สตีฟ บัลเมอร์ให้สัมภาษณ์ถึง Vista/Windows 7 โดยย้อนไปกล่าวถึง Vista ว่า
"เสียงตอบรับในทางลบเมื่อครั้งเปิดตัว Vista เป็นเพราะเราตัดสินใจออกแบบระบบปฏิบัติการให้มีความปลอดภัยสูงขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเข้ากันได้ที่ลดลง ผมไม่คิดว่าเราจะกลับมามีชื่อเสียงดีเหมือนเดิมได้ ถ้ามองเฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้บอกต่อๆ กัน"
อย่างไรก็ตามบัลเมอร์หวังว่าการออก Windows 7 จะช่วยบรรเทาชื่อเสียงที่ย่อยยับลงไป โดยเฉพาะคนที่ลง Windows 7 ทับ Vista บนฮาร์ดแวร์เดิม ซึ่งจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
ในขณะที่ทั่วทั้งโลกกำลังให้ความสนใจกับการมาของ Windows 7 และ MS Office 2010 แต่ทว่ากลับมีรายงานของกองทัพสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในกองทัพไปเป็น Windows Vista
นอกจากการเปลี่ยนไปใช้ Windows Vista แล้วยังเปลี่ยน MS Office 2003 เป็น MS 2007 อีกด้วยและคาดว่าการเปลี่ยนแปลงระบบจะเริ่มต้นตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป
โดยเหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ Windows Vista เนื่องจากมีการทดสอบว่าระบบปฏิบัติการนี้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม Army Golden Master ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะทางที่ใช้ภายในกองทัพสหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกับ Windows XP
หลายๆ คนที่ได้เคยใช้ Windows 7 รุ่นเบต้าแล้วนั้นคงมีความรู้สึกว่ามันเร็วกว่า Vista อย่างไรก็ตาม "ความรู้สึก" นี้อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงเสมอไปครับ
ทาง Gizmodo นั้นได้ทดสอบทั้ง Windows 7 RC1 และ Vista เปรียบเทียบกันบนเครื่องที่ใช้ Core 2 Duo, แรม 4 กิกะไบต์ (แต่เพราะวินโดวส์ที่ทดสอบนั้นเป็นรุ่น 32 บิตจึงถูกจำกัดเพียง 3 กิกะไบต์) และการ์ดกราฟฟิค GeForce 9600M GT ที่มีแรม 256 เมกะไบต์
หลังจาก Office SP2 เพิ่งจะออกมาได้ไม่นาน Vista SP2 RTM ก็ออกตามมาติดๆ เลยครับ แต่ดูๆ แล้ว Update ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เลย โดย Update หลักๆ นั้นแก้เรื่องของประสิทธิภาพ และความปลอดภัยทั่วๆ ไป และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ตามนี้ครับ:
Kevin Turner ผู้บริหารไมโครซอฟท์กล่าวในงาน MidMarket CIO Submmit เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมาระบุว่า Vista เป็นระบบปฎิบัติการที่ปลอดภัย และมีความเชื่อถือ มากที่สุดนับตั้งแต่ไมโครซอฟท์เริ่มทำระบบปฎิบัติการมา และไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นระบบที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลกอีกด้วย มากกว่าทั้ง Linux , Mac OS X ของ Apple และระบบปฎิบัติการแบบโอเพนซอร์สอื่นๆ
และบทเรียนทุกอย่างที่ไมโครซอฟท์ได้จาก Vista จะนำมาใช้ในระบบปฎิบัติการ Windows 7 ทั้งยังระบุอีกว่าแม้ Vista จะมีปัญหาในเรื่องความเข้ากันได้กับการทำงานแบบเดิมๆอยู่บ้าง เนื่องจากต้องหักดิบบางอย่างเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในการควบคุมการใช้งาน ซึ่งทำให้มีผลต่อการเติบโตของ Vista อยู่บ้าง
ถ้าใครยังพอจำกันได้ อดีตหัวหน้าทีม Vista ชื่อว่า Jim Allchin ซึ่งเป็นพนักงานเก่าแก่คนหนึ่งขององค์กร (ทำงานนาน 17 ปี ตำแหน่งสุดท้ายคือ Co-President, Platforms & Services Division ก็ระดับน้องๆ Ballmer เทียบได้กับ Kevin Johnson) และหลังจาก Vista เสร็จสมบูรณ์ในเดือนมกราคม 2007 เขาก็ประกาศเกษียณอายุตัวเอง และลาออกจากไมโครซอฟท์ (ข่าวเกษียณอายุ, ข่าวอื่นๆ ของ Allchin, อีกข่าว)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของพี่แกนั้นไม่ธรรมดา กลายเป็นว่าออกอัลบั้มเป็นของตัวเองซะอย่างงั้น!!!
