ไมโครซอฟท์ประกาศรองรับ โปรโตคอล Agent2Agent (A2A) ของกูเกิล ที่ออกแบบมาให้ AI agent หลายๆ ตัวคุยกันเองได้
กูเกิลเปิดตัว A2A ในเดือนเมษายน โดยมีผู้สนับสนุนเป็นบริษัทไอทีใหญ่ๆ จำนวนมาก แต่ในบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ generative AI มีไมโครซอฟท์เป็นรายแรกที่ขยับตัวก่อน ประกาศสนับสนุน A2A แล้ว โดยไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าเป็นไปตามนโยบายการสนับสนุนมาตรฐานเปิด ดังที่ก่อนหน้านี้เข้าไปช่วยพัฒนา Model Context Protocol (MCP) ของ Anthropic มาแล้ว
ไมโครซอฟท์จะรองรับ A2A ในบริการ Azure AI Foundry และ Copilot Studio ในเร็วๆ นี้
กูเกิลเปิดเผยว่า Chrome เริ่มนำเอาโมเดล Gemini Nano มาช่วยตรวจสอบเว็บปลอม-เว็บหลอกลวง (scam) แบบ on-device เพิ่มเติมจากการตรวจสอบ Safe Browsing ที่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์อย่างเดียว
ฟีเจอร์นี้ไม่ได้ใช้ Gemini Nano ทำงานแบบ on-device ล้วนๆ แต่เป็นการผสมผสานกันกับฝั่งเซิร์ฟเวอร์ โดย Gemini Nano จะอ่านข้อมูลหน้าเว็บแล้วส่งสัญญาณไปยังเซิร์ฟเวอร์ Safe Browsing เพื่อช่วยประเมินเว็บหลอกหลวงให้แม่นยำมากขึ้น
กูเกิลบอกว่าเว็บหลอกลวงรุ่นใหม่ๆ มักเปิดมาเป็นเวลาสั้นๆ น้อยกว่า 10 นาที แถมยังเรนเดอร์หน้าเพจให้ผู้ใช้แต่ละคนต่างกันเพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ดังนั้นการนำโมเดล LLM มาช่วยประเมินความเสี่ยงแบบ on-device ของเว็บแบบเดียวกับที่ผู้ใช้มองเห็น จึงช่วยบล็อคเว็บประสงค์ร้ายเหล่านี้ได้แม่นยำขึ้น
กูเกิลออกมาแถลงโต้ข่าว Eddy Cue ผู้บริหาร Apple บอกปริมาณการค้นหาใน Google ผ่าน Safari ลดลงเป็นครั้งแรก
กูเกิลบอกว่าปริมาณการค้นหาจากแพลตฟอร์มของแอปเปิล (total queries coming from Apple’s devices and platforms) เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับปริมาณการค้นหาในภาพรวมที่เติบโตขึ้น (ใช้คำว่า overall query growth)
นอกจากนี้ กูเกิลบอกว่าผู้ใช้ยังหันมาค้นหาด้วยวิธีใหม่ๆ เช่น การค้นหาด้วยเสียง หรือด้วยภาพผ่าน Google Lens และจะแชร์ข่าวนวัตกรรมใหม่ๆ ของ Search ในงาน Google I/O วันที่ 20 พฤษภาคม
Eddy Cue รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจบริการของแอปเปิล ให้การต่อศาลในคดีพิจารณาแผนเยียวยาตลาดที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องชนะกูเกิล เรื่องผูกขาดธุรกิจค้นหาข้อมูล (Search)
ความสัมพันธ์ของแอปเปิลกับกูเกิลที่สำคัญนั้น คือการมีระบบค้นหาของกูเกิลกำหนดไว้เป็นค่าเริ่มต้นใน Safari ซึ่งกูเกิลให้ส่วนแบ่งโฆษณากับแอปเปิล คิดเป็นรายได้ของแอปเปิลส่วนนี้ต่อปีถึงระดับ 2 หมื่นล้านดอลลาร์
ประเด็นสำคัญที่ Cue เปิดเผยในศาลมีดังนี้
กูเกิลอัพเดตโมเดล Gemini 2.5 Pro เป็นเวอร์ชั่น 05-06 (6 พฤษภาคม) โดยชูประเด็นสำคัญคือมันทำคะแนนทดสอบด้านการเขียนเว็บ หรือ WebDev Arena เอาชนะ Claude 3.7 ได้เป็นตัวแรก นับแต่แยกหมวดหมู่มา แถมยังชนะค่อนข้างขาดด้วยคะแนน ELO 1420
