หนึ่งในผู้ผลิตกล้อง DSLR รายใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง Canon ได้ทำการจดสิทธิบัตรเทคโยโลยีใหม่ที่สามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องลิขสิทธิของภาพถ่าย
โดยเทคโนโลยีนี้จะทำการอ่านม่านตาของตากล้องที่ได้ถ่ายรูปนั้นผ่าน Viewfinder จากนั้นก็จะทำการ Watermark ข้อมูลที่อ้างอิงได้จากม่านตานั้นใส่ลงไปใน Metadata ของทุก ๆ รูปภาพที่ตากล้องคนนั้นได้ถ่าย เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของเจ้าของภาพที่นำภาพของตนขึ้นสู่อินเทอร์เน็ต
เทคโนโลยีการ Watermark นั้นคาดว่าจะถูกนำมาใช้มากขึ้นในการแก้ไขปัญหาละเมิดลิขสิทธิ ก่อนหน้านี้ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่รายหนึ่งก็ได้ใช้วิธีเดียวกันโดยการ Watermark ข้อมูลต่าง ๆ ลงไปในไฟล์เพลง MP3
พลังจากที่วางตลาด EOS 400D ให้สาวกช้ำใจกันไปแล้วครั้งหนึ่ง แคนนอนยังคงเดินหน้าอัพเกรดกล้อง DSLR รุ่นเล็กสุดในตระกูลเลขสามตัวอย่างรวดเร็ว ล่าสุดในงาน PMA 2008 แคนนอนก็เปิดตัว EOS 450D อย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่าเมื่อครั้งวางตลาด 400D ค่อนข้างมาก
รอบนี้ EOS 450D มาพร้อมกับหน้าจอ Live-view ขนาด 3 นิ้ว, เซ็นเซอร์ 12.2 ล้านพิกเซล, ช่องมองภาพที่ใหญ่ขึ้นจนเกือบเท่ากับ EOS 30D, พร้อมๆ กับเปลี่ยนฟอร์แมตจาก CF ไปเป็น SDHC ที่ราคาถูกและได้รับความนิยมสูงกว่า, และรองรับการถ่ายภาพความเร็วสูงที่ 3.5 ภาพต่อวินาทีต่อเนื่องถึง 53 ภาพสำหรับ JPEG และ 6 ภาพสำหรับ RAW
แคนนอนประกาศยอดการผลิตกล้อง SLR ในตระกูล EOS ว่าเพิ่งผ่านตัวที่ 30 ล้านไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกล้องตระกูล EOS นี้เริ่มสายการผลิตในปี 1987 และผลิตครบ 20 ล้านตัวไปเมื่อปี 2003 นั่นคือ ภายในสี่ปีที่ผ่านมา แคนนอนผลิตกล้อง SLR (ซึ่งน่าจะเป็นดิจิตอลหมดแล้ว) ได้ถึง 10 ล้านตัว
วันก่อนเห็น 350D ขายมือสองกันไม่ถึง 15,000 เทคโนโลยีนี่มันน่ากลัวจริงๆ
ที่มา - Fox Business
กล้อง EOD-1D Mark III ถือเป็นกล้องรุ่นสูงสุดของแคนนอนในตอนนี้เริ่มได้รับการยืนยันว่ามีปัญหาบางส่วนในระบบโฟกัสทำให้ไม่สามารถโฟกัสภาพได้อย่างถูกต้องในบางเงื่อนไข โดยเฉพาะเมื่ออากาศร้อนทำให้ระบบ AI Servo ทำงานผิดพลาดแม้วัตถุจะไม่ได้เคลื่อนที่ไปมากนัก โดยทางแคนนอนเชื่อว่ามีกล้องเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้
แคนนอนประเทศจีนประกาศเรียกคืนกล้อง A650 IS เนื่องจากมีอาการแสงรั่วเข้าสู่เซ็นเซอร์ขณะที่ถ่ายภาพในแสงจ้า ทำให้มีแสงบางส่วนรั่วเข้าไปสู่ตัวเซ็นเซอร์ได้ โดยในตอนนี้การเรียกคืนยังจำกัดอยู่เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น โดยยังไม่มีรายงานว่าประเทศอื่นๆ จะมีการเรียกคืนแแบบเดียวกันหรือไม่
ว่าจะซื้อมาใช้อยู่เลย....