วันนี้ไมโครซอฟท์ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้ออก Release Candidate ของ windows Vista และ Windows Server 2008 แล้ว โดยในช่วงแรกจะเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะสมาชิก TechNet และ MSDN ก่อน สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรออีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีกำหนดการออกตัวจริงภายในไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วย
โลโก้ Vista Capable ที่ออกมาก่อนการวางตลาดของวิสต้านั้นนับเป็นโลโก้ที่ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดอันหนึ่ง เพราะเอาเข้าจริงแล้วเครื่องที่มีโลโก้ Vista Capable นั้นจะทำงานได้กับ Vista Basic เท่านั้น แถมประสิทธิภาพไม่ดีนัก จนเกิดการฟ้องร้องกันยาวนานให้ไมโครซอฟท์ต้องชดเชยให้กับผู้บริโภคที่เข้าใจผิดว่าคอมพิวเตอร์ที่ติดตรง Vista Capable นี้จะสามารถใช้งานวิสต้าได้อย่างเต็มที่
แต่ล่าสุดศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ได้มีคำพิพากษาให้คดี Vista Capable นี้ตกไป เนื่องจากผู้ฟ้องไม่สามารถแสดงได้ว่าผู้บริโภคเสียเงินเพิ่มขึ้นจากตราที่ว่านี้อย่างไรบ้าง
ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวิสต้าหลายท่านคงเคยประสบกับปัญหาที่ว่า ไม่สามารถติดตั้งหรือรันโปรแกรมบางตัวได้บนวิสต้า แต่โปรแกรมเหล่านั้นกลับทำงานได้บนวินโดว์รุ่นเก่าๆ ซึ่งปัญหานี้อาจเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้กลุ่มหนึ่งถอดใจจากวิสต้าแล้วกลับไปใช้ Windows XP
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ไมโครซอฟท์ได้ส่ง Microsoft Enterprise Desktop Virtualization (หรือ MED-V) เวอร์ชัน 1 รุ่นเบต้าให้ดาวน์โหลดกันแล้ว โดย MED-V ใช้ความสามารถของ Microsoft Virtual PC ในการสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน และผู้ใช้สามารถเลือกระบบปฏิบัติการวินโดว์เวอร์ชันเก่าสำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์เสมือนนี้ได้ (เช่น Windows XP หรือ Windows 2000) ทำให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้สามารถรันวิสต้าและวินโดว์เวอร์ชันเก่าได้พร้อมๆกัน
มีข่าวลือจากเว็บไซต์ TechARP กล่าวว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แถม Vista ที่ถูกซื้อหลังจากวันที่ 1 กค. 2552 จนถึงวันที่ Windows 7 ออกนั้นจะสามารถเข้าร่วมโปรแกรมอัพเกรดของไมโครซอฟท์ได้ โดย
(ตารางและรายละเอียดสามารถดูได้จากที่มาครับ)
การอัพเกรดวินโดวส์นี้เป็นโปรแกรมที่คล้ายกันกับที่ไมโครซอฟท์ทำเมื่อตอนเปลี่ยนจาก Windows XP เป็น Vista โดยเมื่อดูจากเวลาแล้วคาดว่า Windows 7 น่าจะออกภายในช่วงเดือนกันยายน
