แย่ได้ขนาดนี้มานานแล้ว

บริษัท ABI Research ออกรายงานประเมินสภาพการณ์สมาร์ทโฟนในปี 2013 ดังนี้

จากข่าว BB10 เปิดตัวพร้อมแอพ 70,000 ตัว ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับแพลตฟอร์มสร้างใหม่ อย่างไรก็ตามทาง BlackBerry เองก็ออกมายอมรับแล้วว่าแอพจำนวน 40% จาก 70,000 ตัว (หารกันออกมาแล้วประมาณ 28,000 ตัว) เป็นแอพจากแพลตฟอร์ม Android

BlackBerry World เปิดให้นักพัฒนาแอพ Android สามารถส่งแอพของตัวเองเข้ามาขายได้อยู่แล้ว โดยต้องปรับปรุงให้ตัวแอพทำงานเข้ากับ BB10 SDK บางส่วน เช่น ปุ่มเมนูหรือปุ่มย้อนกลับจะถูกแทนที่ด้วย gesture บนหน้าจอแทน (ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าแก้ไม่เยอะนัก)

ก่อนหน้านี้การใช้งาน BlackBerry ทุกรุ่น ผู้ใช้ต้องใช้งานบนเครือข่ายที่รองรับการใช้งาน BlackBerry Internet Service หรือ BIS ซึ่งนอกจากจะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมต่างหากแล้ว ยังเป็นการผลักภาระส่วนใหญ่มาที่ผู้ใช้ ซึ่งส่วนแบ่งย้อนกลับไปยังผู้บริการทำได้น้อยมาก จึงเป็นเหตุให้แพ็คเกจของ BlackBerry ทุกเครือข่ายมีราคาต่อเดือนค่อนข้างสูง

ทีมงาน Business Insider ได้รับเครื่อง Z10 จาก BlackBerry มาทดสอบการใช้งาน และหนึ่งในแอพพลิเคชันที่มีการทดสอบคือระบบแผนที่ของ BlackBerry ซึ่ง Business Insider ให้ความเห็นว่ามันยังไม่ดีพอเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ และดูเหมือนจะแย่กว่าแอพแผนที่ของ Apple ด้วยซ้ำ ดังนี้

หลังเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Z10 และ Q10 อย่างอลังการ BlackBerry ก็เปิดตัวอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องรุ่น Z10 รวดเดียวหลายชิ้น ทั้ง เคส/ฝาปิด/ซอง, ลำโพง, แบตเตอรี่

หนึ่งในแผนเพื่อสร้างแพลตฟอร์ม BB10 ให้ไปรอดของ BlackBerry คือการจูงใจให้นักพัฒนามาทำแอพลงเยอะๆ จากที่เคยเผยตัวเลขแรก 15,000 ตัว ส่งเข้ามาภายใน 36 ชั่วโมง ในงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 70,000 ตัว และพร้อมกับเพิ่มแอพเด่นๆ ที่จะมาลงอีกหลายตัว

คัดเฉพาะแอพดังๆ ที่คิดว่าคนส่วนมากอยากให้มีแยกตามหมวดได้แบบนี้ครับ

แอพโซเชียลเน็ตเวิร์ค

Facebook, Twitter, LinkedIn, Foursquare

แอพแชท และบันเทิงอื่นๆ

Whatsapp, TuneIn Radio, Paper Camera, Soundhound, Flixster

แอพข่าว

New York Times, The Economist, MLB, ESPN, CBS, PGA, NHL, Gamecenter, Bloomberg, BBC Top Gear

ในงานแถลงเปิดตัว BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการของ BlackBerry ที่เพิ่งประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทสดๆ กลางงาน ก็ถึงคิวของสองสมาร์ทโฟนชุดแรกที่รัน BlackBerry 10 มาเปิดตัวในงานแล้ว

ตัวแรกคือ BlackBerry Z10 สมาร์ทโฟนจอสัมผัสทั้งตัว หน้าตาเหมือนกับที่เคยหลุดมาก่อนหน้าทุกระเบียดนิ้ว ตัวเครื่องมีสีดำ และสีขาว (แต่ด้านหน้าก็ยังกรอบดำอยู่ดี) และ BlackBerry Q10 ที่มาพร้อมกับคีย์บอร์ด QWERTY อย่างที่เคยเห็นกันในซีรีส์ Bold

ที่งานแถลงข่าว BlackBerry 10 วันนี้ (30 มกราคม) บริษัท RIM หรือ Research In Motion เดิม ประกาศเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น BlackBerry ให้สอดคล้องกับชื่อแบรนด์ของสินค้าหลัก

ตัวย่อในตลาดหลักทรัพย์จะเปลี่ยนตามเป็น BBRY หรือ BB (แล้วแต่ตลาดหลักทรัพย์ที่ค้าหุ้น)