ทางกูเกิลระบุว่าตั้งใจจะเปิดตัวโมเดลเวอร์ชั่นนี้ในงาน Google I/O ที่กำลังจะจัดปลายเดือนนี้ แต่เปลี่ยนใจปล่อยออกมาทันทีเลยให้ใช้กันก่อนงาน
WebDev Arena เป็นบริการทดสอบปัญญาประดิษฐ์แบบเทียบกันตัวต่อตัว โดยผู้ใช้สามารถสั่งทำเว็บแบบต่างๆ ใน sandbox ได้ค่อนข้างอิสระ บริการนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2024 และ Claude ก็นำมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงแรกที่นำโดย Claude 3.5 และภายหลังก็นำโดย Claude 3.7
จากที่มีคนค้นพบ UI ใหม่ของ Android 16 ที่ปิดการทำงานไว้ ล่าสุดกูเกิลเองเป็นฝ่ายเผลอโพสต์เนื้อหาบนบล็อก Google Design ก่อนกำหนด (เอาลงในภายหลัง) แต่ก็ไม่รอด มีคนเซฟภาพและวิดีโอเก็บไว้ทัน
UI แบบใหม่ใช้ชื่อว่า Material 3 Expressive แนวคิดของมันคือ expressive design ผลักดันให้แอพแสดงตัวตนของตัวเองออกมามากกว่าที่เคย เพื่อแก้ปัญหาแอพในยุคสมัยนี้หน้าตาซ้ำๆ เหมือนกันไปหมด
Eric Muhlheim ซีเอฟโอของ Mozilla ไปขึ้นศาลในฐานะพยานของ คดีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องกูเกิลผูกขาด Search มีประเด็นดังนี้
กูเกิลเตรียมเพิ่มบริษัทแชทบอต AI Gemini ให้กับผู้ใช้งานเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี ซึ่งมีบัญชีผู้ปกครองดูแลอยู่ผ่าน Family Link ในสัปดาห์หน้า โดยกูเกิลส่งอีเมลแจ้งการเพิ่มบริการนี้ไปยังผู้ปกครองของเด็ก
ตัวแทนของกูเกิลให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กได้กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งบอกว่าข้อมูลที่เด็กใช้งานจะไม่ถูกรวบรวมเพื่อฝึกฝน AI ต่อ
Google Search มีฟีเจอร์ทดลองชื่อ AI Mode ค้นหาแบบถามตอบกับ AI (เหมือนกับ Perplexity) โดยเริ่มเปิดบริการกับลูกค้า Google One AI Premium มาตั้งแต่เดือนมีนาคม
ล่าสุดกูเกิลเปิดบริการ AI Mode ให้กับผู้ใช้ทุกคนในสหรัฐ โดยต้องไปเปิดใช้เองใน Google Labs
กูเกิลนำแอพ NotebookLM เวอร์ชัน Android และ iOS ขึ้นสโตร์แล้ว แต่ยังไม่เปิดให้ดาวน์โหลด โดยต้องรอวันเปิดตัวในงาน Google I/O 2025 วันที่ 20 พฤษภาคม
NotebookLM ถือเป็นแอพใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของกูเกิลในช่วงหลัง สามารถใช้พลัง AI ช่วยดึงข้อมูลต่างๆ มาสรุปเป็นบันทึก และแปลงเป็นไฟล์เสียงในรูปแบบการสนทนาเหมือน podcast ได้ด้วย
แอพ NotebookLM มีทั้งเวอร์ชันสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ปรับให้เหมาะกับจอใหญ่ของ iPad และแท็บเล็ตสาย Android
9to5google แจ้งข่าวว่า กูเกิลเริ่มปล่อยอัพเดตฟีเจอร์ Home Panel ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในบ้าน ให้กับ Chromecast with Google TV และสมาร์ททีวี Google TV แล้ว
