วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีงานแถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือนพฤษภาคม โดยภาพรวมเป็นการติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยหลังจากเหตุ COVID-19 ที่การส่งออกฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในแถลงมีประเด็นชิปขาดแคลน ทำให้ดัชนีการผลิตสำหรับฮาร์ดิสก์ในประเทศไทยตกต่ำลงอย่างหนัก
นอกจากประเด็นการผลิตฮาร์ดดิสก์ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังติดตามสถิติจาก Google Mobility ที่แสดงความพื้นตัวของเศรษฐกิจ มีการเดินทางมากขึ้น
ประเด็นชิ้นส่วนขาดแคลนเป็นประเด็นที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าต้องติดตามสถาณการณ์ ไปพร้อมๆ กับปัญหาเงินเฟ้อ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและบริการ
ที่มา - Facebook: Bank of Thailand
Comments
เอาจริงๆอีกสาเหตุนึงคือตอนนี้โลกกำลังเปลี่ยนผ่านมาเป็น flash storage ด้วยทำให้ความต้องการ hard drive ลดลงครับถ้าไทยไม่สามารถเปลี่ยนผ่านตัวเองได้ก็จบ
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
มันมีงานที่ควรจะเป็นแค่ HDD จานหมุนอยู่ครับ
SSD ไม่ใช่ทุกอย่างนะ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร มันก็ยังมีพื้นที่อยู่อีกนาน
แต่มันก็ไม่ใช่อนาคตแล้ว บางทีอาจจะยุบรวมไปอยู่แถว ๆ เวียดนามก็เป็นได้
จริง
ยิ่งถ้าตลาด consumer โดน ssd รวบไป
จะยิ่งมีปัญหาต้นทุนต่อชิ้นสูงขึ้นเพราะ economy of scale หาย
จะยิ่งลำบาก
ฝั่ง client นี่จบแล้วครับ มีแต่ถดถอย แต่ฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ใช้ในงานพวกช้าๆ ทั้งหลายงาน archive ระยะยาว (รวมถึงวงจรปิด) ยังใช้กันเยอะมาก รวมๆ เขายังหวังว่าจะเติบโตอยู่
lewcpe.com, @wasonliw
+1 ยืนยันว่า ssd ยังมาแทนที่พวกที่ต้องการความจุสูงๆ แต่ไม่ได้ต้องการประสิทธิภาพสูงมากได้ในระยะสั้น (5 ปี) นี้ครับ ซึ่งข้อมูลพวกนี้มีมหาศาลมาก และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มันคือข้อมูลประเภทที่ต้องการ "เก็บ" ยาวนาน แต่แทบไม่มีการเรียกใช้งานเลย เช่นพวก log และ video กล้องวงจรปิดอะไรพวกนี้
จนกว่า ssd จะราคาต่อพื้นที่ถูกเท่า harddisk ยังไง harddisk (ที่ความจุสูงมากๆ) ก็ยังไม่ตายครับ...
มันก็ใช่ครับ แต่ปัญหาสำคัญของ SSD คือมันยังมี Life cycle ที่น้อยกว่า HDD อยู่พอสมควร หากมีการอ่านและเขียนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง
แล้วเวลาเสีย จะกู้ข้อมูลได้ยากกว่า HDD ด้วยซ้ำ เพราะ SSD จะเก็บข้อมูลอยู่ใน Memory Chip ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลด้วยสัญญาณไฟฟ้าในตัว Chip เอง ที่มีโอกาสเสียแล้วไม่สามารถอ่านข้อมูลหรือกู้กลับมาได้อีก รวมทั้งตัว Chip ก็อยู่บน board เดียว ร่วมกับ Controller, DRAM และชิ้นส่วนอื่นๆ ก็ยังมีความเสี่ยงเรื่องไฟฟ้าซ็อต ไฟกระชาก ไฟฟ้าสถิต และบอร์ดลัดวงจรที่ส่งผลให้ตัว SSD เสียทั้งหมดได้เช่นกัน ยิ่ง SSD ตัวถูก จะเสี่ยงพังเร็วพอสมควร
แต่ HDD ที่เก็บข้อมูลบนจานหมุน ยังจะสามารถหาทางกู้ข้อมูลได้อยู่หลายวิธี ทั้งเปลี่ยน controller board รวมถึงการโอนถ่ายจานข้อมูลไปใส่ใน HDD หรือตัวอ่านจานหมุนสำหรับกู้ข้อมูลโดยเฉพาะ แม้ว่าจะมีโอกาสที่จานหนุนแตกหรือเป็นรอยขีดข่วน แต่ว่าการกู้ข้อมูลจาก HDD นั้นยังยืดหยุนและทำได้ง่ายกว่า Chip ใน SSD อยู่
