Change.org กลับมาแล้ว หลังถูกปิดกั้นการเข้าถึงจากการที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอี ได้อาศัยอำนาจตามคำสั่งศาลสั่งปิดกั้นการเข้าถึง Change.org ทำให้ผู้ใช้งานในไทยไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ได้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี 2020 ล่าสุด Change.org กลับมาเข้าถึงได้แล้ว หลังต่อสู้ทางกฎหมาย ศาลได้มีคำสั่งให้ยกเลิกการปิดกั้นเว็บไซต์
วันนี้หลังกระทรวงดิจิทัลประกาศกำชับแนวทางการปิดกั้นข้อมูลตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็มีรายงานว่าเว็บ Change.org ถูกปิดกั้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผมทดสอบจาก AIS Fibre และ dtac ก็พบว่าถูกบล็อคทั้งคู่ โดย redirect 302 ไปยังไอพี 125.26.170.3
update: ข้อมูลจากคุณ icez พบว่า Change.org จาก https://change.org จะ redirect ไปยัง http://www.change.org เสมอ ทำให้เว็บเชื่อมต่อแบบไม่เข้ารหัสครั้งหนึ่งจนทำให้ระบบบล็อคเว็บสามารถตรวจพบ URL ได้
ยังไม่ทันที่ Google จะปล่อยใช้งานอีโมจิชุดใหม่ ก็มีผู้ใช้บน Twitter ชื่อ @SilverEzhik สร้างแคมเปญขึ้นใน Change.org เรียกร้องให้ Google นำอีโมจิแมวตัวเดิมกลับมา ซึ่งตอนนี้มีผู้ลงชื่อแล้วกว่า 400 คน
ในคำอธิบายของแคมเปญได้ระบุว่า "อีโมจิแมวตัวเก่ามีรอยยิ้มที่สวยงามราวกับแสงสว่างที่สดใสท่ามกลางเวลาที่มืดมน ฉันขอให้ Google พิจารณานำอีโมจิตัวเก่ากลับมาอีกครั้งเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนรวมใจกันได้จนทุกวันนี้"
Change.org เว็บไซต์รณรงค์คำร้องแบบออนไลน์ ประกาศปลดพนักงานเพิ่มอีกราว 100 คน หลังช่วงต้นเดือนปลดไปแล้วจำนวนหนึ่ง ทำให้ล่าสุดมีพนักงานที่ถูกปลดไปแล้วอย่างน้อยๆ 124 คน
การปลดพนักงานครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปรับโมเดลการหารายได้ จากเดิมที่รายได้ส่วนใหญ่ มาจากคำร้อง (petition) แบบสปอนเซอร์ จากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ อาทิ Oxfam และองค์กรแพทย์ไร้พรหมแดน ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
ขณะที่โมเดลการหารายได้ใหม่ จะเป็นการระดมทุนจากผู้ที่ลงชื่อยื่นคำร้อง ซึ่งจะช่วยให้คำร้องนั้นๆ ได้รับการเผยแพร่และมีคนเห็นมากขึ้น รวมถึงจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่อาศัยรูปแบบของการสมัครสมาชิกรายเดือน