ที่มา - Engadget, Canon (China)
ข้อด้อยอย่างหนึ่งของแคนนอนต่อคู่แข่งหลายๆ ค่ายคือการที่ไม่ยอมพัฒนาเทคโนโลยี Anti-Shake ที่ใช้การเคลื่อนตัวของเซ็นเซอร์เพื่อชดเชยความสั่นไหวของตัวกล้อง ซึ่งจะส่งผลต่อเลนส์ทุกตัวให้ทนต่อความสั่นไหวได้ดีขึ้น โดยแคนนอนเชื่อว่าเทคโนโลยีนี้ไม่มีทางดีไปกว่าการใช้เทคโนโลยี Image Stabilizer (IS) ที่ใช้การเคลื่อนตัวเลนส์เพื่อชดเชยความสั่นไหวไปได้
ปัญหาคือในตอนนี้เองเทคโนโลยี IS นั้นมีใช้งานเฉพาะในเลนส์ราคาแพง (เกิน 20,000 บาท) เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าข้อด้อยนี้กำลังถูกกำจัดไปเมื่อทางแคนนอนได้พัฒนาชุดกลไกเทคโนโลยี IS ขึ้นใหม่เพื่อใช้ในเลนส์ราคาถูกของทางแคนนอนเอง
หลังจากเป็นข่าวลือมาพักใหญ่ๆ แคนนอนก็เปิดตัวสองกล้องรุ่นใหญ่ตามคาดการณ์แล้ว แม้จะหักธงหลายๆ สำนักที่ว่าจะมีการเปิดตัวกล้องเหล่านี้ตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กล้องสองตัวที่จะวางตลาดนั้นคือ 1Ds Mark III และ 40D
EOS-1Ds Mark III นั้นเป็นกล้องรุ่นสูงสุดของแคนนอนในตอนนี้ มาพร้อมกับ CMOS ขนาด 21.1 ล้านพิกเซล ที่ให้ความละเอียดแสง 14 บิต, ชิปประมวลผล DiGiC III, จอภาพขนาด 3 นิ้วพร้อม Live View, จุดโฟกัส 45 จุด (เลือกได้เอง 19 จุด) และรองรับการ์ดแบบ UDMA CF ที่ให้ความเร็วสูงมาก
หลังจากปล่อยแฟนๆ รอกันมานานเกินคาด โดยที่หลายๆ คนโล่งใจว่าราคากล้องของตัวเองจะไม่ตกเร็วเกินไปมาได้พักใหญ่ๆ ดูเหมือนว่าแคนนอนกำลังจะเปิดตัว EOS 40D ในเร็วๆ นี้แล้ว เมื่อชื่อของมันถูกระบุจากทาง CIPA ว่าเป็นกล้องตัวล่าสุดของแคนนอนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน PictBridge
รายการจากทาง CIPA เพิ่งได้รับการอัพเดตไปเมื่อวันก่อน และยังไม่มีการยืนยันว่ารายการนี้เป็นความผิดพลาดในการประสานงานที่ไม่รอการเปิดตัวกล้อง หรือเป็นการพิมพ์ผิด
หรือไม่ก็ไม่มีใครสนใจจะปกปิดการเปิดตัวสินค้าแบบแอปเปิล?