ฟีเจอร์นี้มีมาก่อนใน Google TV Streamer อุปกรณ์ที่มาแทน Chromecast ในปี 2024 และตอนนี้เริ่มทยอยปล่อยให้ฮาร์ดแวร์อื่นบนแพลตฟอร์ม Google TV นั่นคือ สมาร์ททีวี และ Chromecast with Google TV
ฟีเจอร์ Home Panel ช่วยให้เราสั่งงานอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในบ้านที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Google Home ได้จากทีวีโดยตรง เช่น เปิด-ปิดไฟ, ปรับอุณหภูมิแอร์, ดูภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นต้น
วันเดียวกับที่ Duolingo เปิดตัวหลักสูตรสอนภาษาที่สร้างด้วย AI กูเกิลก็เปิดตัว Little Language Lessons เว็บแอพสำหรับสอนภาษาแบบง่ายๆ เร็วๆ (สไตล์ Duolingo นั่นแหละ) ที่สร้างด้วย Gemini ทั้งหมด
Little Language Lessons เป็นชุดเว็บแอพสอนภาษาแบบง่ายๆ เร็วๆ (bite-sized learning experiments) จำนวน 3 ตัว ได้แก่
กูเกิลเพิ่มความสามารถให้แชทบอต Gemini สามารถแก้ไขรูปภาพได้ตาม prompt ที่กำหนด รองรับทั้งรูปภาพที่สร้างขึ้นจาก AI และรูปภาพที่ผู้ใช้งานอัปโหลดเข้ามา ซึ่งฟีเจอร์นี้กูเกิลทดสอบไปก่อนหน้าแล้วในแพลตฟอร์ม AI Studio สำหรับนักพัฒนา
กูเกิลบอกว่าผู้ใช้งานสามารถป้อนคำสั่ง เช่น ลบหรือเปลี่ยนฉากหลัง, เพิ่มวัตถุในรูป หรือองค์ประกอบอื่นที่ต้องการ โดยฟีเจอร์นี้เริ่มทยอยอัปเดตให้ผู้ใช้ Gemini ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รองรับมากกว่า 45 ภาษา และในหลายประเทศทั่วโลกภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
กูเกิลบอกว่าความสามารถแก้ไขรูปภาพนี้สามารถทำงานแบบทีละขั้น ทำให้ลงรายละเอียดปลีกย่อยในการแก้ไขได้ดี รูปภาพทั้งหมดที่สร้างขึ้นจะถูกฝังลายน้ำ SynthID ตามมาตรฐานรูปที่ถูกสร้างจาก AI
ผลการทดสอบโดย Google ในสหราชอาณาจักร พบว่า AI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมาก จากการทดลองให้พนักงานลองใช้ AI และฝึกอบรมเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็สามารถเพิ่มอัตราการนำ AI มาใช้เป็นสองเท่า
นอกจากนี้ Google บอกว่า พนักงานส่วนใหญ่ไม่เคยใช้ AI มาก่อน โดยเฉพาะผู้หญิงสูงวัยจากกลุ่มรายได้ต่ำ บางคนไม่แน่ใจว่าใช้แล้วจะ "ถูกต้อง" หรือ "ยุติธรรม" หรือเปล่า
แต่เมื่อได้รับการอนุมัติ และฝึกสอนเล็กน้อย พวกเขาก็เริ่มใช้งาน AI มากขึ้น และสามารถประหยัดเวลาในการทำงานเอกสารไปได้เฉลี่ยปีละ 122 ชั่วโมง
กูเกิลประกาศว่าฟีเจอร์ Audio Overview ใน NotebookLM ที่สร้างไฟล์เสียงแบบรายการพอดคาสต์ที่มีผู้จัดรายการสองคนสนทนากัน รองรับเพิ่มเติมมากกว่า 50 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย
ผู้ใช้งานสามารถอัปโหลดเนื้อหาเพื่อให้ NotebookLM สร้างไฟล์เสียงออกมาตามภาษาที่กำหนดไว้ของบัญชีกูเกิล หรือเลือกภาษาอื่นที่ต้องการเองได้ (Settings > Output Language) ทั้งหมดรองรับเนื้อหาเริ่มต้นจากภาษาอื่นด้วยเช่นกัน เพราะตัว NotebookLM ที่สรุปเนื้อหาจากเอกสารรองรับอยู่แล้วมากกว่า 200 ภาษา