Mike Nesh ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ออกมาเปิดเผยใน Windows Vista Team Blog ว่าไมโครซอฟท์กำลังจะแจก Vista SP2 ให้กับกลุ่มทดสอบกลุ่มแรกในวันที่ 29 ตุลาคมนี้ ฟีเจอร์ใหม่นอกจากการแก้ไขบั๊กและปรับปรุงด้านเสถียรภาพของระบบตามปกติ ยังมี
ส่วนวันที่ออกตัวจริงนั้น Mike Nesh บอกว่าขึ้นกับคุณภาพและผลตอบรับจากผู้ทดลองใช้ ผมเดาว่าอาจจะทันภายในปีนี้นะครับ
ไมโครซอฟท์เตรียมส่ง Vista Service Pack 2 รุ่นทดสอบ (Beta) ให้กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เลือกไว้ และตั้งใจออก Windows Vista SP2 ก่อนการเปิดตัว Windows 7 เพื่อไม่ทำให้ผู้ใช้สับสนว่าควรเปลี่ยนไปใช้ Windows 7 หรือไม่
ตามแผนของไมโครซอฟท์นั้นจะมีเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปทดลอง Windows 7 รุ่นทดสอบในกลางเดือนเดือนธันวาคม และหวังว่า SP2 ของ Windows Vista จะออกก่อนหน้านั้น
ที่มา - ZDnet Technology News
หลังจากที่พบว่าผู้ใช้ในองค์กรส่วนใหญ่ยังคงใช้ Windows XP อยู่ (ข่าวเก่า) แต่โปรโมชั่นการ Downgrade จาก Vista เป็น XP ตามกำหนดเดิมจะหมดในวันที่ 31 มกราคมปีหน้านั้น ตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ออกมาขยายเวลาอีก 6 เดือนเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม ปีหน้าแล้ว
แหล่งข่าวจาก Microsoft บอกว่าการขยายเวลาดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถค่อยๆ เปลี่ยนมาใช้ Vista ได้สบายขึ้น "เราต้องการให้ผู้ใช้มั่นใจว่าการเปลี่ยนไปใช้ Vista นั้นทำได้อย่างมั่นใจและราบรื่นมากที่สุด การเพิ่มระยะเวลาในการ Downgrade จึงอยู่ในแผนการนี้ด้วย"
หลังจาก iTunes 8 ออกให้ดาวน์โหลดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ก็ได้มีรายงานจากผู้ใช้ Vista ที่ติดตั้ง iTunes 8 และเสียบ iPhone/iPod เข้ากับเครื่องว่า เกิดอาการจอฟ้า
ต้นเหตุของปัญหานี้คือไดรเวอร์ Apple Mobile Device Support ซึ่งเป็นไดรเวอร์สำหรับ USB ที่มาพร้อมกับตัวแพกเกจ iTunes อยู่แล้ว วิธีการแก้คือให้ถอนการติดตั้งทั้ง iTunes และไดรเวอร์ออก จากนั้นดาวน์โหลดไดรเวอร์ตัวใหม่ที่แอปเปิลเพิ่งอัพเดต แล้วติดตั้ง iTunes ใหม่อีกครั้งหนึ่ง (iTunes 8 เป็นรุ่นเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง)
คำถามที่น่าสนใจสำหรับวิชา OS คือ ไดรเวอร์ของแอปเปิลแครช Vista ได้อย่างไร (ดู User-Mode Driver Framework ประกอบ)
ถึงแม้ว่า XP จะไม่มีขายมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์อีกต่อไปแล้ว แต่มีข่าวว่าผู้ขายคอมพิวเตอร์อย่าง HP นั้นแอบขายเครื่องที่ติดตั้ง XP อย่างแอบๆ โดยอาศัยช่องโหว่ใน EULA ของ Vista บางรุ่น (Business และ Ultimate) ที่อนุญาตให้ดาวน์เกรดเป็น XP ได้
เว็บไซต์ Infoworld ซึ่งพัฒนาซอฟต์แวร์ Windows Sentinel สำหรับมอนิเตอร์สภาพเครื่องให้ดาวน์โหลดฟรี ได้ประมวลผลข้อมูลจากผู้ใช้ของตัวเอง พบว่ามีเครื่องจำนวนมากกว่า 3,000 เครื่องหรือ 35% ของผู้ใช้ Windows Sentinel ได้ดาวน์เกรดมาเป็น XP (หรือ Windows 2003/2008 ในบางกรณี)