หลายๆ คนที่ตามข่าวกล้องดิจิตอลมาเรื่อยๆ คงรู้กันว่าแคนนอนนั้นมีแนวทางการใช้งานเซ็นเซอร์ที่ต่างจากผู้ผลิตรายอื่นๆ เพราะแคนนอนนั้นใช้งานเซ็นเซอร์ในเทคโนโลยี CMOS เป็นหลัก ต่างจากเจ้าอื่นๆ ที่ใช้ CCD แทบทั้งหมด แต่การใช้งาน CMOS ในทุกวันนี้เองทางแคนนอนก็ยังใช้งานเฉพาะในกล้อง DSLR และกล้องคอมแพคระดับสูงเท่านั้น เนื่องจากกำลังผลิตมีจำกัด โดยกล้องรุ่นเล็กจะมีการสั่ง CCD จากผู้ขายรายอื่นๆ เช่น โซนี่ มาใช้ในการผลิตแทน
แต่หลังการเปิดตัวโรงงานแห่งใหม่ แคนนอนจะมีกำลังการผลิต CMOS ต่อปีเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว จากเดิมสามล้านชิ้นต่อปีกลายเป็น 6 ล้านชิ้นต่อปีโดยประมาณ ทำให้มีแนวโน้มว่าแคนนอนกำลังเตรียมตัวเปลี่ยนเซ็นเซอร์มาใช้งาน CMOS มากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับตลาดกล้องดิจิทัลในบ้านเรานั้น กล้อง Compact สำหรับคนที่สนใจการถ่ายภาพอย่างจริงจังแต่งบน้อยจะมองอันดับแรกๆ คือกล้องพวกซูม 10-12 เท่า (Super Zoom) ทั้งหลาย ที่ยังขายดีอยู่แม้ว่าตลาดกล้อง DSLR จะเริ่มมีส่วนแบ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม ซึ่งในตอนนี้ Canon ก็ปล่อยกล้อง Super Zoom พร้อมระบบกันสั่นตัวใหม่อย่าง S5 IS ออกมาแล้วครับ
สำหรับ S5 IS นั้นมีรายละเอียดดังนี้
แคนนอนออกมาย้ำความเป็นที่ 1 แห่งโลกกล้องดิจิทัลอีกครั้งกับ EOS-1D Mark III ซึ่งเป็นกล้องระดับบนที่เน้นสายงานนักข่าวที่ต้องการความรวดเร็วในการใช้งาน มีความรายละเอียดหลักๆ ดังนี้ครับ
พร้อมกันนี้ยังได้ปล่อย เลนส์ EF 16-35mm f/2.8L II USM และ แฟลช Speedlite 580EX II ออกมาพร้อมๆ กัน
มีเร่ืองโน้ตบุ๊กระเบิดมาทั้งปี ตอนนี้วงการกล้องดิจิตอลอาจจะร่วมวงไปด้วย เมื่อแคนนอนออกประกาศเตือนผู้ใช้ว่ากล้อง Canon A530 และ A540 มีปัญหาในสายการผลิตทำให้กล้องมีความร้อนสูงกว่าปรกติ ทำให้ประสิทธิภาพกล้องลดลง ภาพสูญเสียรายละเอียด เรื่องนี้แคนนอนแจ้งว่าผู้ใช้ที่พบปัญหาสามารถติดต่อศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนกล้องตัวใหม่ได้ฟรี
ปัญหานี้เกิดกับกล้องรุ่นดังกล่าวบางตัวที่มีหมายเลขเครื่องที่นำหน้าด้วย 21, 22, 23 และ 24 โดยปัญหาเกิดจากสปริงในส่วนบานพับฝาปิดแบตเตอรี่ที่มีสริงยื่นออกมาถูกส่วนขั้วแบตเตอรี่
เผื่อใครกังวล ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีกล้องตัวไหนระเบิดแต่อย่างใด
หลังจากคู่แค้นอย่างนิคอนปล่อย D80 ออกมาลดกระแสโซนี่ A100 แคนนอนก็ปล่อยกล้อง DSLR ตัวต่อจาก 350D ที่ประสบความสำเร็จอย่างถล่มถลายออกมาแล้วครับกับ EOS 400D
ตอนนี้มีเปิดเผยรายละเอียดคร่าวๆ คือ CMOS ความละเอียด 10.1 ล้าน pixel, ใช้ DiG!C II เป็นโปรเซสเซอร์, ISO 100-1600, มีระบบ Picture Style เช่นเดียวกับ EOS 5D กับ 30D, จอข LCD ขนาด 2.5 นิ้ว และที่พิเศษคือมีระบบขจัดฝุ่น Anti Dust!!! เป็นตัวแรกของแคนนอน !!!
