จากบัญชี X ทางการของ Bravely Default โพสต์ฉลองครบรอบ 3 ปีของการวางจำหน่ายเกม Bravely Default 2 พร้อมขอบคุณผู้เล่น และเขียนข้อความต่อว่า ปีนี้ทีมงานจะเผยข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับซีรีส์ Bravely Default ที่กำลังพัฒนาอยู่โปรดรอติดตามข่าวสารกันต่อไป เขียนโดย Tomoya Asano โปรดิวเซอร์ของซีรีส์

ซีรีส์ Bravely Default เป็นเกมแนว JRPG พัฒนาโดย Square Enix เริ่มต้นบน Nintendo 3DS ในปี 2012 เกมภาคต่อชื่อ Bravely Second: End Layer วางจำหน่ายในปี 2015 บน 3DS ส่วนเกมภาคล่าสุดคือ Bravely Default 2 วางจำหน่ายในปี 2021 บน Nintendo Switch และ PC

การเลื่อนวันวางขายเกมดูจะเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในปี 2020 ล่าสุดนินเทนโดและ Square Enix ประกาศเลื่อนวันวางขายเกม Bravely Defaults ที่เดิมมีกำหนดลง Switch ภายในปีนี้ ไปเป็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2021 โดยให้เหตุผลสั้นๆ ว่าต้องการเวลาเพิ่มขึ้นในการพัฒนาเกมให้ดีที่สุด

ซีรีส์ Bravely Default เป็นเกมแนว J-RPG ผลงานของ Silicon Studio โดยมีเกมออกมาแล้ว 2 ภาคคือ Bravely Default: Flying Fairy ภาคแรกในปี 2012 (3DS) และ Bravely Second: End Layer ในปี 2015 (3DS) ซีรีส์นี้ได้ Square Enix เป็นผู้จัดจำหน่ายในญี่ปุ่น และนินเทนโดจัดจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น

Bravely Default เป็นเกม RPG ที่เคยสร้างชื่อบน Nintendo 3DS (ออกปี 2012) จนต้องมีภาคต่อตามมาในชื่อว่า Bravely Second: End Layer (ออกปี 2015)

แต่ต้นสังกัด Square Enix ก็ประกาศเซอร์ไพร์สในงาน The Game Awards 2019 เมื่อวานนี้ โดยเปิดตัว "ภาคต่อ" อีกภาคที่ใช้ชื่อตรงๆ ว่า Bravely Default II ลง Nintendo Switch ในปี 2020 (สร้างความสับสนไม่น้อยว่าตกลงอันไหนคือภาคสองกันแน่)

ข้อมูลจากเทรลเลอร์ของเกม ยังบอกแค่ว่าเป็นการเดินทางของฮีโร่แห่งแสงแบบเดียวกับเกมสองภาคก่อนหน้า แต่คาดว่าจะเป็นเนื้อเรื่องใหม่ ฮีโร่ใหม่ ในจักรวาลใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสองภาคแรกเลย

Silicon Studio ผู้สร้างเกม RPG ชื่อดังอย่าง Bravely Default ขยายธุรกิจใหม่เพิ่มเติม หันมาขายเอนจินเกมเพิ่มอีกอย่างหนึ่ง

เอนจินตัวนี้ชื่อว่า Xenko Game Engine ใช้ภาษา C# และสามารถสร้างเกมได้หลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งเกมพีซี คอนโซล มือถือ (ยกเว้น Nintendo Switch ที่ยังไม่รองรับในตอนนี้) รองรับการทำงานแบบมัลติเธร็ด มี API ใหม่ๆ อย่าง Vulkan และ DirectX 12 รวมถึงการสร้างเกมแบบ VR ด้วย

Xenko เป็นเอนจินโอเพนซอร์ส เปิดรุ่น Personal ให้นักเรียนและคนทั่วไปใช้งานฟรี สำหรับสตูดิโอที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ต้องเสียค่าใช้งานรุ่น Pro เดือนละ 75 ดอลลาร์ต่อนักพัฒนาหนึ่งคน และมีรุ่นใหญ่ Pro Plus ราคา 150 ดอลลาร์ต่อเดือน

สำหรับคนที่อดทนรอ Bravely Second: End Layer เกม RPG เลือดใหม่จาก Square Enix เวอร์ชันภาษาอังกฤษ ล่าสุดทางนินเทนโดยืนยันวันวางขายของตัวเกมพร้อมรายละเอียดของรุ่นสำหรับนักสะสมมาให้แล้ว

สำหรับตัวเกมเวอร์ชันอเมริกาเหนือจะเปิดขายในวันที่ 15 เมษายนนี้ ซึ่งช้ากว่าเวอร์ชันยุโรปไปถึงเดือนกว่าๆ (ยุโรปขาย 26 กุมภาพันธ์) ซึ่งผู้ที่ซื้อเวอร์ชันสำหรับสะสมจะได้แผ่นรวมเพลงประกอบ 10 เพลง หนังสือภาพ 250 หน้า แต่ไม่มีฟิกเกอร์อาเนียสมาให้เหมือนกับเวอร์ชันยุโรป

พร้อมกับวันวางขาย Square Enix ยังเผยข้อมูลของเกม Bravely Second ตัวเดโม ซึ่งเล่นได้ยาว 10 ชั่วโมงโดยไม่กระทบเนื้อเรื่องหลัก และจะได้โบนัสไปยังตอนเล่นจริงด้วย แต่ยังไม่ประกาศว่าเดโมจะมาเมื่อไร (น่าจะก่อนขายจริง 1 เดือน)

รับการวางขายของ Bravely Second: End Layer เกมภาคที่สองของซีรีส์ Bravely Default ที่เพิ่งวางขายในญี่ปุ่นไปเมื่อวาน Tomoya Asano ผู้กำกับของภาคนี้ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารเกม Famitsu ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้

Asano บอกว่า Bravely Second ใส่ไอเดียเข้าไปเยอะกว่าเดิมมาก ทั้งในแง่ของเนื้อเรื่อง และระบบการเล่น ส่วนตัวเขาคิดว่ารับผิดชอบโปรเจคนี้มากกว่าภาคก่อนอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ตัวเกมจึงค่อนข้างยาวพอสมควร ตัวเขาเองเล่นเกมนี้จบใช้เวลาราว 70 ชั่วโมง แต่สำหรับตัวเนื้อเรื่องหลักน่าจะใช้เวลาราว 50 ชั่วโมง รวมกับเนื้อเรื่องย่อยต่างๆ ปลดล็อกอาชีพ และเก็บเลเวลทั้งหมดน่าจะกินเวลามากกว่า 100 ชั่วโมงได้ง่ายๆ

เพิ่งมีภาพของ Bravely Second ภาคต่อของเกม RPG แนวต้นตำรับจาก Square Enix ที่ทำลงเครื่อง 3DS ซึ่งภาคแรกนั้นทำผลงานได้ดีพอสมควร (ภาคแรกชื่อ Bravely Default: Flying Fairy) ตอนนี้เปิดตัวทีเซอร์แรกของภาคสองมาแล้วครับ

ทีเซอร์ในภาคสองเริ่มต้นด้วยภาพร่างของเมืองในเรื่อง และตัวเอกในภาคนี้อย่าง Magnolia Arche นักล่าปีศาจจากดวงจันทร์ โดยมีภาพทั้งสองมิติ โมเดลสามมิติ และเสียงพากย์ญี่ปุ่นมาพร้อมกันเลย