นิวยอร์คไทมส์รายงานว่าแผนกไอทีของอินเทลพบว่าไม่มีความจำเป็นในการอัพเกรดไปใช้ Windows Vista
คงจะเป็นเรื่องธรรมดาหากบริษัทใด ๆ จะพิจารณาไม่อัพเกรดระบบปฏิบัติการไปสู่รุ่นล่าสุด แต่ทว่าในกรณีของอินเทลนี้ดูจะมีผลกระทบค่อนข้างมากเนื่องมาจากความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างไมโครซอฟท์กับอินเทลหรือที่รู้จักกันในชื่อ Wintel
หลังจากที่ Service Pack 3 ของ Windows XP ถูกระงับการเผยแพร่กระทันหันจากกำหนดการเดิม ในขณะนี้ชุดอัพเดทดังกล่าวรวมทั้ง SP1 ของ Windows Vista สามารถดาวน์โหลดผ่านทาง Windows Update และ Microsoft Download Center ได้แล้ว
หลายคนคงรู้จักกับ (PRODUCT) RED ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เชิญชวนผู้ผลิตรายต่างๆ มาร่วมกันสร้างผลิตภัณฑ์สีแดง และหักรายได้ส่วนหนึ่งเข้ากองทุนโรคเอดส์ ที่ผ่านมามีแบรนด์ดังหลายเจ้าออกผลิตภัณฑ์สีแดง เช่น มือถือจาก Motorola, บัตรเครดิต American Express, รองเท้า Converse และที่น่าจะเห็นกันบ่อยสุดคือ iPod nano
ในงาน RSA 2008 งานประชุมด้านความปลอดภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวแทนของไมโครซอฟท์ได้เปิดเผยว่า UAC (User Account Control) ของวิสต้านั้นถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้รำคาญตั้งแต่ต้น เพื่อจูงใจให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์คิดทบทวนก่อนขอสิทธิ์เพิ่มเติมจากระบบปฏิบัติการ
เป้าหมายของ UAC จึงแบ่งเป็นสองอย่าง อย่างแรกคือให้ผู้ใช้ได้พิจารณาว่ามีโปรแกรมอะไรแปลกๆ มาขอสิทธิ์หรือเปล่า ส่วนอย่างที่สองและสำคัญคือ ให้ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ลดการขอสิทธิ์ที่ไม่จำเป็น ซึ่งในทางอ้อมแล้วช่วยให้โปรแกรมปลอดภัยมากขึ้น
ถึงแม้ผู้ใช้จำนวนมากจะปิด UAC ทิ้งหลังลงวิสต้า แต่ไมโครซอฟท์ยกตัวเลขมาว่า 88% นั้นยังเปิดใช้ UAC อยู่
หลังจากมีข่าวว่าเข้าสายการผลิตไปเมื่อต้นเดือนก่อน (ข่าวเก่า) แต่เอาเข้าจริงก็ต้องเลื่อนซ้ำอีกรอบ ตอนนี้ไมโครซอฟท์พร้อมสำหรับ Vista SP1 ตัวจริงแล้ว
ผู้ใช้ Windows Vista สามารถเลือกอัพเดตได้จากทาง Windows Update หรือดาวน์โหลดได้โดยตรงจากเว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ ก่อนอัพเดตเป็น SP1 อาจจำเป็นต้องอัพเดตแพตช์บางตัวของ Vista ก่อน สำหรับรายละเอียดว่า Vista มาเป็น Vista SP1 มีอะไรบ้าง อ่านได้ในข่าวเก่า
จากรายงานของ InformationWeek ได้มีการกล่าวถึงนโยบายที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ของการลดราคาขายปลีกของระบบปฏิบัติการวินโดวส์วิสต้าจากไมโครซอฟท์
ในข่าวเก่า ได้มีการรายงานราคาใหม่ของวิสต้าในสหรัฐไปแล้ว แต่ในบางประเทศอย่างสหราชอาณาจักรนั้น ราคาเวอร์ชั่น Home Premium ลดลง 44% มาที่ 131.92 ปอนด์จาก 233.60 ปอนด์
