วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีงานแถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือนพฤษภาคม โดยภาพรวมเป็นการติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากเหตุ COVID-19 ที่การส่งออกฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในแถลงมีประเด็นชิปขาดแคลน ทำให้ดัชนีการผลิตสำหรับฮาร์ดิสก์ในประเทศไทยตกต่ำลงอย่างหนัก
นอกจากประเด็นการผลิตฮาร์ดดิสก์ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังติดตามสถิติจาก Google Mobility ที่แสดงความพื้นตัวของเศรษฐกิจ มีการเดินทางมากขึ้น
ประเด็นชิ้นส่วนขาดแคลนเป็นประเด็นที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าต้องติดตามสถาณการณ์ ไปพร้อมๆ กับปัญหาเงินเฟ้อ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการ
กระทรวงกิจการสื่อสารภายในของญี่ปุ่น (The Internal Affairs and Communications Ministry) ลงนามข้อตกลงกับสององค์กรรัฐบาลไทย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านไอซีที ข้อตกลงหนึ่ง ญี่ปุ่นทำกับ กสทช. เพื่อวัตถุประสงค์ในการแลกเปลี่ยน ส่วนข้อตกลงอีกฉบับหนึ่งทำกับกระทรวงใหม่หรือกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อวัตถุประสงค์ในการบริหารความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ภัยจากไซเบอร์ และการบริการทางไปรษณีย์
นายพรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือกระทรวงไอซีที เปิดเผยว่าตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ได้กำหนดนโยบายให้วางรากฐานเศรษฐกิจของประเทศสู่ ดิจิตอล อีโคโนมี (Digital Economy) เพื่อรองรับการขยายตัวของประเทศในทุกด้านทั้ง เกษตร การเงิน การค้าและบริการ ซึ่งเป็นแนวทางเหมือนกับในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ฉะนั้นภารกิจของกระทรวงก็จะมีเพิ่มมากขึ้น และต้องมีการปรับโครงสร้างของกระทรวง
งานวิจัยล่าสุดจาก Piper Jaffray เผยว่าวัยรุ่นยุคนี้แสดงสถานะทางสังคมของตัวเองผ่านการ "กินข้าวนอกบ้าน" และการใช้อุปกรณ์ไอที ในขณะที่แฟชั่นการแต่งกาย ซึ่งเคยเป็นสิ่งที่วัยรุ่นนิยมใช้ในการแสดงสถานะทางสังคมกลายเป็นสิ่งไม่สำคัญ
ในปีที่ผ่านมา ร้อยละ 33 ของรายจ่ายของวัยรุ่นจะหมดไปกับการกินข้าวนอกบ้าน และการทำกิจกรรมนอกบ้านอย่างการไปดูหนังฟังเพลงและการไปปาร์ตี้ มากกว่าการเลือกซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ซึ่งตอนนี้นับเป็นร้อยละ 21 ของรายจ่ายของวัยรุ่น แต่ที่สำคัญกว่าคือการช้อปปิ้งของวัยรุ่นสมัยนี้ คือการไปดูสินค้าไอที มากกว่าการไปดูเสื้อผ้า