หลังจากนิคอนประกาศยุติไปเมื่อปีที่แล้ว เพื่อนรักเพื่อนแค้นอย่างแคนนอน ก็กำลังตัดสินใจอยู่เหมือนกันครับว่าจะยุติการผลิตกล้องฟิล์มเหมือนกันดีรึเปล่า
เหตุผลครั้งนี้ก็เนื่องด้วยตลาดกล้องฟิล์มที่ซบเซาลงไปมากๆ นั่นเอง โดยกล้องฟิล์มตัวสุดท้ายของแคนนอนคือรุ่นเล็กอย่าง EOS300X ครับ
แน่นอนว่าถ้ายุติจริงๆ ตลาดมือสองในไทยคงคึกคักน่าดู การฟาดฟันระหว่าง EOS 3X vs F80, EOS 3 vs F100 และ EOS 1V vs F6 น่าจะสนุกกันกว่านี้
ถ้าได้ EOS 1V ราคาถูกมาๆยอมย้ายค่ายเลยเอ้า :P
ก่อนงาน PMA2006 จะเริ่ม บรรดาบริษัทกล้องก็ทยอยยั่วน้ำลายช่างภาพทั่วโลกด้วยการเปิดตัวกล้องออกมาเป็นระยะ ก่อนหน้านี้ไม่ได้รายงานข่าวของยี่ห้ออื่น เพราะส่วนมากออกตัวกลางถึงเล็ก แต่กับแคนนอนนั้น คงละเลยไม่ได้ เพราะในที่สุด กล้องระดับกลางซึ่งให้ EOS 20D ทำหน้าที่นี้มานาน ก็ได้เวลาปลดระวางไปแล้วให้รุ่นน้องอย่าง 30D มาทำงานแทนแล้วในที่สุด
จากเดิมสีที่เราเห็นบนหน้าจอกับเวลาปรินท์นั้นมักจะออกมาคนละเรื่องกันเลย Microsoft เลยจับมือกับ Canon ร่วมกันพัฒนา Windows Color System สำหรับจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ
รู้สึก OS X จะมีระบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ
DPReview มีรายงานถึงกล้องดิจิตอลชุดใหม่ยกชุดที่ออกมาตามวาระ โดยออกมามันทุกรุ่นตั้งแต่หัวรบใหญ่อย่าง EOS-1D Mark IIn ไปจนถึงน้องเล็กอย่าง A410 โดยยกเว้นเพียงกล้อง SLR รุ่นเล็กซึ่งยังคงให้ EOS 350D ทำงานต่อไป
สำหรับแฟนๆ แคนนอนคงไม่มีเรื่องอะไรใหญ่เกินการมาถึงของ EOS-5D ซึ่งเป็นกล้องสมัครเล่นระดับจริงจังตัวล่าสุดที่ไม่มีตัวไหนมาแทน 10D นานมากแล้ว แม้ราคาจะน่าสยองสักหน่อยที่ 3299 ดอลล่าห์
มีหลายตัวเขียนถึงไม่หมด แต่ผมว่าชุด A610 กับ A620 น่าสนใจมาก
ผลประกอบการของสองบริษัทยักษ์ใหญ่คือ แคนนอนและซันโยให้ผลที่ตรงกันครับ คือความต้องการของตลาดในปีนี้ต่ำกว่าที่คาดกันไว้ แต่แนวโน้มโดยรวมของตลาดก็ยังคงโตกว่าปีที่แล้วมามาก
แต่ในเรื่องผลกำไรนั้นทางซันโยตกลงพอสมควร โดยให้เหตุผลไว้ในเรื่องของค่าวัตถุดิบที่แพงขึ้น และราคาสินค้าที่ตกลงอย่างรวดเร็ว ส่วนทางแคนนอนนั้นกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 40% พร้อมกับยอดขายที่คาดว่าในปีนี้จะไปถึง 14.7 ล้านหน่วย ต่ำกว่าการคาดการตอนต้นปี 5 แสนหน่วย แต่ในขณะที่ปีที่แล้วขายได้เพียง 8.7 ล้านหน่วยเท่านั้น
วันนี้แคนนอนได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลตัวท๊อปรุ่นล่าสุด EOS-1 Ds Mark II
ตัวนี้เป็นคนละตัวกับตัวที่แล้วที่เป็น 1D เฉยๆนะครับ เพราะมีตัว s เข้ามาด้วย ซึ่งการอัปเกรดครั้งนี้ก็เป็นการอัปเกรดตามปรกติล่ะครับ โดยมีเรื่องที่เราๆ ท่านๆ ไม่ค่อยได้ใช้กันเช่นความเร็วในการถ่าย
แต่ที่ผมสะดุดในข่าวนี้คือมีการเปิดตัวการ์ดไวร์เลสสำหรับกล้องที่ชื่อว่า WTF-E1 เข้ามาด้วย โดยตัวการ์ดนี้จะเพิ่มความสามารถในการรองรับ Wireless LAN และ LAN ธรรมดาให้กับกล้องด้วย