เมื่อ BlackBerry ออกมือถือที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android หลายคนอาจมีคำถามว่าปลอดภัยแค่ไหน วันนี้บริษัทออกมาประกาศนโยบายการออกแพตช์ของ BlackBerry Priv ดังนี้

• ออกแพตช์ความปลอดภัยให้ทุกเดือน ตามแนวทาง Android Monthly Security Updates ของกูเกิล
• ในกรณีที่มีช่องโหว่ร้ายแรง รอรอบอัพเดตประจำเดือนไม่ได้ บริษัทจะออก Hotfix ให้เป็นพิเศษ
• มีระบบควบคุมการติดตั้งแพตช์ให้กับเครื่องที่ใช้ในองค์กร เลือกว่าจะติดตั้งแพตช์อะไรกับเครื่องไหนบ้าง ผ่าน BlackBerry Enterprise Server (BES)

ที่มา - Inside BlackBerry

ตามสัญญา BlackBerry ออก BlackBerry Enterprise Services 12 (BES 12) บนแพลตฟอร์ม iOS, Android และ Windows Phone เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย BES 12 นั้นจะเน้นไปที่การจัดการอุปกรณ์ BYOD ที่กำลังนิยมในปัจจุบัน

คุณสมบัติเด่น ๆ ของ BES 12 นั้นเช่น การตั้งค่านโยบาย (policies), Wi-Fi และ VPN ของบริษัทโดยอัตโนมัติ, การจัดการที่ง่ายยิ่งขึ้น และสามารถใช้งานได้ทั้งแบบส่วนตัวและแบบองค์กรในเครื่องเดียวกันได้

BlackBerry ออกโซลูชันจัดการอุปกรณ์พกพาสำหรับลูกค้าองค์กร BES12 รุ่นสมบูรณ์ (ข่าวเปิดตัว BES12) โดยยังยึดแนวทางเดิมคือทำตัวเป็นระบบจัดการอุปกรณ์พกพาทุกค่าย และในเวอร์ชันล่าสุดก็ขยายมายังอุปกรณ์ฝังตัวจำพวก Internet of Things (IoT) ด้วย

BlackBerry ยังประกาศความร่วมมือกับซัมซุง ให้ BES12 ทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม KNOX ของซัมซุงให้ดีขึ้น โดย BES12 จะเข้าถึงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ Android ที่ KNOX รองรับ

นอกจาก BlackBerry Z3 และ BlackBerry Q20 วันนี้บริษัท BlackBerry ก็เปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านซอฟต์แวร์อีกหลายอย่างครับ

John Chen ซีอีโอของ BlackBerry ให้สัมภาษณ์กับ CrackBerry ย้ำทิศทางใหม่ของบริษัทที่กระจายตัวออกมาทำ 4 ธุรกิจ ต่างไปจากเดิมที่เกาะกับธุรกิจการขายเครื่องโทรศัพท์เพียงอย่างเดียว รายละเอียดของแต่ละธุรกิจมีดังนี้

Enterprise

เขาบอกว่าธุรกิจองค์กรเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นกิจการของ BlackBerry ในปีนี้ โดยเป้าหมายเร่งด่วนของบริษัทคือทำให้ลูกค้าองค์กรกลับมาสนใจโซลูชันของ BlackBerry อีกครั้ง และเท่าที่เขาคุยกับลูกค้ารายใหญ่มา สัญญาณยังเป็นไปในทางบวกว่าระบบความปลอดภัยของ BlackBerry เหนือกว่าคู่แข่ง

BlackBerry ออกซอฟต์แวร์บริหารจัดการอุปกรณ์พกพาในองค์กร BlackBerry Enterprise Service (BES) เวอร์ชันใหม่ 10.2 โดยมีฟีเจอร์เพิ่มเติมดังนี้

• ขยายการรองรับอุปกรณ์แพลตฟอร์มอื่นๆ มากขึ้น โดยรองรับฟีเจอร์ background email sync ของ iOS 7, เพิ่ม API การจัดการ iOS/Android
• ปรับปรุงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย Secure Work Space ให้สามารถบริหารจัดการได้บนอุปกรณ์ iOS/Android
• รองรับการบริหารจัดการอุปกรณ์สูงสุด 100,000 ตัวต่อหนึ่งโดเมน โดยจะเป็นอุปกรณ์ BlackBerry, iOS, Android ได้ทั้งหมด

ในโอกาสเดียวกัน บริษัทยังเพิ่มโครงการ BlackBerry Software Assurance ที่ช่วยให้ลูกค้า BES เวอร์ชันเก่าๆ สามารถอัพเกรดเป็น BES10 ได้ง่ายขึ้น

ถ้ายังจำกันได้ BlackBerry มีซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้บริการจัดการมือถือจากระยะไกลคือ BES (BlackBerry Enterprise Service) ซึ่งใน BES 10 รุ่นล่าสุด ก็ขยายความสามารถให้บริการจัดการอุปกรณ์ Android/iOS ได้ด้วย

วันนี้ BlackBerry ประกาศทำ BES เวอร์ชันโฮสต์บนกลุ่มเมฆแล้ว ทำให้การบริหารจัดการอุปกรณ์ BYOD ในองค์กรไม่จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในองค์กรอีกต่อไป ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ต่างจาก BES รุ่นปกติมากนัก ส่วนราคาก็ใช้วิธีคิดเป็นต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งทาง BlackBerry ยังไม่ประกาศว่าเท่าไร