สามารถใช้งาน Audio Overview ได้แล้วที่ notebook.google
หลังจาก Google I/O 2024 ปีที่แล้ว เทเวลาทั้งหมดให้กับข่าวสาร AI จนไม่มีประกาศใดๆ ของ Android บนเวทีหลักเลย ล่วงเลยมาจนมาถึงปีนี้ กูเกิลแก้ปัญหานี้ด้วยการจัดงานแยกมันซะเลย
งาน Android ของปีนี้จะใช้ชื่อว่า The Android Show: I/O Edition จัดวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 หรือ 1 สัปดาห์ก่อนงานใหญ่ Google I/O 2025 วันที่ 20 พฤษภาคม โดยผู้นำเสนอหลักในงานคือ Sameer Samat ประธานฝ่าย Android Ecosystem ที่ขึ้นเวทีนำเสนอเรื่อง Android ในงาน Google I/O ปีหลังๆ
กูเกิลมีเครือข่ายตามหาของ Find My Device เริ่มเปิดในปี 2024 แต่ผลการทดสอบในช่วงแรกๆ ออกมาแย่มาก แพ้เครือข่าย AirTag ของแอปเปิลแบบขาดลอย
เนื่องในโอกาสครบปีแรกของเครือข่าย Find My Device เว็บไซต์ The Verge จึงทดสอบด้วยการส่งแท็ก 3 ยี่ห้อที่ใช้เครือข่ายของกูเกิลคือ Pebblebee, Chipolo, Motorola ร่วมกับสินค้าค่ายอื่นได้แก่ AirTag ของแอปเปิล และ Tile ของ Life360 เพื่อดูว่าแท็กตามรอยยี่ห้อไหนใช้งานดีที่สุด
Parisa Tabriz ผู้จัดการธุรกิจ Chrome ของกูเกิล ให้การในชั้นศาลในคดีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ฟ้องกูเกิลผูกขาด Search และเสนอให้แยก Chrome เป็นบริษัทใหม่ ซึ่งมีผู้สนใจซื้อหลายราย
ข้อโต้แย้งของ Tabriz คือ Chrome ไม่ได้มีแต่ตัวเบราว์เซอร์ แต่ยังผูกกับบริการอื่นของกูเกิล เช่น Safe Browsing, ระบบแจ้งเตือนหากพบว่ารหัสผ่านถูกเจาะ ฯลฯ ซึ่ง Tabriz บอกว่ามีแต่กูเกิลเท่านั้นที่สามารถสร้างบริการในระดับนี้ได้
กูเกิลประกาศหยุดซัพพอร์ต Nest Learning Thermostat ที่เป็น Gen 1 (ขายปี 2011) และ Gen 2 (ขายปี 2012) มีผลวันที่ 25 ตุลาคม 2025
หลังการหยุดซัพพอร์ตแล้ว Nest Thermostat จะไม่ได้อัพเดตใดๆ อีก ไม่สามารถควบคุมผ่านแอพ Nest ในสมาร์ทโฟนหรือผ่าน Google Assistant ได้ แต่ยังใช้งานได้ต่อไปด้วยการควบคุมที่ตัวเครื่องโดยตรง
สินค้ากลุ่ม Nest Thermostat ยังวางขายอยู่ รุ่นล่าสุดคือ Gen 4 เพิ่งเปิดตัวในปี 2024 โดยกูเกิลออกคูปองส่วนลด 130 ดอลลาร์ให้ลูกค้าเก่าสามารถซื้อ Gen 4 มาใช้ทดแทนได้ถ้าต้องการ
ประเด็นน่าสนใจจากห้องไต่สวนคดี Google Search ผูกขาดตลาด ที่กระทรวงยุติธรรมเสนอให้แยก Chrome เป็นบริษัทใหม่
ก่อนหน้านี้เราเห็นข่าวว่าคู่แข่งทั้ง OpenAI และ Perplexity บอกว่าถ้าแยกจริงก็ยินดีเสนอซื้อ แต่ไม่บอกว่าราคาเท่าไร
มีประเด็นเพิ่มเติมจากผลประกอบการ Alphabet บริษัทของกูเกิลในไตรมาสล่าสุด ซึ่งรายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เป็น 90,234 ล้านดอลลาร์ แต่กำไรสุทธินั้นเพิ่มสูงขึ้นมากถึง 46% เนื่องจากมีการบันทึกกำไรพิเศษเข้ามา
Alphabet บอกว่าบริษัทมีกำไร-ค่าใช้จ่ายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมหลักของบริษัท (Other income & expense) ในไตรมาสที่ผ่านมาสุทธิ 11,183 ล้านดอลลาร์ โดยมีกำไรที่ยังไม่รับรู้จากการลงทุนในบริษัทนอกตลาดหุ้นแห่งหนึ่ง 8.0 พันล้านดอลลาร์