รวมทั้งการที่ตัวชิ้นส่วนของ HDD จานหนมุนยังอยู่แยกจากกัน ทั้งหัวอ่าน, ตัว Controller, motor และตัวจ่ายไฟ ก็ยังลดความเสี่ยงในตัวมันเองด้วย โดยเฉพาะจากการลัดวงจร หรือไฟกระชาก
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
จริงอยู่ครับ เรื่อง recovery กับ endurance/TBW ที่เป็นประเด็น
แต่ตลาด mass / consumer น่าจะไม่ concern เรื่องพวกนี้เท่าไหร่ครับ
เอาความเร็วเข้าว่าอยู่แล้ว หลายๆคนน่าจะไม่รุ้ด้วยซ้ำว่า endurance คืออะไร และไม่ได้สนใจด้วย
Consumer ตายจริงครับ แทบไม่เหลือ ตลาดพวก capacity ต่ำๆ ก็เป็นพวกกล้องวงจรปิดเสียมากกว่า แต่ยอดขายหลัก ยอดผลิตหลักทุกวันนี้เป็นพวก server มากกว่า พวกนี้ยังคงต้องการ HDD Capacity ความจุเยอะจัดๆ ต่อตัวเหมือนเดิม และมากกว่าเดิมจากตลาด cloud ด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น ยอด ship qty ของประเทศเราก็ลดลงอยู่เพราะ แต่ยอด ship ถ้าเทียบเป็น capacity คงมากขึ้น
consumer น่าจะเหลือใน NAS อยู่นะครับ
แต่ก็น้อยอยู่ดี
ตอนนี้ก็ยังโอเคอยู่ในด้านราคา ใครเงินเยอะก็ตุนๆไว้บ้าง กลัวราคาขึ้น
TB ละ 600 ก็มี ช่วงลดเยอะๆหน่อย TB ละ 500
ตอยนี้ SSD ราคาลงแล้วนะครับ
ผมเอา HDD 8TBx2 มาใช้กับ NAS RAID 1 วิ่ง บนสายแลน 1-2Gbps กับราคา 16,000 บาท ก็เพียงพอ
ถ้าเป็น SSD ราคาทะลุโลกไปเลย เร็วจริง แต่ต้นทุนสูงเกินไปสำหรับงานภายในบ้าน หรือแม้แต่ SME
หลายแบรนด์ ขนาดLaptopตัวประหยัด ยังเลิกใช้hddแบบจานหมุนแล้ว
คนใช้หลักๆคงเหลือแค่ ลูกค้าองค์กร กับ กล้องวงจรปิดแค่นั้น
คนที่บอกให้ ไป SSD ผมว่าไปอ่านดี
HDD ยอดผลิตต่ำ เพราะขาดแคลนชิป
ลืมไปหรือเปล่า SSD มันคือชิปทั้งดุ้น ยิ่งกว่าขาดอีกครับ
ขนาด Notebook ตัวเริ่มต้นหมื่นนิดๆ ก็เปลี่ยนมาเป็น SSD กันหมดแล้วก็ไม่น่าแปลกใจที่สุดส่วน HDD จะค่อยๆน้อยลง
ส่วนตัวผมยังคงใช้เป็นคนที่ใช้งานแบบ hybrid solution มากกว่า และยังมองว่า hard drive เป็นการจัดเก็บข้อมูลที่ reliable มากกว่า SSD อยู่ แต่ด้วยความเร็วที่สูงกว่าของ SSD ทำให้ตลาด consumer เลือกที่จะใช้ SSD เป็นหลัก
อย่างคอมประกอบของผม (ที่ยังไม่เรียบร้อยดี) ตอนนี้ แม้ไดรฟ์ C:\ ใช้บน NVMe SSD ส่วนไดรฟ์ D:\ เป็น SATA SSD (ของเก่าเอามาใช้ใหม่) และไดรฟ์ E:\ ที่ใช้เป็นฮาร์ดดิสก์อยู่ ประสิทธิภาพถือว่าดีกว่าเดิมเยอะครับ เพราะอย่างน้อยมันมีพื้นที่จัดเก็บแบบ 3 tiers คือ
เรียกว่า Best of All Worlds เลยก็ว่าได้ และบังคับให้มีการ backup ตลอด เพราะกลัวข้อมูลหาย อย่างไรก็ตาม ฝั่ง consumer ปกติเขาสนแค่ว่าอยากได้เร็ว ๆ ซึ่ง SSD เองก็ตอบโจทย์ตรงนี้ แม้มีข้อจำกัดเรื่องราคาของมันก็ตาม
ส่วนตัวผม ถ้าให้ซื้อเพิ่ม ก็คงจะซื้อเป็น NVMe SSD อีกตัว (แบบเร็ว ๆ เลย) กับ NAS-grade HDD เอาไว้สำหรับแบคอัปล้วน ๆ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
คนขุด chia บอกให้ซื้อกับพวกตูนี่ ทางนี้ขาดทุนยับแล้ว
HDD พร้อม bad จาก CHIA
เหมือนๆกับการ์ดจอ mem พร้อมพัง จากการขุด BTC
😅😅😅
Intel Optane Memory ไม่ได้ขี้เหล่เลยแต่ไม่ยอมใช้กันปลอดภัยกับข้อมูลกว่าด้วย