ที่น่าสนใจคือ BlackBerry ยังไม่ประกาศชื่อของบริการตัวนี้ ตอนนี้ยังเรียกมันคือว่า "cloud service" ครับ (ดูแนวแล้วอาจไม่ใช้ชื่อ BES เลยด้วยซ้ำ)

ใกล้ถึงนัดหมาย 30 มกราคมเปิดตัว BlackBerry 10 อย่างเป็นทางการ ค่าย RIM ก็ค่อยๆ ปล่อยจิ๊กซอของแพลตฟอร์ม BB10 ออกมาทีละชิ้น

ก่อนหน้านี้เราเห็น BlackBerry World ไปแล้ว คราวนี้เป็นคิวของซอฟต์แวร์ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ BlackBerry Enterprise Service 10 (BES 10) ที่เคยมีข่าวมาแล้วหลายรอบ

BES 10 เป็นซอฟต์แวร์ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการอุปกรณ์พกพาแบบครบวงจร โดยครอบคลุม BlackBerry ทุกเวอร์ชัน (รวม PlayBook) และมือถือค่ายอื่นทั้ง iOS/Android

ช่วงหลังมานี้มีข่าวลือของ BES 10 ออกมาหลายครั้ง วันนี้ทาง RIM ออกมาแถลงข้อมูลอย่างเป็นทางการของ BES 10 แล้ว

อย่างแรกที่สำคัญแต่หลายคนอาจมองข้าม (ผมก็อ่านข้ามในตอนแรก) คือชื่อเต็มของ BES เปลี่ยนมาเป็น BlackBerry Enterprise Service (ไม่ใช่ Server อีกแล้ว) ส่วนตัวย่อยังใช้เป็น BES เหมือนเดิม

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนว่า BES 10 ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์เดี่ยวๆ เหมือนกับ BES 5.x อีกแล้ว เนื่องจากมันมีองค์ประกอบเพิ่มเข้ามาหลายอย่างจนต้องเรียกเป็น Service แทน

เว็บไซต์ BGR รายงานข่าวลือจากวงในว่า RIM มีนโยบายหยุดพัฒนาอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญอย่าง BlackBerry Enterprise Server (BES) รุ่นที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (5.0.x) โดยจะเหลือแค่การออกแพตช์ด้านความปลอดภัย

เหตุผลที่วงในบอกมาคือ RIM มีผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์องค์กรรุ่นใหม่ที่เรียกกันภายในว่า "NG" (next generation) ซึ่งยุทธศาสตร์การพัฒนาคือเป็นเทคโนโลยียุคใหม่ของบริษัทเช่นเดียวกับ BB10 ที่เป็นเทคโนโลยีฝั่งไคลเอนต์นั่นเอง

ในแง่เทคโนโลยีคงไม่มีประเด็นว่าเราจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใหม่กว่าเดิม ฟีเจอร์เยอะกว่าเดิม แต่ปัญหาคือองค์กรจำนวนมากในโลกยังใช้งาน BES กันอยู่เยอะ และถ้าข่าวเป็นจริงมันจะใช้ได้กับแค่ BB7 ลงไปเท่านั้น (แถมยังไม่มีข้อมูลว่า NG ใช้กับ BB7 ได้ด้วยหรือเปล่า?)

ข่าวนี้เป็นความเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์ของ RIM ที่น่าสนใจมากครับ

จุดแข็งของแพลตฟอร์ม BlackBerry ที่ผ่านมาโดยตลอดคือการใช้งานในองค์กร ซึ่งมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย การเข้ารหัสข้อมูล การดูแลจากระยะไกล ฯลฯ (ต้องทำงานร่วมกันระหว่างตัวมือถือ BlackBerry และเซิร์ฟเวอร์ BES) แต่ตอนหลังเราก็เห็นข่าวว่ามือถือแพลตฟอร์มอื่นๆ โดยเฉพาะ iOS/Android เริ่มเจาะตลาดเดิมของ RIM มากขึ้นเรื่อยๆ (ถึงแม้ว่าจะมีฟีเจอร์ด้านองค์กรเยอะไม่เท่า BlackBerry ก็ตาม)

นี่คือวิกฤตหรือโอกาส? อันนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่ท่าทีของ RIM รอบนี้ บริษัทมองว่ามันคือ "โอกาส"

ตลาดองค์กรยังเป็นจุดแข็งของ BlackBerry อยู่ไม่น้อย (แม้จะโดน iPhone รุกในตลาดนี้พอสมควร) ทางบริษัทแม่อย่าง RIM ก็มีแผนสำหรับตลาดองค์กรในปี 2011 ดังนี้

จากข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม สำหรับแผนการบูรณาการ Google Apps เข้ากับ BlackBerry Enterprise Server (BES) ของ Google ขณะนี้ผู้ใช้บริการ Google Apps รุ่น Premier และ Education สามารถดาวน์โหลดตัว Google Apps Connector for BlackBerry Enterprise Server ได้ฟรี ทั้งนี้จะทำให้ผู้ใช้ BES สามารถใช้งานความสามารถพิเศษของ BES กับ Google Apps ได้เต็มที่ อาทิเช่น