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2025 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนเป็น 90,234 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 34,540 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทบอกว่าการเติบโตมาจากทั้ง Google Search, โฆษณา YouTube, รายได้ส่วน Subscription กับฮาร์ดแวร์ และ Google Cloud
รายได้เฉพาะส่วนบริการของ Google (โฆษณา, ฮาร์ดแวร์ และ Subscription) เพิ่มขึ้น 10% เป็น 77,264 ล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงานเฉพาะส่วนนี้ 32,682 ล้านดอลลาร์, Google Cloud รายได้เพิ่มขึ้น 28% เป็น 12,260 ล้านดอลลาร์ มีกำไรจากการดำเนินงาน 2,177 ล้านดอลลาร์
Google ออกมาตรการให้พนักงานที่ Work From Home กลับเข้าออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ไม่งั้นอาจเสี่ยงถูกเลิกจ้าง บางทีมถึงขั้นให้ทางเลือกระหว่างเปลี่ยนมาทำงานแบบไฮบริด (พร้อมเงินช่วยเหลือสำหรับย้ายที่อยู่ ถ้าอาศัยอยู่ไม่เกิน 50 ไมล์จากออฟฟิศ) หรือรับแพ็กเกจลาออกโดยสมัครใจ
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแนวโน้มที่บริษัทต่าง ๆ เริ่มลดการทำงานทางไกล โดยเฉพาะในวงการเทคโนโลยี ซึ่งให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกันแบบเจอหน้ามากขึ้น
Google กำลังปรับตัวด้วยการลดต้นทุน และลงทุนหนักขึ้นใน AI เหมือนที่ Sergey Brin ผู้ร่วมก่อตั้ง Google เคยบอกทีม Gemini ให้ทำงานสัปดาห์ละ 60 ชั่วโมงในออฟฟิศ เพิ่มให้ประสิทธิภาพสูงสุด
Perplexity เป็นอีกบริษัทที่เข้าร่วมการไต่สวนเรื่องมาตรการเยียวยา ที่กูเกิลแพ้คดีผูกขาดธุรกิจ Search ซึ่งกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ โจทก์ยื่นฟ้อง และได้เสนอให้ศาลสั่งกูเกิลแยกธุรกิจ Chrome ออกมา
Dmitry Shevelenko บอกว่ามีความเสี่ยงหากมีคำสั่งให้แยก Chrome ออกจากกูเกิล โดยมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อโครงการโอเพนซอร์ส Chromium ที่เจ้าของใหม่อาจหารายได้จากตรงนี้ ส่งผลเสียต่อวงการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์ โดย Perplexity ต้องการให้ศาลห้ามกูเกิลทำข้อตกลงผูกขาดบริการค้นหาข้อมูลกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมากกว่า
เรารู้กันดีว่า ChatGPT ได้รับความนิยมมากกว่า Gemini อยู่มากพอสมควร (เหตุผลข้อหนึ่งเพราะมาก่อนใคร) แต่ไม่มีใครรู้ตัวเลขว่ามากแค่ไหน
ข้อมูลล่าสุดจาก ห้องไต่สวนคดีผูกขาด Search (อันเดียวกับ กูเกิลจ่ายเงินเยอะมากให้ซัมซุงพรีโหลด Gemini) กูเกิลเปิดเผยสถิติผู้ใช้ Gemini ต่อศาลดังนี้
ข้อมูลนี้นับถึงเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากข้อมูลเดิมที่กูเกิลเคยเปิดเผยต่อศาลในเดือนตุลาคม 2024 ว่ามี 9 ล้าน DAU และ 90 ล้าน MAU