RIM ก่อตั้งในปี 1984 ปัจจุบันมีอายุเกือบ 30 ปีแล้ว

ที่มา - @blackberry, BlackBerry Blog

มีคนส่งภาพหน้าจอของระบบฐานข้อมูลของเว็บไซต์ขายมือถือสัญชาติอังกฤษ Carphone Warehouse มาให้ทาง Engadget ภาพดังกล่าวให้ข้อมูลว่า BlackBerry Z-10 สีขาวแบบไม่ติดสัญญาอยู่ที่ 480 ปอนด์ หรือราว 22,700 บาท

ตามข่าวก่อนหน้านี้ Research in Motion ได้ส่งจดหมายเชิญสื่อไปงานเปิดตัว BlackBerry 10 วันที่ 30 มกราคมปีนี้

ที่มา: Engadget

ใกล้ถึงนัดหมาย 30 มกราคมเปิดตัว BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการ ค่าย RIM ก็ค่อยๆ ปล่อยจิ๊กซอของแพลตฟอร์ม BB10 ออกมาทีละชิ้น

ก่อนหน้านี้เราเห็น BlackBerry World ไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ BlackBerry Enterprise Service 10 (BES 10) ที่เคยมีข่าวมาแล้วหลายรอบ

BES 10 เป็นซอฟต์แวร์ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาแบบครบวงจร โดยครอบคลุม BlackBerry ทุกเวอร์ชัน (รวม PlayBook) และมือถือค่ายอื่นทั้ง iOS/Android

จากการเปลี่ยนชื่อ BlackBerry App World เป็น BlackBerry World ทำให้หลายคนสงสัยว่า แล้วงานสัมมนาประจำปีอย่าง BlackBerry World หายไปไหน ในปีนี้งานดังกล่าวถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น BlackBerry Live เรียบร้อยแล้วครับ

โดยในปีนี้ RIM จะจัดงาน BlackBerry Live ในวันที่ 14-16 พฤษภาคมนี้ ที่ เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดาครับ แต่ประเด็นมันไม่ใช่อะไรหรอก คือถ้าเราๆ ท่านๆ จำกันได้... กูเกิลจะจัดงาน Google I/O 2013 ในวันที่ 15-17 พฤษภาคมนี้ แบบนี้ดูเหมือนว่า RIM ค่อนข้างมีอะไรพิเศษพอสมควร ถึงกล้าจัดงานชนกับ Google I/O เข้าอย่างจัง

RIM ประกาศเรื่องนี้ไว้ที่งาน BlackBerry Jam Asia 2012 ที่กรุงเทพ วันนี้ RIM ออกมาประกาศซ้ำว่าการเปลี่ยนแปลงจริงๆ เกิดขึ้นแล้ว

ผู้ใช้ BlackBerry จะเห็นชื่อ BlackBerry App World เปลี่ยนเป็น BlackBerry World (ตัดคำว่า App ออกไป) โดยการใช้งานโดยรวมยังเหมือนเดิม ทาง RIM ให้เหตุผลของการเปลี่ยนชื่อว่าจะเพิ่มเนื้อหาอื่นๆ อย่างเพลงและภาพยนตร์เข้ามา ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อสะท้อนเนื้อหาที่ครอบคลุมมากขึ้น

ตอนนี้หน้าเว็บ BlackBerry World เปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว ส่วนมือถือและแท็บเล็ตยังต้องรอกันอีกสักหลายวันถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้

ดูเหมือนแผนจูงใจนักพัฒนาให้มาทำแอพลง BB10 ทั้ง BlackBerry JamHack และมาตรการการันตีรายได้ 10,000 เหรียญ ของ RIM จะได้ผลดี เพียงแค่ 36 ชั่วโมงหลังการเปิดให้ส่งแอพขึ้นรีวิวบน BlackBerry World ก็มีแอพจำนวนถึง 15,000 ตัวถูกส่งขึ้นไปแล้ว

โดยตัวเลขดังกล่าวมาจากทวีต ของ Alec Saunders รองประธานฝ่ายนักพัฒนาสัมพันธ์ที่กำลังดูแลคอมมิวนิตี้ BB10 อย่าง Port-A-Thon ที่เพิ่งเริ่มเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา

Frank Boulben ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ RIM ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ FierceWireless ว่าตลอดทั้งปี 2013 เราจะเห็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry 10 อย่างน้อย 6 รุ่นลงสู่ตลาด โดยเริ่มจาก 2 รุ่นแรกที่จะเปิดตัววันที่ 30 มกราคมนี้

เขายังบอกว่า RIM ไม่มีสัญญาพิเศษล็อคตัวเองกับโอเปอเรเตอร์รายใด ทำให้บริษัทสามารถวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ได้อย่างอิสระ และในอนาคต BB10 จะมีสินค้าครอบคลุมทุกระดับราคา

Boulben ยังให้ตัวเลขว่า BB10 มีแอพพร้อมเปิดตัวอย่างน้อย 70,000 แอพ และมีแอพครอบคลุม 90% ของ 600 แอพยอดนิยมในวงการมือถือเรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ใช้งาน BlackBerry ในปัจจุบันมีจำนวน 79 ล้านรายทั่วโลก