โดยหลักการในการตั้งราคาใหม่นั้นขึ้นอยู่กับตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางตลาดที่มีการแข่งขันสูงจากกลุ่มซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ทำให้ในบางประเทศ ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องตัดราคามากถึง 48%
ไมโครซอฟท์ได้ตัดสินใจหั่นราคาขายปลีกของวินโดวส์วิสต้าแล้ว
โดยสำหรับสหรัฐอเมริกานั้น ไมโครซอฟท์จะลดราคาเฉพาะวิสต้ารุ่น Ultimate กับรุ่น Home Premium จาก $299 มาเป็น $219 และจาก $159 มาเป็น $129 ตามลำดับ
การตัดสินใจที่จะลดราคาลองของวินโดวส์วิสต้า ทำให้นักวิเคราะห์บางคน รู้สึกแปลกใจ โดยนักวิเคราะห์รายหนึ่งได้ออกมาบอกว่าเขาไม่สามารถจำได้แล้วว่า ไมโครซอฟท์เคยห่ันราคามากขนาดนี้เมื่อใด
ห้องแล็บของ eWeek ได้ทดสอบประสิทธิภาพของ Windows Vista SP1 (ซึ่งพึ่งออก RTM ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน - ข่าวเก่า) ซึ่งมีจุดขายสำคัญคือปรับปรุงประสิทธิภาพของการคัดลอกไฟล์
ผลลัพธ์ที่ได้คือ SP1 ดีกว่า Vista ต้นฉบับพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับ XP SP2 แล้วยังช้ากว่าอยู่เล็กน้อย
นอกจากประสิทธิภาพของการคัดลอกไฟล์แล้ว Vista SP1 ยังเปลี่ยนมาใช้เคอร์เนลตัวเดียวกับ Windows Server 2008 และรวมแพตช์ทั้งหมดของ Vista ที่เคยออกมาก่อนหน้านี้ไว้ให้แล้ว เป้าหมายหลักของ Vista SP1 เป็นกลุ่มผู้ใช้ในองค์กรที่รอ SP1 เพื่อเปลี่ยนรุ่นระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่ จึงไม่มีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาสำหรับผู้ใช้บุคคลทั่วไปครับ
หลังจากหลายคนรอคอยกันมานานวินโดวส์ วิสต้าก็มีรุ่นปรับปรุงรุ่นแรกเข้าสู่กระบวนการผลิตแล้ว ในวันนี้ โดยเชื่อว่าเป็นการส่งมอบให้กับผู้ผลิตพีซีเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการผลิต ก่อนที่จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้งานทั่วไปเข้าถึงได้ในภายหลัง พร้อมๆ กันนี้ Windows Server 2008 ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการเดียวกัน โดยตัวเซิร์ฟเวอร์จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 นี้ ส่วนวิสด้ารุ่นปรับปรุงนี้น่าจะเริ่มมีให้อัพเกรดกันในเดือนมีนาคม
หวังว่ามันจะกินแรมน้อยลง....
ล่าสุด ไม่โครซอฟท์ยอมให้รันวินโดวส์วิสต้าเวอร์ชั่น Home Basic และ Home Premium ในฐานะ Guest OS บน Virtual Machine แล้ว
เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศว่าตนเองจะไม่ยอมให้่มีการใช้ Virtualization กับวิสต้า แม้ว่าจะไม่มีสาเหตุว่าเพราะอะไร แต่ตอนนี้ไมโครซอฟท์ได้ออกมาเปลี่ยนใจอีกครั้ง
อันนี้เป็นข่าวดีสำหรับคนที่รัน Virtual Machine โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้วินโดวส์วิสต่าผ่าน Parallels หรือ VMware บนเครื่องแมคอย่างแน่นอน
ที่มา - C|net